ความคืบหน้า การซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน - 18 ธันวาคม 2565 ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยยังรอฟีฟ่า ตอบกลับราคาลิขสิทธิ์บอลโลก ปัดข่าวลือได้เอกชนร่วมหนุนครบ 1,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.65 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังจากเจรจารอบล่าสุด กับตัวแทนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในช่วงค่ำวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า การเจรจายังคงดำเนินต่อไปตามขั้นตอน หลังจากเราได้ส่งหนังสือแจ้งไปแล้วว่าเรามีงบประมาณที่มีจำกัดแบบนี้ ขอให้เขาพิจารณาทบทวนลดราคาลง ถึงขณะนี้ก็ยังคงรอการตอบกลับของฟีฟ่าว่าจะไปในทิศทางใด ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาซักระยะ เพื่อให้ทางฟีฟ่าได้หารือกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฟีฟ่าจะตอบมาแบบใดเราก็ต้องมีแผนสองรับมือแน่นอน
เรื่องของตัวเงินและแพคเกจที่ส่งให้ฟีฟ่าพิจารณานั้น ตอนนี้ยังเปิดเผยมากไม่ได้ว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง เนื่องจากกลัวว่าจะไปกระทบต่อการพิจารณาของฟีฟ่า ต้องรอความชัดเจนจากฟีฟ่าก่อน ทั้งนี้ เรายื่นข้อเสนอไปหลายแบบ หลายตัวเลือก เพื่อให้ฟีฟ่าได้พิจารณา โดยเรามองถึงผลประโยชน์ของประเทศมาเป็นอันดับแรกแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ภาคเอกชน 5 ราย เข้ามาสนับสนุนลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รายละ 200 ล้านบาท ครบ 1,000 ล้านบาท เรียบร้อยแล้วนั้น ดร.ก้องศักด ตอบถึงประเด็นนี้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตอนนี้ยืนยันได้ว่าเรายังไม่มีภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนเงินขนาดนั้น แต่ขั้นตอนต่าง ๆ กำลังดำเนินไป รวมถึงขั้นตอนของการเร่งดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
นอกจากนี้ มีรายงานข่าวว่า งบประมาณจากภาคเอกชนที่เปิดเจรจาขอรับการสนับสนุนไปนั้น ตอนนี้มีตอบรับปากเปล่ามาแล้ว 3 บริษัทเอกชน ประกอบด้วย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะให้เงินราว 400 ล้านบาท หรืออาจดันตัวเลขไปได้ถึง 500 ล้านบาท เมื่อรวมกับงบประมาณที่ได้รับจาก กสทช. จะมีเงินอยู่ในมือในการเจรจากับทางฟีฟ่าประมาณ 1,000-1,100 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่เพียงพออยู่ดี
ขณะเดียวกันยังรอคำตอบอีก 2 บริษัท คือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.)
ขณะที่ บริษัท อินฟรอนท์ฯ ยืนยันตัวเลขขอลดราคารอบสองไว้ที่ราคา 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งยังขาดอยู่อีกราว 100 ล้านบาท ไม่รวมค่าภาษี หรือค่าบริหารจัดการอื่น ๆ เวลานี้มีทางเลือก 2 ทาง คือ ยอมจ่ายลิขสิทธิ์เต็มจำนวน 1,600 ล้านบาท กรณีที่เอเยนต์ฟีฟ่าไม่ยอมลดราคา หรือ ประเทศไทยไม่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022
Credit:
https://ch3plus.com/news/sport/weekend/320066?fbclid=IwAR2KX8kPfLZYdV91bCq3nJLRDd01FJ-KRAe3nFBixtH7BOlN0IZYA-In7zU 
ลุ้นดูบอลโลก! ‘ก้องศักด’ เผยยังรอฟีฟ่า ตอบกลับราคาลิขสิทธิ์ - เปิดชื่อ 3 บริษัท รับปากร่วมลงขัน
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.65 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังจากเจรจารอบล่าสุด กับตัวแทนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในช่วงค่ำวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า การเจรจายังคงดำเนินต่อไปตามขั้นตอน หลังจากเราได้ส่งหนังสือแจ้งไปแล้วว่าเรามีงบประมาณที่มีจำกัดแบบนี้ ขอให้เขาพิจารณาทบทวนลดราคาลง ถึงขณะนี้ก็ยังคงรอการตอบกลับของฟีฟ่าว่าจะไปในทิศทางใด ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาซักระยะ เพื่อให้ทางฟีฟ่าได้หารือกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฟีฟ่าจะตอบมาแบบใดเราก็ต้องมีแผนสองรับมือแน่นอน
เรื่องของตัวเงินและแพคเกจที่ส่งให้ฟีฟ่าพิจารณานั้น ตอนนี้ยังเปิดเผยมากไม่ได้ว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง เนื่องจากกลัวว่าจะไปกระทบต่อการพิจารณาของฟีฟ่า ต้องรอความชัดเจนจากฟีฟ่าก่อน ทั้งนี้ เรายื่นข้อเสนอไปหลายแบบ หลายตัวเลือก เพื่อให้ฟีฟ่าได้พิจารณา โดยเรามองถึงผลประโยชน์ของประเทศมาเป็นอันดับแรกแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ภาคเอกชน 5 ราย เข้ามาสนับสนุนลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รายละ 200 ล้านบาท ครบ 1,000 ล้านบาท เรียบร้อยแล้วนั้น ดร.ก้องศักด ตอบถึงประเด็นนี้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตอนนี้ยืนยันได้ว่าเรายังไม่มีภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนเงินขนาดนั้น แต่ขั้นตอนต่าง ๆ กำลังดำเนินไป รวมถึงขั้นตอนของการเร่งดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
นอกจากนี้ มีรายงานข่าวว่า งบประมาณจากภาคเอกชนที่เปิดเจรจาขอรับการสนับสนุนไปนั้น ตอนนี้มีตอบรับปากเปล่ามาแล้ว 3 บริษัทเอกชน ประกอบด้วย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะให้เงินราว 400 ล้านบาท หรืออาจดันตัวเลขไปได้ถึง 500 ล้านบาท เมื่อรวมกับงบประมาณที่ได้รับจาก กสทช. จะมีเงินอยู่ในมือในการเจรจากับทางฟีฟ่าประมาณ 1,000-1,100 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่เพียงพออยู่ดี
ขณะเดียวกันยังรอคำตอบอีก 2 บริษัท คือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.)
ขณะที่ บริษัท อินฟรอนท์ฯ ยืนยันตัวเลขขอลดราคารอบสองไว้ที่ราคา 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งยังขาดอยู่อีกราว 100 ล้านบาท ไม่รวมค่าภาษี หรือค่าบริหารจัดการอื่น ๆ เวลานี้มีทางเลือก 2 ทาง คือ ยอมจ่ายลิขสิทธิ์เต็มจำนวน 1,600 ล้านบาท กรณีที่เอเยนต์ฟีฟ่าไม่ยอมลดราคา หรือ ประเทศไทยไม่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022