YGG หรือ บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด คือบริษัทให้บริการจัดทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเกี่ยวกับงานโฆษณา,มิวสิคและภาพยนต์,แอนนิเมชั่น,งานเกมส์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2552 โดย นายธนัช จุวิวัฒน์ และ นายศรุต ทับลอย และเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2562 บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด ได้จดบริษัทใหม่เป็น บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) โดยชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า YGG
มาเข้าเรื่องเลย ช่วงนี้ทุกคนอาจเห็นข่าวว่า YGG กำลังเจอปัญหาหลายอย่างมาก วันนี้ผมจะมาบอกถึงปัญหาและทำไมถึงเกิดปัญหานี้ขึ้นได้ (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ และก็ได้มาจากแหล่งข่าวบางแหล่งด้วย)
ปัญหาแรก มีลูกค้าบางกลุ่มไม่ได้จ่ายเงินค่าทำโฆษณาให้ YGG
ซึ่งได้มีลูกค้า 1-2 เจ้า ที่ไม่ได้ชำระเงิน ให้ YGG มูลค่าของงานแรกอยู่ที่ 46 ล้านบาท งานที่ 2 300ล้านบาท
รวมเป็นเงิน 346 ล้านบาท ทำให้บริษัทส่งงบว่าขาดทุนเนื่องจากลูกค้ายังไม่ได้ชำระเงิน
ปัญหาที่สอง บริษัทผิดนัดชำระหนี้ต่อสถาบันการเงิน
บริษัท ได้ทำสัญญา ขอยืมเงินระยะสั้น จำนวน 9 ล้านบาท กับสถาบันการเงินแห่งหนึง แต่พิถึงวันชำระหนี้บริษัทกลับจ่ายหนี้ได้เพียงแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น
ทำให้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ขึ้นเครื่องหมาย CB หรือ Caution - Business ให้กับบริษัท บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน)
ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอาจจะคิดว่า บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) มีสภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินก็เป็นได้
ปัญหาที่สาม หุ้น YGG ราคาร่วงลงมาต่ำกว่า 1 บาทในรอบ 4.5 ปี
โดยหุ้น YGG จากราคาปกติ 7-9 บาท/หุ้น ตกลงมาเหลือ 0.5-1.8 บาท/หุ้น ปัญหานี้อาจจะไปเกี่ยวข้องกับปัญหาที่สี่ก็ได้ เนื่องจากบริษัทขาดทุนจากปัญหาที่1 และ ไม่ได้ชำระหนี้ จากปัญหาที่ 2 ทำให้หุ้นบริษัทมีการร่วงลงอย่างรุนแรงมาก แต่สาเหตุหลักอาจจะเป็นปัญหาที่สี่
ปัญหาที่สี่ ผู้ถือหุ้นใหญ่ โดน Forced Sell
โดย นายธนัช จุวิวัฒน์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ถูกทำรายการขายหุ้น Forced Sell ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงมาอยู่ที่ 5.8 ล้านหุ้น หรือ 0.96% จากเดิมถือหุ้นจำนวน 247.68 ล้านหุ้น หรือ 41.143% ซึ่งทำให้ราคาหุ้นตกลงมาอย่างรุนแรงและมีแรงซื้อขายที่รุนแรง
สรุปทุกปัญหาก็ได้สะท้อนลงมาที่ผลประกอบการของ บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) โดยในขณะขี้บริษัทได้มีการเคลียร์ปัญหาทุกอย่างอยู่ ในการที่กำไรติดลบ บริษัทได้มีการตั้งสำรองเงิน ส่วนหนี้บริษัทได้มีการเจรจาของเลื่อนวันชำระหนี้อยู่ ซึ่งเราก็ต้อิงมาลุ้นกันว่าบริษัทจะเป็นยังไงต่อ ไปรอด หุ้นขึ้น หรือ หุ้นตกอีก ขาดทุน ล้มละลาย เราก็ไม่สามารถรู้ได้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับนั่งพิมพ์มา 45 นาทีไม่รู้จะมีใครอ่านหมดรึเปล่า ขอย้ำว่าอันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับแล้วอันนี้ก็เป็นบทความแรกของผมเลย
สรุป เกิดอะไรขึ้นกับ YGG
มาเข้าเรื่องเลย ช่วงนี้ทุกคนอาจเห็นข่าวว่า YGG กำลังเจอปัญหาหลายอย่างมาก วันนี้ผมจะมาบอกถึงปัญหาและทำไมถึงเกิดปัญหานี้ขึ้นได้ (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ และก็ได้มาจากแหล่งข่าวบางแหล่งด้วย)
ปัญหาแรก มีลูกค้าบางกลุ่มไม่ได้จ่ายเงินค่าทำโฆษณาให้ YGG
ซึ่งได้มีลูกค้า 1-2 เจ้า ที่ไม่ได้ชำระเงิน ให้ YGG มูลค่าของงานแรกอยู่ที่ 46 ล้านบาท งานที่ 2 300ล้านบาท
รวมเป็นเงิน 346 ล้านบาท ทำให้บริษัทส่งงบว่าขาดทุนเนื่องจากลูกค้ายังไม่ได้ชำระเงิน
ปัญหาที่สอง บริษัทผิดนัดชำระหนี้ต่อสถาบันการเงิน
บริษัท ได้ทำสัญญา ขอยืมเงินระยะสั้น จำนวน 9 ล้านบาท กับสถาบันการเงินแห่งหนึง แต่พิถึงวันชำระหนี้บริษัทกลับจ่ายหนี้ได้เพียงแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น
ทำให้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ขึ้นเครื่องหมาย CB หรือ Caution - Business ให้กับบริษัท บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน)
ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอาจจะคิดว่า บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) มีสภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินก็เป็นได้
ปัญหาที่สาม หุ้น YGG ราคาร่วงลงมาต่ำกว่า 1 บาทในรอบ 4.5 ปี
โดยหุ้น YGG จากราคาปกติ 7-9 บาท/หุ้น ตกลงมาเหลือ 0.5-1.8 บาท/หุ้น ปัญหานี้อาจจะไปเกี่ยวข้องกับปัญหาที่สี่ก็ได้ เนื่องจากบริษัทขาดทุนจากปัญหาที่1 และ ไม่ได้ชำระหนี้ จากปัญหาที่ 2 ทำให้หุ้นบริษัทมีการร่วงลงอย่างรุนแรงมาก แต่สาเหตุหลักอาจจะเป็นปัญหาที่สี่
ปัญหาที่สี่ ผู้ถือหุ้นใหญ่ โดน Forced Sell
โดย นายธนัช จุวิวัฒน์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ถูกทำรายการขายหุ้น Forced Sell ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงมาอยู่ที่ 5.8 ล้านหุ้น หรือ 0.96% จากเดิมถือหุ้นจำนวน 247.68 ล้านหุ้น หรือ 41.143% ซึ่งทำให้ราคาหุ้นตกลงมาอย่างรุนแรงและมีแรงซื้อขายที่รุนแรง
สรุปทุกปัญหาก็ได้สะท้อนลงมาที่ผลประกอบการของ บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) โดยในขณะขี้บริษัทได้มีการเคลียร์ปัญหาทุกอย่างอยู่ ในการที่กำไรติดลบ บริษัทได้มีการตั้งสำรองเงิน ส่วนหนี้บริษัทได้มีการเจรจาของเลื่อนวันชำระหนี้อยู่ ซึ่งเราก็ต้อิงมาลุ้นกันว่าบริษัทจะเป็นยังไงต่อ ไปรอด หุ้นขึ้น หรือ หุ้นตกอีก ขาดทุน ล้มละลาย เราก็ไม่สามารถรู้ได้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับนั่งพิมพ์มา 45 นาทีไม่รู้จะมีใครอ่านหมดรึเปล่า ขอย้ำว่าอันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับแล้วอันนี้ก็เป็นบทความแรกของผมเลย