แม้ว่าสงครามเอกราชอินโดนีเซีย จะเป็นการสู้รบกันโดยหลักระหว่างกองทัพเอกราชอินโดนีเซียของซูการ์โนและกองทัพเจ้าอาณานิคมเนเธอร์แลนด์
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อังกฤษเองก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมและสู้รบกับกองทัพเอกราชอินโดนีเซียอยู่ในช่วงหนึ่ง หนึ่งในนั้นเป็นศึกการสู้รบกันที่สุรบายา
การสู้รบที่สุรบายาเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมและถึงจุดขีดสุดเมื่อพลจัตรา Mallaby ชาวอังกฤษ ถูกสังหารในระหว่างการปะทะกันในวัน 30 ตุลาคม 1945
หลังจากนั้น นายพล Robert Mansergh ผู้บังคับบัญชาการคนใหม่ สั่งให้เครื่องบินโปรยกระดาษที่เรียกร้องให้กองกำลังเอกราชยอมแพ้ต่ออังกฤษ
นายพลซูโตโม ผู้นำกองทัพที่สุรบายาปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่ออังกฤษ และขึ้นกล่าวปราศรัยต่ออังกฤษเกี่ยวกับอุดมการณ์ของชาวอินโดนีเซียในครั้งนั้น
"บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรเราะฮีม ...
อิสรภาพ!!!
... พี่น้องประชาชนทุกท่านทั่วอินโดนีเซีย โดยเฉพาะพี่น้องที่อยู่ในสุรบายา พวกเราทุกคนได้รู้กันหมดแล้วว่าวันนี้ พวกทหารอังกฤษได้แจกแผ่นที่ข่มขู่พวกเราทุกคน เราถูกบังคับในเวลาที่กำหนดไว้ให้ส่งมอบอาวุธที่พวกเราได้มาจากพวกทหารญี่ปุ่น พวกมันต้องการให้เราไปหาพวกมันพร้อมยกมือขึ้น พวกมันขอให้เราไปหาพวกมันพร้อมยกธงขาวให้แสดงเห็นว่าเรายอมแพ้แล้ว
พี่น้องทั้งหลาย ในการต่อสู้ที่ผ่านมานั้น เราได้แสดงให้เห็นแล้ว ว่าประชาชนอินโดนีเซียที่สุรบายา หนุ่มสาวจากมาลุกุ หนุ่มสาวจากซูลาเวสี หนุ่มสาวจากบาหลี หนุ่มสาวจากกาลิมันตัน หนุ่มสาวจากทั่วเกาะสุมาตรา หนุ่มสาวอาเจะห์ หนุ่มสาวตาปานุลี และเหล่าหนุ่มสาวทั้งหมดที่มีอยู่ในสุรบายานี้ ด้วยกองกำลังทั้งหมดของพวกเขา ด้วยกองกำลังของประชาชนที่ก่อตัวในแต่ละหมู่บ้าน ได้ปรากฎเห็นถึงกองกำลังที่ไร้การแตกหัก เราได้แสดงเห็นความแข็งแกร่งที่ปักให้เห็นต่อพวกมันทุกที่ (แต่)เพียงเพราะกลศึกพวกมันที่หลอกลวงพี่น้อง พร้อมเชิญท่านประธานาธิบดีหรือผู้นำรัฐบาลคนอื่นมาที่สุรบายา (เวลานั้นอังกฤษเชิญซูการ์โนและผู้นำรัฐบาลมาเพื่อต้องการให้เกิดการหยุดยิง - จขกท) แล้วพวกเราก็ยอมหยุดยิง ทว่า พวกมันกลับเสริมกำลังขึ้นมา และตอนนี้เมื่อพวกมันแข็งแกร่งขึ้น นี่คือสิ่งที่เห็น
พี่น้องทั้งหลาย พวกเราทุกคน ประชาชนชาวอินโดนีเซียที่อยู่ในสุรบายานี้ ขอรับคำท้าของพวกทหารอังกฤษ และถ้าพวกผู้นำกองทัพอังกฤษในสุรบายา ต้องการได้ยินคำตอบของประชาชนอินโดนีเซีย ต้องการได้ยินคำตอบจากคนหนุ่มสาวทุกคนในสุรบายาแห่งนี้ ฉะนั้นจงฟัง พวกทหารอังกฤษ! นี่คือคำตอบของเรา! นี่คำตอบจากประชาชนชาวสุรบายา! นี่คือคำตอบที่ทุกคนจะตอบถึงพวกแก! ...
เฮ้ย! พวกทหารอังกฤษ! แกอยากให้พวกฉันยกธงขาวยอมแพ้พวกแก! แกอยากให้พวกฉันชูแขนมาหาพวกแก! แกอยากให้พวกฉันส่งมอบอาวุธที่ยึดได้จากทหารญี่ปุ่นแล้วส่งให้พวกแก! คำเรียกร้องพวกนี้ที่พวกฉันรู้ว่าพวกแกก็ต้องข่มขู่พวกฉันอีก ทำร้ายพวกฉันด้วยแสนยานุภาพทุกอย่างที่มี แต่ .. นี่คือคำตอบจากพวกฉัน!
ตราบใดที่กระทิงอินโด ยังมีเลือดแดงไว้ให้ทำผ้าขาวให้กลายเป็น "ขาว-แดง" ตราบนานเท่านาน พวกเราจะไม่ยอมแพ้ต่อใคร! (กระทิงอินโดที่ว่า อาจจะไม่ได้หมายถึงการนำเลือดกระทิงมาทำเป็นธง แต่หมายถึงการสู้จนตัวตายของกองกำลังเอกราช - จขกท)
พี่น้องประชาชนสุรบายา จงเตรียมพร้อม สถานการณ์เข้าสู้วิกฤตแล้ว แต่ขอให้ผมได้พูดสักนิด อย่ายิงก่อน จนกว่าพวกมันจะยิงเรา แล้วจากนั้นเราก็ยิงมันกลับ ให้พวกมันได้รู้ว่าเราคือประชาชนที่ต้องการอิสรภาพ
และสำหรับพวกเรา พี่น้องทั้งหลาย พวกเขาจะยอมถูกล้างผลาญดีกว่าไร้อิสรภาพ คำขวัญของพวกเรายังคงเป็น "อิสรภาพ หรือ ความตาย"!
และพวกเราต้องเชื่อมันพี่น้องทั้งหลาย ว่าท้ายที่สุดแล้วนั้น ชัยชนะจะเป็นของเรา เพราะอัลลอฮ์ได้ทรงยืนข้างฝ่ายที่ถูกต้อง จงเชื่อเถิดพี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าจะคุ้มครองปกป้องเรา
อัลลอฮ์ อักบัร! อัลลอฮ์ อักบัร! อัลลอฮ์ อักบัร!
อิสรภาพ!!"
การสู้รบครั้งนี้จบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายทหารอังกฤษ และความย่อยยับของฝ่ายกองทัพเอกราชที่มีอาวุธด้อยกว่า (และยังแพ้ในสงครามโดยรวมด้วย)
อย่างไรก็ตาม ในภายหลังอังกฤษได้ให้การหนุนหลังกลุ่มเอกราชอินโดนีเซีย ร่วมกับประเทศในยุโรปอีกหลายประเทศ จนทำให้อินโดนีเซียได้เอกราช
K'tut Tantri กล่าวว่า ทหารอังกฤษถูกพวกดัตช์หลอกว่ากองกำลังอินโดนีเซียเป็นพวก "หุ่นเชิดฝ่ายญี่ปุ่น" และทำให้อังกฤษเสียกำลังพลไปอย่างเปล่าๆ
10 พฤศจิกายน จึงกลายเป็นวันระลึกการสู้รบที่สุรบายาระหว่างกองทัพอังกฤษและกลุ่มทหารของซูโตโม ซึ่งต่อมาถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษอีกคนหนึ่ง
หนึ่งในคำขวัญ "อิสรภาพ หรือ ความตาย" ยังเป็น 1 ในคำขวัญปลุกใจชาวอินโดนีเซีย จากรุ่นสู่รุ่นสืบมา ให้เห็นถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีตกาล
10 พฤศจิกายน วันวีรบุรุษอินโดนีเซีย ย้อนดูคำปราศรัยในตำนาน
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อังกฤษเองก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมและสู้รบกับกองทัพเอกราชอินโดนีเซียอยู่ในช่วงหนึ่ง หนึ่งในนั้นเป็นศึกการสู้รบกันที่สุรบายา
การสู้รบที่สุรบายาเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมและถึงจุดขีดสุดเมื่อพลจัตรา Mallaby ชาวอังกฤษ ถูกสังหารในระหว่างการปะทะกันในวัน 30 ตุลาคม 1945
หลังจากนั้น นายพล Robert Mansergh ผู้บังคับบัญชาการคนใหม่ สั่งให้เครื่องบินโปรยกระดาษที่เรียกร้องให้กองกำลังเอกราชยอมแพ้ต่ออังกฤษ
นายพลซูโตโม ผู้นำกองทัพที่สุรบายาปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่ออังกฤษ และขึ้นกล่าวปราศรัยต่ออังกฤษเกี่ยวกับอุดมการณ์ของชาวอินโดนีเซียในครั้งนั้น
"บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรเราะฮีม ...
อิสรภาพ!!!
... พี่น้องประชาชนทุกท่านทั่วอินโดนีเซีย โดยเฉพาะพี่น้องที่อยู่ในสุรบายา พวกเราทุกคนได้รู้กันหมดแล้วว่าวันนี้ พวกทหารอังกฤษได้แจกแผ่นที่ข่มขู่พวกเราทุกคน เราถูกบังคับในเวลาที่กำหนดไว้ให้ส่งมอบอาวุธที่พวกเราได้มาจากพวกทหารญี่ปุ่น พวกมันต้องการให้เราไปหาพวกมันพร้อมยกมือขึ้น พวกมันขอให้เราไปหาพวกมันพร้อมยกธงขาวให้แสดงเห็นว่าเรายอมแพ้แล้ว
พี่น้องทั้งหลาย ในการต่อสู้ที่ผ่านมานั้น เราได้แสดงให้เห็นแล้ว ว่าประชาชนอินโดนีเซียที่สุรบายา หนุ่มสาวจากมาลุกุ หนุ่มสาวจากซูลาเวสี หนุ่มสาวจากบาหลี หนุ่มสาวจากกาลิมันตัน หนุ่มสาวจากทั่วเกาะสุมาตรา หนุ่มสาวอาเจะห์ หนุ่มสาวตาปานุลี และเหล่าหนุ่มสาวทั้งหมดที่มีอยู่ในสุรบายานี้ ด้วยกองกำลังทั้งหมดของพวกเขา ด้วยกองกำลังของประชาชนที่ก่อตัวในแต่ละหมู่บ้าน ได้ปรากฎเห็นถึงกองกำลังที่ไร้การแตกหัก เราได้แสดงเห็นความแข็งแกร่งที่ปักให้เห็นต่อพวกมันทุกที่ (แต่)เพียงเพราะกลศึกพวกมันที่หลอกลวงพี่น้อง พร้อมเชิญท่านประธานาธิบดีหรือผู้นำรัฐบาลคนอื่นมาที่สุรบายา (เวลานั้นอังกฤษเชิญซูการ์โนและผู้นำรัฐบาลมาเพื่อต้องการให้เกิดการหยุดยิง - จขกท) แล้วพวกเราก็ยอมหยุดยิง ทว่า พวกมันกลับเสริมกำลังขึ้นมา และตอนนี้เมื่อพวกมันแข็งแกร่งขึ้น นี่คือสิ่งที่เห็น
พี่น้องทั้งหลาย พวกเราทุกคน ประชาชนชาวอินโดนีเซียที่อยู่ในสุรบายานี้ ขอรับคำท้าของพวกทหารอังกฤษ และถ้าพวกผู้นำกองทัพอังกฤษในสุรบายา ต้องการได้ยินคำตอบของประชาชนอินโดนีเซีย ต้องการได้ยินคำตอบจากคนหนุ่มสาวทุกคนในสุรบายาแห่งนี้ ฉะนั้นจงฟัง พวกทหารอังกฤษ! นี่คือคำตอบของเรา! นี่คำตอบจากประชาชนชาวสุรบายา! นี่คือคำตอบที่ทุกคนจะตอบถึงพวกแก! ...
เฮ้ย! พวกทหารอังกฤษ! แกอยากให้พวกฉันยกธงขาวยอมแพ้พวกแก! แกอยากให้พวกฉันชูแขนมาหาพวกแก! แกอยากให้พวกฉันส่งมอบอาวุธที่ยึดได้จากทหารญี่ปุ่นแล้วส่งให้พวกแก! คำเรียกร้องพวกนี้ที่พวกฉันรู้ว่าพวกแกก็ต้องข่มขู่พวกฉันอีก ทำร้ายพวกฉันด้วยแสนยานุภาพทุกอย่างที่มี แต่ .. นี่คือคำตอบจากพวกฉัน!
ตราบใดที่กระทิงอินโด ยังมีเลือดแดงไว้ให้ทำผ้าขาวให้กลายเป็น "ขาว-แดง" ตราบนานเท่านาน พวกเราจะไม่ยอมแพ้ต่อใคร! (กระทิงอินโดที่ว่า อาจจะไม่ได้หมายถึงการนำเลือดกระทิงมาทำเป็นธง แต่หมายถึงการสู้จนตัวตายของกองกำลังเอกราช - จขกท)
พี่น้องประชาชนสุรบายา จงเตรียมพร้อม สถานการณ์เข้าสู้วิกฤตแล้ว แต่ขอให้ผมได้พูดสักนิด อย่ายิงก่อน จนกว่าพวกมันจะยิงเรา แล้วจากนั้นเราก็ยิงมันกลับ ให้พวกมันได้รู้ว่าเราคือประชาชนที่ต้องการอิสรภาพ
และสำหรับพวกเรา พี่น้องทั้งหลาย พวกเขาจะยอมถูกล้างผลาญดีกว่าไร้อิสรภาพ คำขวัญของพวกเรายังคงเป็น "อิสรภาพ หรือ ความตาย"!
และพวกเราต้องเชื่อมันพี่น้องทั้งหลาย ว่าท้ายที่สุดแล้วนั้น ชัยชนะจะเป็นของเรา เพราะอัลลอฮ์ได้ทรงยืนข้างฝ่ายที่ถูกต้อง จงเชื่อเถิดพี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าจะคุ้มครองปกป้องเรา
อัลลอฮ์ อักบัร! อัลลอฮ์ อักบัร! อัลลอฮ์ อักบัร!
อิสรภาพ!!"
การสู้รบครั้งนี้จบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายทหารอังกฤษ และความย่อยยับของฝ่ายกองทัพเอกราชที่มีอาวุธด้อยกว่า (และยังแพ้ในสงครามโดยรวมด้วย)
อย่างไรก็ตาม ในภายหลังอังกฤษได้ให้การหนุนหลังกลุ่มเอกราชอินโดนีเซีย ร่วมกับประเทศในยุโรปอีกหลายประเทศ จนทำให้อินโดนีเซียได้เอกราช
K'tut Tantri กล่าวว่า ทหารอังกฤษถูกพวกดัตช์หลอกว่ากองกำลังอินโดนีเซียเป็นพวก "หุ่นเชิดฝ่ายญี่ปุ่น" และทำให้อังกฤษเสียกำลังพลไปอย่างเปล่าๆ
10 พฤศจิกายน จึงกลายเป็นวันระลึกการสู้รบที่สุรบายาระหว่างกองทัพอังกฤษและกลุ่มทหารของซูโตโม ซึ่งต่อมาถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษอีกคนหนึ่ง
หนึ่งในคำขวัญ "อิสรภาพ หรือ ความตาย" ยังเป็น 1 ในคำขวัญปลุกใจชาวอินโดนีเซีย จากรุ่นสู่รุ่นสืบมา ให้เห็นถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีตกาล