เกริ่นก่อนนะครับ ปกติ ผมทำงานอยู่เมืองนอก เพิ่งกลับมาหาแม่ที่เมืองไทยได้ไม่นาน แต่ก็ไปๆมาๆแหละ
วันนี้ผมออกมาทำธุระข้างนอก แล้วแม่ไลน์มาบอกว่า ฝากซื้อของใช้ในบ้านหน่อย ประมาณ 3-4 อย่าง ของที่บ้านหมดพอดี
ณ ห้างแห่งนึง ด้วยความที่ผมไม่รู้ และไม่ได้มองป้ายที่แปะอยู่ตรงประตูเข้าออก เพราะป้ายเล็กมากกก ก็เดินคุยไลน์กับแม่ไป ถ่ายรูปสินค้าบางอย่าง ไปให้แม่เลือก เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม 2 ยี่ห้อ เพราะแม่จะเกริ่นมา 2 ยี่ห้อนี้ (ผมไม่ได้ถ่ายทุกยี่ห้อนะ) แม่ก็จะเลือกยี่ห้อจากราคาที่มันถูกกว่าก่อน แล้วจะเทียบความหอม ติดทนนานไหม อะไรแบบนี้ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่บางอย่างที่แพงกว่า แล้วใช้ดี คุ้มค่า คุ้มราคา แม่ผมก็ซื้อนะ แล้วก็เดินไปซื้อของล็อคอื่นต่อ ก็คุยกับแม่เหมือนเดิม เหมือนกับที่ซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม อยู่ดีๆ
พนักงาน ก็ตะคอกออกมาเสียงดังว่า ทำอะไร!! ที่นี่ห้ามถ่ายรูป คุณไม่รู้หรอ!!
ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมไม่รู้ครับ ผมมาซื้อของให้แม่ แม่ผมฝากมา แล้วก็เปิดไลน์ให้พนักงานดู
พนักงาน ก็พูดต่อว่า คุณไม่เห็นป้ายที่แปะอยู่หน้าทางเข้าหรอไง
ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมไม่เห็นครับ ไม่ได้สังเกตุ ขอโทษด้วยนะครับ (ขาออกผมไปมองดูป้ายที่แปะอยู่หน้าประตู คือ เล็กมาก ถ้าไม่สังเกตุจะไม่เห็นเลย)
แล้วผมถามพนักงานต่อว่า ถ้าวีดีโอคอลล่ะ ทำได้ไหม
พนักงานตอบว่า ได้ แล้วพนักงานก็เดินออกไป
ผมไม่อยากวีดีโอคอล เพราะผมไม่ได้เอาหูฟังมา และแม่ผมก็หูไม่ค่อยดี ต้องพูดเสียงดัง ผมเกรงใจคนอื่นที่เดินเลือกซื้อของอยู่
สรุป ผมซื้อแค่อย่างเดียว ตามที่แม่เลือก อีก 2-3 อย่างที่ผมกำลังจะซื้อ ผมวางลง ที่เหลือเดี๋ยวผมพาแม่มาซื้อเองดีกว่า ซึ่งไม่ใช่ห้างนี้แน่นอน เพราะผมรู้สึกเฟล เหมือนผมทำอะไรผิดร้ายแรง
ความที่ผมไม่รู้กฎของห้าง พนักงานพูดกับผมดีๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตะคอกใส่ ให้ผมอายคนอื่น ตอนผมขับรถกลับมาบ้าน ระหว่างทางผมก็คิดนะ ในแง่ของธุรกิจ ห้างอาจจะกลัวคู่แข่งมาสืบราคาสินค้า แต่ในอีกแง่มุมนึง จะกลัวทำไม ในเมื่อ แพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เห็นโพสต์ ลงขายกันโท่งๆ บางแพลตฟอร์มขายถูกกว่าเราไปเดินซื้อสินค้าเองซะอีก แบบนี้ในความคิดผม ในทางออนไลน์น่าจะสืบราคาง่ายกว่า เราไปเดินถ่ายทีละล็อคๆนะ ไม่เหนื่อยด้วย
ตอนผมอยู่ต่างประเทศ ผมก็ซื้อของใช้เองนะ แต่ตามห้าง เขาไม่ได้มีป้ายปิดว่า ห้ามถ่ายรูปนะ ยกเว้นสินค้าบางอย่าง เช่น ของแบรนด์ จะมีป้ายปิดชัดเจน
ห้างสรรพสินค้า ห้ามถ่ายรูปหรอครับ?
วันนี้ผมออกมาทำธุระข้างนอก แล้วแม่ไลน์มาบอกว่า ฝากซื้อของใช้ในบ้านหน่อย ประมาณ 3-4 อย่าง ของที่บ้านหมดพอดี
ณ ห้างแห่งนึง ด้วยความที่ผมไม่รู้ และไม่ได้มองป้ายที่แปะอยู่ตรงประตูเข้าออก เพราะป้ายเล็กมากกก ก็เดินคุยไลน์กับแม่ไป ถ่ายรูปสินค้าบางอย่าง ไปให้แม่เลือก เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม 2 ยี่ห้อ เพราะแม่จะเกริ่นมา 2 ยี่ห้อนี้ (ผมไม่ได้ถ่ายทุกยี่ห้อนะ) แม่ก็จะเลือกยี่ห้อจากราคาที่มันถูกกว่าก่อน แล้วจะเทียบความหอม ติดทนนานไหม อะไรแบบนี้ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่บางอย่างที่แพงกว่า แล้วใช้ดี คุ้มค่า คุ้มราคา แม่ผมก็ซื้อนะ แล้วก็เดินไปซื้อของล็อคอื่นต่อ ก็คุยกับแม่เหมือนเดิม เหมือนกับที่ซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม อยู่ดีๆ
พนักงาน ก็ตะคอกออกมาเสียงดังว่า ทำอะไร!! ที่นี่ห้ามถ่ายรูป คุณไม่รู้หรอ!!
ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมไม่รู้ครับ ผมมาซื้อของให้แม่ แม่ผมฝากมา แล้วก็เปิดไลน์ให้พนักงานดู
พนักงาน ก็พูดต่อว่า คุณไม่เห็นป้ายที่แปะอยู่หน้าทางเข้าหรอไง
ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมไม่เห็นครับ ไม่ได้สังเกตุ ขอโทษด้วยนะครับ (ขาออกผมไปมองดูป้ายที่แปะอยู่หน้าประตู คือ เล็กมาก ถ้าไม่สังเกตุจะไม่เห็นเลย)
แล้วผมถามพนักงานต่อว่า ถ้าวีดีโอคอลล่ะ ทำได้ไหม
พนักงานตอบว่า ได้ แล้วพนักงานก็เดินออกไป
ผมไม่อยากวีดีโอคอล เพราะผมไม่ได้เอาหูฟังมา และแม่ผมก็หูไม่ค่อยดี ต้องพูดเสียงดัง ผมเกรงใจคนอื่นที่เดินเลือกซื้อของอยู่
สรุป ผมซื้อแค่อย่างเดียว ตามที่แม่เลือก อีก 2-3 อย่างที่ผมกำลังจะซื้อ ผมวางลง ที่เหลือเดี๋ยวผมพาแม่มาซื้อเองดีกว่า ซึ่งไม่ใช่ห้างนี้แน่นอน เพราะผมรู้สึกเฟล เหมือนผมทำอะไรผิดร้ายแรง
ความที่ผมไม่รู้กฎของห้าง พนักงานพูดกับผมดีๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตะคอกใส่ ให้ผมอายคนอื่น ตอนผมขับรถกลับมาบ้าน ระหว่างทางผมก็คิดนะ ในแง่ของธุรกิจ ห้างอาจจะกลัวคู่แข่งมาสืบราคาสินค้า แต่ในอีกแง่มุมนึง จะกลัวทำไม ในเมื่อ แพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เห็นโพสต์ ลงขายกันโท่งๆ บางแพลตฟอร์มขายถูกกว่าเราไปเดินซื้อสินค้าเองซะอีก แบบนี้ในความคิดผม ในทางออนไลน์น่าจะสืบราคาง่ายกว่า เราไปเดินถ่ายทีละล็อคๆนะ ไม่เหนื่อยด้วย
ตอนผมอยู่ต่างประเทศ ผมก็ซื้อของใช้เองนะ แต่ตามห้าง เขาไม่ได้มีป้ายปิดว่า ห้ามถ่ายรูปนะ ยกเว้นสินค้าบางอย่าง เช่น ของแบรนด์ จะมีป้ายปิดชัดเจน