อ้างอิงกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ฉบับใหม่ บังคับใช้ 3 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ผู้บริโภคที่สั่งซื้อของออนไลน์ สามารถเปิดพัสดุเพื่อตรวจสอบสินค้าได้ก่อนจ่ายเ งิน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสินค้าไม่ตรงปก รวมถึงการได้รับสินค้าทั้งที่ไม่ได้สั่งได้

กรณีมีสินค้าเรียกเก็บเงินปลายทางส่งมา และผู้สูงอายุที่บ้าน อาจตกเป็นเหยือ ชำระเงินรับพัสดุเหล่านั้นมา กฎหมายนี้ก็พอช่วยได้ เนื่องจากขนส่งบางที่ ยกตัวอย่าง spx express ก็มีเงื่อนไขให้สามารถเปิดเคสขอส่งคืนสินค้าที่มิจฉาชีพส่งมา และขอเงินคืนได้ อ้างอิง policy อัพเดทล่าสุดของ spx expresss ด้านล่างนี้


แต่ในเคสของผมที่อยากจะแชร์เพื่อนสมาชิก และเตือนภัยให้ระวังไว้ เรื่องมีอยู่ว่า ที่บ้านรับพัสดุเรียกเก็บเงินปลายทางจำนวน 279 บาท มา โดยที่ผมไม่ได้ทำการสั่ง ส่งโดยขนส่ง spx express ทันทีที่ทราบเรื่อง ผมก็รีบเปิดเคสกับ spx express เป็นเคส "คำรองคืนพัสดุที่จัดส่งนอกแพลตฟอร์ม Shopee" ตาม policy ข้างต้นทันที เพราะตรวจสอบดูในแอป shopee ของทุกคนในบ้าน ไม่มีการกดสั่งสินค้าใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับพัสดุดังกล่าว

หลัง SPX ได้รับเรื่อง ก็มีการตอบกลับมา รับคำร้อง ส่งลาเบลคืนสินค้ามาให้ นำไป drop คืนภายใน 3 วัน เพื่อขอรับเงินคืน หลังจากได้ลาเบลมา ทำให้พอทราบชื่อของมิจฉาชีพ ต้นทางที่ส่งของมา ว่าเป็นชาวต่างชาติ ตามลาเบลด้านล่าง


แต่ดีใจได้ไม่ถึงชั่วโมง มีเมล์อีกฉบับจาก support spx ส่งมาว่า สินค้าดังกล่าว ผู้ส่ง ส่งมาจากออเดอร์ที่ทำรายการผ่านแพลตฟอร์ม Shopee ดังนั้น spx จึงยกเลิกลาเบลคืนสินค้า ข้างต้น ให้ผมไปติดต่อผ่านแพลตฟอร์ม shopee เพื่อขอคืนสินค้า

เมื่อผมติดต่อพนักงาน live chat shopee โดยให้ข้อมูลกับพนักงานไปว่า พัสดุที่ผมได้รับ ผมและคนในครอบครัวไม่ได้ทำการสั่ง ผมจะทำรายการคืนผ่านบัญชี shopee ของผมและคนในครอบครัวไม่ได้ เพราะไม่มีเลขสั่งซื้อสินค้าที่จะกดขอคืนสินค้า/ขอคืนเงิน มิจฉาชีพใช้วิธีการ ทำรายการกดสั่งผ่าน shopee และแก้ไขที่อยู่จัดส่ง เป็นชื่อที่อยู่ผม และเลือกวิธีการชำระเงินเป็นแบบเก็บเงินปลายทาง

พนักงานแจ้งว่า ให้ผมดำเนินการตามนี้
1. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอหมายเรียกพยานเอกสารขอข้อมูลส่วนตัวของทางผู้ใช้งาน เพื่อให้ทางเรานำส่งข้อมูล IP address รวมถึงรายละเอียดการสั่งซื้อสินค้า
2. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอหนังสือขอความร่วมมือตรวจสอบบัญชีผู้ใช้งาน เพื่อประกอบการแจ้งความกับทางตำรวจ
เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเอกสารตัวจริงเข้ามาที่
"89 เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ชั้น 24 ( ฝ่ายกฏหมาย ) บริษัท ช้อปปี้ ประเทศไทย ( จำกัด ) แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400"
3. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฏหมายของช้อปปี้ เน้นย้ำ (กรณีเอกสารที่ส่งมาเป็นเอกสารบันทึกประจำวัน ทางบริษัท Shopee ต้องขออภัยไม่สามารถให้ข้อมูลได้)
ทางบริษัทยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากการให้ข้อมูลส่วนบุคคล ทางเราไม่สามารถให้ข้อมูลโดยพละการได้ เนื่องจากผิด พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

กับการขอคืนสินค้าและขอคืนเงินจำนวน 279 บาท ผมต้องทำขั้นตอนมากมายข้างต้น ผมและผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยือมิจฉาชีพ คงไม่สามารถ ดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นของทาง Shopee ได้หรอกครับ

ผมจึงขอสรุปสาระสำคัญของเคสนี้ ดังนี้
1. ถ้าเคสนี้ มิจฉาชีพใช้ spx express สุ่มส่งของมาให้เหยือ เรียกเก็บเงินปลายทาง โดยไม่ได้ทำรายการผ่านแพลตฟอร์ม shopee ผมสามารถเปิดเคสขอส่งของคืน/ขอเงินคืนได้ อย่างสะดวก รวดเร็ว
2. เหมือนมิจฉาชีพ จะรู้ว่า ถ้าใช้วิธีส่งของโดยผ่านการทำรายการทาง shopee เหยือที่เผลอรับสินค้าและขำระเงินไปแล้ว จะขอคืนของ ขอคืนเงินลำบาก ต้องไปแจ้งความและทำตามขั้นตอนมากมายของ shopee ข้างต้น
3. จากเคสนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า แพลตฟอร์ม Shopee เหมือนคุ้มครองมิจฉาชีพ มากกว่าผู้บริโภค แม้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคใหม่ จะออกมาช่วยเหลือเรากรณีได้สินค้าไม่ตรงปก ได้สินค้าที่ไม่ได้สั่งจากมิจฉาชีพ แต่ Shopee กลับไม่เปลี่ยนขั้นตอนการขอคืนสินค้า/คืนของ ที่เราไม่ได้สั่ง ยังต้องให้เราไปแจ้งความและทำตามขั้นตอนมากมายข้างต้น ซึ่งล้าหลัง เสียเวลา และผู้เสียหายจำนวนมากสุดท้ายก็ถอดใจ ไม่อยากเสียเวลาไปดำเนินเรื่องตามขั้นตอนข้างต้น สุดท้าย มิจฉาชีพก็ลอยนวล เต็มแพลตฟอร์ม Shopee ไปหมด