เราคบหากันมาเกือบ 10 ปี และได้แต่งงานกันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เหตุเพราะผมไม่มีเงินไปสู่ขอเขา ( สินสอดเป็นบ้าน 1 หลังราคากว่า 6 - 7 ล้านบาท ) แต่ที่ได้แต่งงานเพราะภรรยาท้อง
.
ทุกอย่างดูดี ผมทำงานภรรยาอยู่บ้านดูแลครรภ์ จนกระทั่งพยานรักของเราเริ่มออกมา ชีวิตผมมีความสุขมาก
.
ทำงานกลับถึงบ้านได้เจอลูก เล่นกับลูก ต่อให้งานเครียดแค่ไหนผมก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ... แต่แล้วเมื่อเวลางานผมเริ่มเปลี่ยน ต้องเข้างานตอนบ่าย เลิกงานตอนค่ำ กลับบ้านมาลูกกับภรรยาก็หลับหมดแล้ว กลายเป็นว่าเขาต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
.
ผมเข้าใจว่าเค้าเหนื่อย เค้าเหงา ผมจึงตัดสินใจขอบริษัทย้ายเวลาทำงานกลับมาเป็นเวลาปกติเหมือนเดิม เพื่อจะได้แบ่งเบาภาระเขาได้บ้างเรื่องเลี้ยงลูก
.
จนกระทั่งเข้าช่วงลูกอายุครบ 2 ปี ภรรยาเริ่มเลี้ยงคนเดียวไม่ไหว เขาเหนื่อยกับงานบ้าน เหนื่อยกับการทำอาหาร เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก ผมรู้ ผมเข้าใจ แต่ผมทำได้แค่เพียงกลับบ้านมาเล่นกับลูก วันหยุดพากันไปเที่ยว สำหรับผม ผมคิดว่านั่นคือความสุขสำหรับพวกเรา แต่สำหรับเขา อาจจะไม่ใช่ ...
.
เขาเริ่มที่จะอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ซึ่งผมก็สนับสนุนเต็มที่ ลงคอร์สเรียนให้ อยากได้อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติม ผมหาให้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ทำไมรู้สึกเหมือนเขามีโลกส่วนตัวมากขึ้น ผมเริ่มเป็นคนนอกสำหรับเขามากขึ้น ... แต่ไม่เป็นไร เขาน่าจะมีสังคมของเขา ผมเข้าใจ ...
.
ผ่านไป 3 - 4 เดือน ทุกครั้งที่คุยกับผมเขาจะอารมณ์เสีย แต่เวลาคุยกับเพื่อนกลับอารมณ์ดีได้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ... มีอยู่ครั้งนึง เขาเริ่มต่อว่าผม เรื่องที่ผมไม่ทำอาหารให้เขากินบ้างเลย ทำไมถึงต้องเป็นเขาทำอยู่ฝ่ายเดียว ... และเริ่มต่อว่าผม เรื่องที่ผมปล่อยตัว ไม่ออกกำลังกาย เริ่มลงพุง ผิวหน้าไม่ใช้ครีมบำรุงบ้างเลย ...
.
ด้วย sense ของผม ที่ผ่านการมีแฟนมาก่อน ผมเริ่มสงสัย ว่าเขาเริ่มเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบกับผมแน่ๆ ซึ่งผมเองก็เคยเป็นมาก่อน คือคบอยู่กับคนนึง แล้วพอมีคนที่คุยกับเรา แล้วเรารู้สึกว่าเขาน่าสนใจ และเขาก็สนใจเราพอประมาณ เราจะเริ่มเปรียบเทียบคนปัจจุบันและคนคุยคนใหม่ทันที ( ตอนวัยรุ่นอายุ 18 - 19 ผมเคยทำแบบนี้กับแฟนคนแรก ตอนนี้ผมเกือบหลัก 4 แล้ว )
.
*** ( ภรรยาผมไม่เคยคบใครมาก่อน ผมเป็นแฟนคนแรกของเขา ... และผมคิดว่า ผมน่าจะเป็นคนสุดท้ายของเขาเช่นกัน ส่วนผมเคยคบมา 3 คนและเขาเป็นคนที่ 4 และคิดว่าเขาน่าจะเป็นรักสุดท้ายของผม ) ***
.
ผมเริ่มคุยเปิดใจกับภรรยา ว่าเขากำลังคุยกับคนอื่นใช่ไหม ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมรับนะ แต่ผมเริ่มรับรู้ได้ เพราะเขาเริ่มไม่ให้ผมจับโทรศัพท์เขาแล้ว แค่จะขอยืมโทรเพื่อหาโทรศัพท์ของตัวเองยังไม่ให้จับเลย ดึกดื่นเขาไม่ยอมหลับนอน เอาแต่คุยและยิ้มระรื่นกับใครบางคน ... ผมถึงกับต้องกุเรื่องโกหกขึ้นมาว่าผมอ่านเจอแชทของเขาแล้วนะ ทำไมถึงทำแบบนี้กับผม ...
.
จากนั้นเขาก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า เขาเริ่มคุยกับโค้ชที่คอยสอนเขา โค้ชนิสัยตรงกับเขามาก ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ชอบทำอาหาร ชอบออกกำลังกาย ชอบไปเที่ยวเล่นตามสถานที่ต่างๆ ... นิสัยตรงกันมาก ... ส่วนผมหรอ ... เขาอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุขเลย ... ผมทำอาหารไม่เป็น ... ผมไม่ชอบออกกำลังกาย ... ผมไม่ดูแลรักษาเรื่องหน้าตาผิวพรรณเลย ... ผมไม่ชอบออกไปเที่ยวไหน เอาแต่อยู่บ้าน ...
.
ผมได้ยินแบบนี้ ผมน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดเลย ผมบอกเขาในสิ่งที่เป็น ... จำได้ไหมตอนที่เราคบกันเมื่อ 10 ปีก่อน ผมไม่เคยทำอาหารได้เลย ผมทำไม่เป็น ผมเคยลองทำแล้ว แต่ก็ไม่อร่อย ทำได้แต่ไข่เจียว ไข่ดาว ที่พอจะกินได้ ... และทุกครั้งถ้าไม่ใช่การออกไปกินข้าวนอกบ้าน ก็มีแต่เขาที่ทำให้ผมกิน ... จำได้ไหมตอนคบกัน เราทั้งสองคนก็ไปฟิตเนสด้วยกัน ... จำได้ไหมว่าตอนคบกัน เวลาวันหยุดเราก็หาเวลาไปเที่ยวด้วยกันบ้าง บางครั้งนะ ... จำได้ไหมตอนคบกัน เวลาซื้อครีมบำรุงผิว นอกจากซื้อของเขา ผมก็จะซื้อของผมอีกชุดนึงเหมือนกันนะ
.
ที่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำแบบเดิมแล้ว เพราะมีลูกของเราเพิ่มมาอีก 1 ชีวิตแล้วนะ ผมงดกิจกรรมทุกอย่างสำหรับตัวผม เพื่อลูกของเรานะ แล้วนี่หรอสิ่งที่ผมได้รับ ... ผมยังดีไม่พอหรอ ? ผมไม่เคยคิดนอกใจ ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เคยทำร้ายร่างกายเมีย ผมเลิกงานสิ่งแรกที่ทำคือรีบกลับมาอยู่กับลูกกับเมีย วันหยุดผมเลิกไปเล่นเกมกับเพื่อน ไปหาเพื่อน เพื่อมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ผมตัดทิ้งทุกสิ่งอย่าง โลกทั้งใบตอนนี้ผมมีแค่ครอบครัว ... ไม่สงสารผมหรอ ถ้าเธอเลือกเขา แล้วผมล่ะ ?? ผมเปลี่ยนโลกทั้งใบของผมให้เหลือแต่เธอกับลูกแล้วนะ ... จะทำลายโลกทั้งใบของผมไปแบบนัหรอ ?? ผมผิดอะไร ?? ผิดที่ทำอาหารไม่เป็นหรอ ผิดที่ไม่โรแมนติกเหมือนคนอื่นหรอ ?? หรือผิดที่ผมไม่ดูแลตัวเองหรอ ?? หรือจริงๆ แล้วมันผิดที่ตัวเธอเอง ที่เผลอมีใจให้คนอื่น จนมองข้ามสิ่งที่ผมเป็นอยู่ไปแล้ว ...
.
จากนั้นเธอก็ร้องไห้และขอโทษผม พร้อมทั้งสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก ... จนตอนนี้ผ่านมา 4 - 5 เดือน เธอกลับมาบอกว่า เธออยากจะเลิกกับผม และพาลูกไปอยู่กับเธอด้วย ...
.
โลกของผมแตกสลายไม่เหลืออะไรแล้ว ... ผมแพ้ทุกอย่าง รักษาไว้ไม่ได้แม้แต่ครอบครัวของตัวเอง ...
ภรรยาอยากเลิกแต่ผมไม่ต้องการ
.
ทุกอย่างดูดี ผมทำงานภรรยาอยู่บ้านดูแลครรภ์ จนกระทั่งพยานรักของเราเริ่มออกมา ชีวิตผมมีความสุขมาก
.
ทำงานกลับถึงบ้านได้เจอลูก เล่นกับลูก ต่อให้งานเครียดแค่ไหนผมก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ... แต่แล้วเมื่อเวลางานผมเริ่มเปลี่ยน ต้องเข้างานตอนบ่าย เลิกงานตอนค่ำ กลับบ้านมาลูกกับภรรยาก็หลับหมดแล้ว กลายเป็นว่าเขาต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
.
ผมเข้าใจว่าเค้าเหนื่อย เค้าเหงา ผมจึงตัดสินใจขอบริษัทย้ายเวลาทำงานกลับมาเป็นเวลาปกติเหมือนเดิม เพื่อจะได้แบ่งเบาภาระเขาได้บ้างเรื่องเลี้ยงลูก
.
จนกระทั่งเข้าช่วงลูกอายุครบ 2 ปี ภรรยาเริ่มเลี้ยงคนเดียวไม่ไหว เขาเหนื่อยกับงานบ้าน เหนื่อยกับการทำอาหาร เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก ผมรู้ ผมเข้าใจ แต่ผมทำได้แค่เพียงกลับบ้านมาเล่นกับลูก วันหยุดพากันไปเที่ยว สำหรับผม ผมคิดว่านั่นคือความสุขสำหรับพวกเรา แต่สำหรับเขา อาจจะไม่ใช่ ...
.
เขาเริ่มที่จะอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ซึ่งผมก็สนับสนุนเต็มที่ ลงคอร์สเรียนให้ อยากได้อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติม ผมหาให้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ทำไมรู้สึกเหมือนเขามีโลกส่วนตัวมากขึ้น ผมเริ่มเป็นคนนอกสำหรับเขามากขึ้น ... แต่ไม่เป็นไร เขาน่าจะมีสังคมของเขา ผมเข้าใจ ...
.
ผ่านไป 3 - 4 เดือน ทุกครั้งที่คุยกับผมเขาจะอารมณ์เสีย แต่เวลาคุยกับเพื่อนกลับอารมณ์ดีได้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ... มีอยู่ครั้งนึง เขาเริ่มต่อว่าผม เรื่องที่ผมไม่ทำอาหารให้เขากินบ้างเลย ทำไมถึงต้องเป็นเขาทำอยู่ฝ่ายเดียว ... และเริ่มต่อว่าผม เรื่องที่ผมปล่อยตัว ไม่ออกกำลังกาย เริ่มลงพุง ผิวหน้าไม่ใช้ครีมบำรุงบ้างเลย ...
.
ด้วย sense ของผม ที่ผ่านการมีแฟนมาก่อน ผมเริ่มสงสัย ว่าเขาเริ่มเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบกับผมแน่ๆ ซึ่งผมเองก็เคยเป็นมาก่อน คือคบอยู่กับคนนึง แล้วพอมีคนที่คุยกับเรา แล้วเรารู้สึกว่าเขาน่าสนใจ และเขาก็สนใจเราพอประมาณ เราจะเริ่มเปรียบเทียบคนปัจจุบันและคนคุยคนใหม่ทันที ( ตอนวัยรุ่นอายุ 18 - 19 ผมเคยทำแบบนี้กับแฟนคนแรก ตอนนี้ผมเกือบหลัก 4 แล้ว )
.
*** ( ภรรยาผมไม่เคยคบใครมาก่อน ผมเป็นแฟนคนแรกของเขา ... และผมคิดว่า ผมน่าจะเป็นคนสุดท้ายของเขาเช่นกัน ส่วนผมเคยคบมา 3 คนและเขาเป็นคนที่ 4 และคิดว่าเขาน่าจะเป็นรักสุดท้ายของผม ) ***
.
ผมเริ่มคุยเปิดใจกับภรรยา ว่าเขากำลังคุยกับคนอื่นใช่ไหม ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมรับนะ แต่ผมเริ่มรับรู้ได้ เพราะเขาเริ่มไม่ให้ผมจับโทรศัพท์เขาแล้ว แค่จะขอยืมโทรเพื่อหาโทรศัพท์ของตัวเองยังไม่ให้จับเลย ดึกดื่นเขาไม่ยอมหลับนอน เอาแต่คุยและยิ้มระรื่นกับใครบางคน ... ผมถึงกับต้องกุเรื่องโกหกขึ้นมาว่าผมอ่านเจอแชทของเขาแล้วนะ ทำไมถึงทำแบบนี้กับผม ...
.
จากนั้นเขาก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า เขาเริ่มคุยกับโค้ชที่คอยสอนเขา โค้ชนิสัยตรงกับเขามาก ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ชอบทำอาหาร ชอบออกกำลังกาย ชอบไปเที่ยวเล่นตามสถานที่ต่างๆ ... นิสัยตรงกันมาก ... ส่วนผมหรอ ... เขาอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุขเลย ... ผมทำอาหารไม่เป็น ... ผมไม่ชอบออกกำลังกาย ... ผมไม่ดูแลรักษาเรื่องหน้าตาผิวพรรณเลย ... ผมไม่ชอบออกไปเที่ยวไหน เอาแต่อยู่บ้าน ...
.
ผมได้ยินแบบนี้ ผมน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดเลย ผมบอกเขาในสิ่งที่เป็น ... จำได้ไหมตอนที่เราคบกันเมื่อ 10 ปีก่อน ผมไม่เคยทำอาหารได้เลย ผมทำไม่เป็น ผมเคยลองทำแล้ว แต่ก็ไม่อร่อย ทำได้แต่ไข่เจียว ไข่ดาว ที่พอจะกินได้ ... และทุกครั้งถ้าไม่ใช่การออกไปกินข้าวนอกบ้าน ก็มีแต่เขาที่ทำให้ผมกิน ... จำได้ไหมตอนคบกัน เราทั้งสองคนก็ไปฟิตเนสด้วยกัน ... จำได้ไหมว่าตอนคบกัน เวลาวันหยุดเราก็หาเวลาไปเที่ยวด้วยกันบ้าง บางครั้งนะ ... จำได้ไหมตอนคบกัน เวลาซื้อครีมบำรุงผิว นอกจากซื้อของเขา ผมก็จะซื้อของผมอีกชุดนึงเหมือนกันนะ
.
ที่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำแบบเดิมแล้ว เพราะมีลูกของเราเพิ่มมาอีก 1 ชีวิตแล้วนะ ผมงดกิจกรรมทุกอย่างสำหรับตัวผม เพื่อลูกของเรานะ แล้วนี่หรอสิ่งที่ผมได้รับ ... ผมยังดีไม่พอหรอ ? ผมไม่เคยคิดนอกใจ ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เคยทำร้ายร่างกายเมีย ผมเลิกงานสิ่งแรกที่ทำคือรีบกลับมาอยู่กับลูกกับเมีย วันหยุดผมเลิกไปเล่นเกมกับเพื่อน ไปหาเพื่อน เพื่อมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ผมตัดทิ้งทุกสิ่งอย่าง โลกทั้งใบตอนนี้ผมมีแค่ครอบครัว ... ไม่สงสารผมหรอ ถ้าเธอเลือกเขา แล้วผมล่ะ ?? ผมเปลี่ยนโลกทั้งใบของผมให้เหลือแต่เธอกับลูกแล้วนะ ... จะทำลายโลกทั้งใบของผมไปแบบนัหรอ ?? ผมผิดอะไร ?? ผิดที่ทำอาหารไม่เป็นหรอ ผิดที่ไม่โรแมนติกเหมือนคนอื่นหรอ ?? หรือผิดที่ผมไม่ดูแลตัวเองหรอ ?? หรือจริงๆ แล้วมันผิดที่ตัวเธอเอง ที่เผลอมีใจให้คนอื่น จนมองข้ามสิ่งที่ผมเป็นอยู่ไปแล้ว ...
.
จากนั้นเธอก็ร้องไห้และขอโทษผม พร้อมทั้งสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก ... จนตอนนี้ผ่านมา 4 - 5 เดือน เธอกลับมาบอกว่า เธออยากจะเลิกกับผม และพาลูกไปอยู่กับเธอด้วย ...
.
โลกของผมแตกสลายไม่เหลืออะไรแล้ว ... ผมแพ้ทุกอย่าง รักษาไว้ไม่ได้แม้แต่ครอบครัวของตัวเอง ...