ใครพอแนะนำได้บ้างไหมคะ เราตกงาน รู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตเลย

สวัสดีค่ะทุกคน เราเป็นแม่ลูกอ่อนคนหนึ่งที่รู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตเลย เราอยากเล่าเรื่องราวชีวิตของเราให้ท่านฟัง และช่วยให้คำแนะนำเราหน่อยนะคะ 

ช่วง 2-3 ปีก่อน แม่เราเสียชีวิตค่ะ และพ่อเราพิการไม่มีคนดูแล เราเลยลาออกจากงานที่กรุงเทพไปเป็นเซลเขตที่พ่อเราอยู่เพื่อดูแลพ่อค่ะ
เราทำงานเป็นเซลขายของให้โรงบาลค่ะ ต้องขับรถเดินทางบ่อยเพื่อขายของให้บริษัท แต่ไม่ว่าไกลแค่ไหน เราจะพยายามขับรถ 4-5 ชั่วโมงเพื่อกลับบ้านทุกครั้งเพื่อไปกินข้าวกับพ่อที่พิการอยู่บ้านคนเดียว

แต่วันหนึ่งเราท้อง เราบอกหัวหน้าเราที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เราคิดว่าเขาจะแสดงความดีใจกับเรา แต่ไม่เลย หลังจากวันนั้นเขาบีบเราให้ออกจากงาน โกงเงินค่าคอมมิชชั่นกลั่นแกล้งให้ได้เงินช้า และได้น้อยกว่าที่ตกลงไว้ บีบบังคับหลายอย่าง เราเครียดมากค่ะ ร้องไห้ทุกวัน และมีภาวะแท้งคุกคามด้วย เราเลยตัดสินใจลาออก มีเงินเก็บหนึ่งก้อน และมีภาระหนี้สินมากมาย เราใช้เงินเก็บอย่างประหยัดที่สุด ประคองมาได้ถึงช่วงใกล้คลอด เงินก็หมดลงค่ะ เราจึงไม่ค่อยได้กินข้าว อาศัยข้าวจากที่เขาเหลือจากการขายในตลาดค่ะ ได้มาหนึ่งถุงต้องแบ่งทาน 3 มื้อ เพราะเราขอของเหลือเค้าได้แค่ชวงเย็นๆเท่านั้นได้มาแค่ไหนก็ต้องแบ่งเอาให้ได้กินเย็นนั้น พรุ่งนี้เช้า และกลางวัน ค่ะ 

หลังจากเราคลอดลูกได้หนึ่งเดือนแฟนเราก็ตกงานค่ะ เราเครียดกันมากไม่รู้จะเอาเงินไหนมาจ่ายค่าเช่าบ้าน น้ำไฟ หนี้เงินกู้ หนี้ผ่อนรถ เราคิดหลายรอบมาก ว่าจะคืนรถให้ธนาคาร และใช้การเดินเอาเวลาที่จะไปไหน แต่ธนาคารก็บอกว่า process มันไม่ได้ง่าย ต้องผ่อนกุญแจและเงินที่เป็นส่วนต่างจากการขายทอดตลาดอีกด้วย เราจึงตัดสินใจกัดฟันยืมเงินหนึ่งก้อนจากพ่อที่พิการซึ่งเป็นเงินที่เหลือจากค่าทำศพแม่เพื่อหอบลูกเข้ากรุงเทพมาทำงาน ตอนสัมภาษณ์งาน เราก็โกหกไปว่าเราจะเอาลูกไว้ที่บ้าน เราจะทำงานให้เค้าได้ แต่สุดท้ายเราทำใจไม่ได้ เราก็เอาลูกมาอยู่ด้วย 

ทำงานไปได้สัก1 เดือน สรรพกรเรียกเก็บภาษีแฟนเรา สองหมื่นบาท เรางงกันมาก พอสืบถึงรู้ว่า บริษัทเดิมที่เคยขอบัญชีม้าไป ซึ่งเราก็เอาบัญชีแฟนเราให้บริษัทไป บริษัทเขาเอาไปให้ลูกค้าใช้รับเงินใต้เก้าอี้เพราะลูกค้าเป็นข้าราชการโรงพยาบาลว่าง่ายๆก็คือไว้ใช้รับเงินทอนนั่นแหละ แต่มันโชคร้ายตรงที่เงินผ่านบัญชีแฟนเราหลายแสนทั้งๆที่เราไม่เคยได้จับบัญชีนั้นกันเลย เราไม่มีเงินแม้แต่จะกินข้าว เราจะไปแจ้งความเรื่องการทุจริตฉ้อราชบังหลวง ก็กลัวจะโดนว่าเป็นการยินยอมให้คนอื่นใช้บัญชีเดี๋ยวมาติดคุกกันอีก เลยติดต่อหัวหน้าเก่าไปเขาก็บอกไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียสุดท้ายแล้วเค้าก็ไม่ช่วยเรา สุดท้ายจึงต้องให้คนแก่ที่บ้านไปกู้เงินสหกรณ์มาจ่าย 

แต่ไม่รู้โลกจะกลมไปไหน บริษัทใหม่ที่เราทำงานได้มีโอกาสไปร่วมงานกับบริษัทเก่าเรา แล้วเจ้าของบริษัทใหม่ก็เรียกเรามาคุยว่า "เราโกหกเรื่องออกจากงานที่เดิม ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องท้อง" เราเลยงงว่าเรื่องอะไร พอเราถามเขาก็ไม่ยอมบอก ยิ่งเราถามเขายิ่งโกรธและบอกว่า "เราอ่ะเป็นคนสตอ..." และบอกว่าจะให้เราออกจากงาน สุดท้ายเค้าก็ให้เราออกจากงานจริงๆเราทำงานได้แค่ 3 เดือน 

ตอนนี้เรารู้สึกไม่มีความสุข เหมือนมันชาๆ มันไม่ได้เศร้าขนาดนั้นแต่มันเหมือนโลกนี้ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน อยากจะหนีเข้าป่า อยากไปปลูกบ้านเล็กๆเลี้ยงลูก แต่หนี้สินก็ท่วมหัวเหลือเงิน หนี้ที่ต้องจ่ายเดือนนึงรวมค่าน้ำค่าไฟก็ราวๆ สามหมื่นกว่าบาท เงินเดือนแฟนเราก็แค่ 19,000 เราก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ มันไม่อยากทำงานเลย มันมีแต่ จำใจต้องหางานเพราะฉันตกงานฉันเป็นหนี้ เพราะฉันต้องใช้หนี้ เพราะฉันไม่มีเงินกินข้าว ฉันต้องเลี้ยงลูก มันทรมานเหลือเกินค่ะ ไม่มีแพสชั่นในการทำงานเลย เราควรหาความสุขไหมคะ หรือแค่ไม่ทุกข์ก็เท่ากับสุขแล้วจริงๆหรอ (เราเคยเป็นซึมเศร้าและแพนิคหยุดยามาปีกว่าๆแล้วตั้งแต่ท้องอ่อนๆค่ะ ตอนนี้ยังให้นมอยู่เลยไม่ได้กินแต่คิดว่าอาจจะไม่เกี่ยวกับโรคก็ได้ที่เราเศร้าอาจจะเพราะเราเจอเรื่องแย่มากกว่า)

ช่วยแนะนำเราทีนะคะ ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่