ขออนุญาตสอบถามว่าใครเคยเจอเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ และดำเนินการอย่างไรต่อครับ
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ได้มีฝ่ายขายประกันของโบรกฯ TQ.... ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ เพื่อแจ้งการต่ออายุสัญญาประกันภัย
โดยได้มีการพูดคุย ดังนี้
Sale : แจ้งรายละเอียดเรื่องราคา ประมาณ 16,8xx.- บาท ผลประโยชน์ พร้อมทั้งสอบถามเรื่องการเครมในปีที่ผ่านมา
ผู้ซื้อ : ได้ตอบคำถาม พร้อมทั้งแจ้งว่ามีเครม 1 ครั้ง คือขับเบียดทางเท้า ซึ่งได้รับการเครมเรียบร้อยแล้ว
Sale : ได้ทำการตรวจสอบการประกัน ซึ่งแจ้งว่ามีการเครม 2 ครั้ง
ผู้ซื้อ : ได้ชี้แจงการเครมครั้งที่สองว่า เป็นกรณีมีคนมาขับเบียดกันชนท้าย ขณะรถเราจอดอยู่ ผู้ซื้อไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
โดยการเครมประกันดังกล่าวได้ออกใบเครมแล้วมีคู่กรณีครบถ้วน และผู้ซื้อได้เอาใบเครมไปแจ้งแก่ศูนย์
แต่ยังไม่ได้นำรถเข้าซ่อมแต่อย่างใด
Sale : ได้ดำเนินการตรวจสอบ และแจ้งราคาปรับขึ้นเป็น 17,500.- บาท
ผู้ซื้อ : ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับประกันพอสังเขป อาทิทุนประกัน การประกันบุคคลในรถ รวมถึงคู่กรณี
เกี่ยวกับวงเงินประกัน และตกลงทำประกัน โดยได้ถามย้ำกับทางผู้ขายว่า นี่คือราคาสุทธิ ไม่มีการเรียกเก็บอะไร
เพิ่มภายหลังแล้วใช่หรือไม่
Sale : ให้การยืนยันว่าไม่มีการเรียกเก็บเพิ่มภายหลัง นี่คือยอดสุทธิแล้ว
วันที่ 1 ตุลาคม 2565
Sale : ได้ให้เจ้าหน้าที่แมสเซนเจอร์ ของบริษัทฯ นำใบเสนอราคามาให้ พร้อมบาร์โค้ดเพื่อชำระเงินเข้าบริษัท และออกใบเสร็จในนามบริษัท
พร้อมทั้งแจ้งว่าจะได้รับกรมธรรม์ประมาณ 15 วัน ทำการ
ซึ่งกรณีนี้ผมได้ถือว่าการเสนอขายของบริษัท และซื้อเสร็จสิ้นสมบูรณ์
วันที่ 1 พฤษศจิกายน 2565 (ปล ยังไม่ได้กรมธรรม์)
เจ้าหน้าที่ บริษัทฯ : ได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่า มีการเครม 2 ครั้ง และต้องเรียกเก็บเบี้ยเพิ่มจากเดิม 17,500.- บาท เป็นประมาณ 20,500.- บาท
ผู้ซื้อ : ผมตกลงซื้อขายด้วยราคา 17,500.- บาท เรียบร้อยไปแล้วจะมาเรียกเก็บอะไรอีก ผมไม่ได้ปกปิดข้อมูลอะไร แจ้งครบทุกอย่าง
ทำไมผมถึงต้องจ่ายเพิ่ม
เจ้าหน้าที่บริษัท : กรณีของลูกค้ามีการเครม 2 ครั้ง จึงมีเบี้ยเพิ่ม หากลูกค้าไม่จ่ายเพิ่มส่วนต่างดังกล่าว ประกันภัยจะยกเลิกอัตโนมัติเมื่อครบอายุ
ประกันภัย คือวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565
ผู้ซื้อ : ยืนยันว่าจะไม่จ่ายเพิ่ม การแจ้งราคา ณ วันทำการซื้อขาย ซึ่งได้ยินยอมกันทั้งคู่ ผมจ่ายเงินแล้วบริษัทมีหน้าที่ต้องส่งสินค้าให้ผม ความผิดพลาด
อย่างอื่นเป็นปัญหาของบริษัทฯ ต้องไปเคลียกับพนักงานของคุณเอง จะมาเรียกเอาความเสียหายจากลูกค้าได้อย่างไร
เจ้าหน้าที่บริษัท : รับทราบปัญหาและจะขอดำเนินการตรวจสอบไฟล์เสียง ที่ทางฝ่ายขายได้แจ้งไว้
ผู้ซื้อ : ยินดีให้ตรวจสอบครับ และขอสำเนาไฟล์เสียงเพื่อขอหารือกับ คปภ ด้วยครับ
จากกรณีดังกล่าว ขอสอบถามว่า บริษัทฯ มีสิทธิขอปรับขึ้นราคาหรือไม่ อย่างไร และหากถึงวันครบกำหนดอายุประกันภัยของเราแล้ว บริษัทไม่ดำเนินการต่อให้ เราสามารถต่อบริษัทอื่น และฟ้องดำเนินการเรียกค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากส่วนต่างของราคาค่าเบี้ยประกัน รวมถึงความเสียอย่างอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่
ขอบคุณครับ
ประกันภัยรถยนต์ ขอปรับเบี้ยเพิ่มหลังจากเราซื้อประกันแล้ว
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ได้มีฝ่ายขายประกันของโบรกฯ TQ.... ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ เพื่อแจ้งการต่ออายุสัญญาประกันภัย
โดยได้มีการพูดคุย ดังนี้
Sale : แจ้งรายละเอียดเรื่องราคา ประมาณ 16,8xx.- บาท ผลประโยชน์ พร้อมทั้งสอบถามเรื่องการเครมในปีที่ผ่านมา
ผู้ซื้อ : ได้ตอบคำถาม พร้อมทั้งแจ้งว่ามีเครม 1 ครั้ง คือขับเบียดทางเท้า ซึ่งได้รับการเครมเรียบร้อยแล้ว
Sale : ได้ทำการตรวจสอบการประกัน ซึ่งแจ้งว่ามีการเครม 2 ครั้ง
ผู้ซื้อ : ได้ชี้แจงการเครมครั้งที่สองว่า เป็นกรณีมีคนมาขับเบียดกันชนท้าย ขณะรถเราจอดอยู่ ผู้ซื้อไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
โดยการเครมประกันดังกล่าวได้ออกใบเครมแล้วมีคู่กรณีครบถ้วน และผู้ซื้อได้เอาใบเครมไปแจ้งแก่ศูนย์
แต่ยังไม่ได้นำรถเข้าซ่อมแต่อย่างใด
Sale : ได้ดำเนินการตรวจสอบ และแจ้งราคาปรับขึ้นเป็น 17,500.- บาท
ผู้ซื้อ : ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับประกันพอสังเขป อาทิทุนประกัน การประกันบุคคลในรถ รวมถึงคู่กรณี
เกี่ยวกับวงเงินประกัน และตกลงทำประกัน โดยได้ถามย้ำกับทางผู้ขายว่า นี่คือราคาสุทธิ ไม่มีการเรียกเก็บอะไร
เพิ่มภายหลังแล้วใช่หรือไม่
Sale : ให้การยืนยันว่าไม่มีการเรียกเก็บเพิ่มภายหลัง นี่คือยอดสุทธิแล้ว
วันที่ 1 ตุลาคม 2565
Sale : ได้ให้เจ้าหน้าที่แมสเซนเจอร์ ของบริษัทฯ นำใบเสนอราคามาให้ พร้อมบาร์โค้ดเพื่อชำระเงินเข้าบริษัท และออกใบเสร็จในนามบริษัท
พร้อมทั้งแจ้งว่าจะได้รับกรมธรรม์ประมาณ 15 วัน ทำการ
ซึ่งกรณีนี้ผมได้ถือว่าการเสนอขายของบริษัท และซื้อเสร็จสิ้นสมบูรณ์
วันที่ 1 พฤษศจิกายน 2565 (ปล ยังไม่ได้กรมธรรม์)
เจ้าหน้าที่ บริษัทฯ : ได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่า มีการเครม 2 ครั้ง และต้องเรียกเก็บเบี้ยเพิ่มจากเดิม 17,500.- บาท เป็นประมาณ 20,500.- บาท
ผู้ซื้อ : ผมตกลงซื้อขายด้วยราคา 17,500.- บาท เรียบร้อยไปแล้วจะมาเรียกเก็บอะไรอีก ผมไม่ได้ปกปิดข้อมูลอะไร แจ้งครบทุกอย่าง
ทำไมผมถึงต้องจ่ายเพิ่ม
เจ้าหน้าที่บริษัท : กรณีของลูกค้ามีการเครม 2 ครั้ง จึงมีเบี้ยเพิ่ม หากลูกค้าไม่จ่ายเพิ่มส่วนต่างดังกล่าว ประกันภัยจะยกเลิกอัตโนมัติเมื่อครบอายุ
ประกันภัย คือวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565
ผู้ซื้อ : ยืนยันว่าจะไม่จ่ายเพิ่ม การแจ้งราคา ณ วันทำการซื้อขาย ซึ่งได้ยินยอมกันทั้งคู่ ผมจ่ายเงินแล้วบริษัทมีหน้าที่ต้องส่งสินค้าให้ผม ความผิดพลาด
อย่างอื่นเป็นปัญหาของบริษัทฯ ต้องไปเคลียกับพนักงานของคุณเอง จะมาเรียกเอาความเสียหายจากลูกค้าได้อย่างไร
เจ้าหน้าที่บริษัท : รับทราบปัญหาและจะขอดำเนินการตรวจสอบไฟล์เสียง ที่ทางฝ่ายขายได้แจ้งไว้
ผู้ซื้อ : ยินดีให้ตรวจสอบครับ และขอสำเนาไฟล์เสียงเพื่อขอหารือกับ คปภ ด้วยครับ
จากกรณีดังกล่าว ขอสอบถามว่า บริษัทฯ มีสิทธิขอปรับขึ้นราคาหรือไม่ อย่างไร และหากถึงวันครบกำหนดอายุประกันภัยของเราแล้ว บริษัทไม่ดำเนินการต่อให้ เราสามารถต่อบริษัทอื่น และฟ้องดำเนินการเรียกค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากส่วนต่างของราคาค่าเบี้ยประกัน รวมถึงความเสียอย่างอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่
ขอบคุณครับ