ตอนนี้มีปัญหากับทางบ้านภรรยา อยากรู้วิธีแก้ครับ รบกวนช่วยผมแก้ปัญหาตอนนี้ใครมีวิธีแนะนำผมได้นะครับ
ปัญหามีอยู่ว่า
ผมอยู่บ้านภรรยามา11ปี ตอนมามีรถ 1คัน คือเป็นรถเก๋ง บวกกับช่วงตกงาน ภรรยาเลยบอกปล่อยยึดไปเถอะใช้รถพ่อเรา พ่อเราให้ใช้ ไม่ต้องผ่อน ผมก้อเลยเอารถไปแต่ง พ่อจาก้อขอรถคืน หลังจากนั้นผ่านไป 2-3ปี พ่อของผมบวชเลยให้รถมา1คัน ผมก้อวิ่งไป ตจว. จนประสบอุบัติเหตุ เลยต้องขอยืมเงิน แม่ยายมาเป็นจำนวน 250000 บาท โดยผ่อนชำระ เดือนล่ะ 15000 บาท
เวลาผ่านไป ประมาณ 6ปี ผมได้ทำงานมีเงินเก็บนิดหน่อย เลยไปทำธุระกิจ รถตู้ทึบ ด้วยความที่คิดว่าตัวเองทำได้คิดถึงอนาคต ด้วยเพราะแลดูจะมั่นคง เลยคุยกับทางบ้านเมีย ว่า พ่อตากับแม่ยายช่วยกันลงทุนจะได้มีรถหลายคันเงินเข้าหลักแสน เราก้อบอกเค้าไปตามที่เราคิดได้ ค่าใช้จ่ายต่อ 1คัน
1.ค่าผ่อนรถ 8700 บาท
2.ค่าน้ำมัน 11000บาท
3.ค่าตัวคนขับ 14000บาท
แต่รายรับอยู่ที่ 30000บาท เลยทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย เลยทำให้พ่อตาแม่ยายเห็นว่าตัวเราเองใช้เงินของพวกเค้าฟรีๆ เลยทำให้แม่ยายจากที่เคยเอ็นดู กลายเป็นเกลียดเราแทน พ่อตาเลยเฉยๆกับเรา หนักสุดคือภรรยา จากเคยคุยเคยเล่นกะเรา กลับกลายเป็นทำเฉยๆ ด้าเรา ว่าเรา เป็นภาระ จากเคยนั้งกินข้าวด้วยกัน ต่างคนต่างกิน ผมไปทานข้าวที่บ้านไม่ได้ต้องไปหากินข้างนอก ณ.ปัจุบัน เป็นแบบนี้ เมื่อก่อนตอนหาเงินได้เยอะๆ ผมให้ภรรยาใช้ เดือนล่ะ 10000 จนมาถึงวันที่ผมลาออกจากงาน ก้อไม่ได้ให้กับทางภรรยาอีกเลยเพราะเงินไม่พอที่จะแบ่งให้ใครได้เลย แต่ตอนนี้ผมได้ให้กับทางแม่ยายเดือนล่ะ 1000 ภรรยา เดือนล่ะ4000 ตอนนี้ทุกอย่างก้อยังเหมื่อนเดิม ภรรยาไม่กลับมาเป็นเหมื่อนเดิม แถมชอบบอกกับเรา อยู่ได้ก้ออยู่อยู่ไม่ได้ก้อไป
ใครแนะนำข้อคิดดีดีให้ผมได้มีแนวทางในการใช้ชีวิตหน่อย ผมเหนื่อยจนไม่รู้จะเอาแรงกำลังใจจากตรงไหนเลย
นอกจาก มองหน้าลูก ให้ลูกหอมแก้ม จุ๊บเหม่ง ... ร้องไห้จนน้ำตาไม่มีแล้ว ครับ มันจุกอยู่ข้างในพูดกะใครแถวนี้ไม่ได้เลย
ช่วยผมหาทางออกด้วยครับ
ปัญหามีอยู่ว่า
ผมอยู่บ้านภรรยามา11ปี ตอนมามีรถ 1คัน คือเป็นรถเก๋ง บวกกับช่วงตกงาน ภรรยาเลยบอกปล่อยยึดไปเถอะใช้รถพ่อเรา พ่อเราให้ใช้ ไม่ต้องผ่อน ผมก้อเลยเอารถไปแต่ง พ่อจาก้อขอรถคืน หลังจากนั้นผ่านไป 2-3ปี พ่อของผมบวชเลยให้รถมา1คัน ผมก้อวิ่งไป ตจว. จนประสบอุบัติเหตุ เลยต้องขอยืมเงิน แม่ยายมาเป็นจำนวน 250000 บาท โดยผ่อนชำระ เดือนล่ะ 15000 บาท
เวลาผ่านไป ประมาณ 6ปี ผมได้ทำงานมีเงินเก็บนิดหน่อย เลยไปทำธุระกิจ รถตู้ทึบ ด้วยความที่คิดว่าตัวเองทำได้คิดถึงอนาคต ด้วยเพราะแลดูจะมั่นคง เลยคุยกับทางบ้านเมีย ว่า พ่อตากับแม่ยายช่วยกันลงทุนจะได้มีรถหลายคันเงินเข้าหลักแสน เราก้อบอกเค้าไปตามที่เราคิดได้ ค่าใช้จ่ายต่อ 1คัน
1.ค่าผ่อนรถ 8700 บาท
2.ค่าน้ำมัน 11000บาท
3.ค่าตัวคนขับ 14000บาท
แต่รายรับอยู่ที่ 30000บาท เลยทำให้รายได้ไม่พอกับรายจ่าย เลยทำให้พ่อตาแม่ยายเห็นว่าตัวเราเองใช้เงินของพวกเค้าฟรีๆ เลยทำให้แม่ยายจากที่เคยเอ็นดู กลายเป็นเกลียดเราแทน พ่อตาเลยเฉยๆกับเรา หนักสุดคือภรรยา จากเคยคุยเคยเล่นกะเรา กลับกลายเป็นทำเฉยๆ ด้าเรา ว่าเรา เป็นภาระ จากเคยนั้งกินข้าวด้วยกัน ต่างคนต่างกิน ผมไปทานข้าวที่บ้านไม่ได้ต้องไปหากินข้างนอก ณ.ปัจุบัน เป็นแบบนี้ เมื่อก่อนตอนหาเงินได้เยอะๆ ผมให้ภรรยาใช้ เดือนล่ะ 10000 จนมาถึงวันที่ผมลาออกจากงาน ก้อไม่ได้ให้กับทางภรรยาอีกเลยเพราะเงินไม่พอที่จะแบ่งให้ใครได้เลย แต่ตอนนี้ผมได้ให้กับทางแม่ยายเดือนล่ะ 1000 ภรรยา เดือนล่ะ4000 ตอนนี้ทุกอย่างก้อยังเหมื่อนเดิม ภรรยาไม่กลับมาเป็นเหมื่อนเดิม แถมชอบบอกกับเรา อยู่ได้ก้ออยู่อยู่ไม่ได้ก้อไป
ใครแนะนำข้อคิดดีดีให้ผมได้มีแนวทางในการใช้ชีวิตหน่อย ผมเหนื่อยจนไม่รู้จะเอาแรงกำลังใจจากตรงไหนเลย
นอกจาก มองหน้าลูก ให้ลูกหอมแก้ม จุ๊บเหม่ง ... ร้องไห้จนน้ำตาไม่มีแล้ว ครับ มันจุกอยู่ข้างในพูดกะใครแถวนี้ไม่ได้เลย