Laal Singh Chaddha: ลาล ซิงห์ จั๊ดด้า
" แม้จะปรับเข้ากับบริบทอินเดียได้ดี แต่การเคารพต้นฉบับมากเกินไป ทำให้หนังขาดความสร้างสรรค์ ความสดใหม่ไปมาก "
สวัสดีครับทุกท่าน ! สำหรับคอหนังคงไม่มีใครรู้จัก
Forrest Gump (1994) หนังคลาสสิคที่สร้างประทับใจให้กับผู้ชมมามากมาย ในปีนี้ ก็มีภาพยนตร์อินเดียที่รีเมค Forrest Gump ออกมาชื่อว่า
Laal Singh Chaddha (2022)
Laal Singh Chaddha ได้รับการกำกับโดย
Advait Chandan ที่น่าสนใจกว่า หนังเรื่องนี้มี
Aamir Khan (อาเมียร์ ข่าน) เป็นนักแสดงนำ อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังมาจาก
Aamir Khan Productions
เป็นที่รู้กันว่า อาเมียร์ ข่าน เป็นนักแสดงชั้นเยี่ยมของอินเดีย... ภาพยนตร์ของเขามักมีคุณภาพสูงกว่าหนังทั่วไปเสมอ
อาเมียร์ ข่าน กับบทบาทนักมวยปล้ำใน Dangal (2016)
ทว่าในเคสของ
Laal Singh Chaddha หากไปดูคะแนน IMDB จะพบว่าหนังได้รับเรตติ้งคะแนนต่ำมาก แถมยังเกิดกระแสบอยคอตหนังใน Social Media ทำให้หนังเรื่องนี้ มีกระแสย่ำแย่จนน่าปวดหัว
อย่างไรก็ดี ยังดีที่คะแนนใน
Rotten Tomatoes พอไปวัดไปวาได้
เกริ่นมาถึงขนาดนี้ ขออนุญาตเข้าส่วนรีวิวเลยแล้วกัน... หวังว่ารีวิวจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจนะครับ 😄
เรื่องย่อ
Laal Singh Chaddha | Official Trailer | Thai Sub
"ลาล ซิงห์ จั๊ดดา (อาเมียร์ ข่าน)" เริ่มพูดคุยสนทนากับผู้โดยสารฝั่งตรงข้ามระหว่างเดินทางด้วยรถไฟ โดยเล่าเรื่องราวตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็กระหว่างเขากับแม่อันเป็นที่รัก การพบกันครั้งแรกระหว่างเขากับ
"รูปา (Kareena Kapoor)" หญิงสาวที่เป็นผู้หล่อหลอมชีวิตของเขา
ขณะที่ลาลเล่าเรื่องราวของเขา ผู้โดยสารก็มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อฟังเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่เผยให้เห็นว่าลาลเป็นหนึ่งในประจักษ์พยานในเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์อินเดียสมัยใหม่ได้อย่างไร รวมถึงชีวิตของเขาได้อุทิศให้กับความรักที่เขามีให้อย่างไร [
Credit - Entertainment Trueid]
ความรู้สึกหลังชม
ลาล (อาเมียร์ ข่าน) และ รูปา (Kareena Kapoor)
- เห็นคนถล่มจนคะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน พอมาได้ดูจริง ๆ พบว่า หนังไม่ได้แย่อย่างที่คิด กลับกัน หนังเรื่องนี้มีดีและมีคุณภาพภาพยนตร์ที่สูงกว่าหนังทั่วไปด้วยซ้ำ ตามมาตรฐานภาพยนตร์ของอาเมียร์ ข่าน
[ ส่วนข้อดี ]
- จุดน่าประทับใจแรก ขอยกให้เป็นเรื่อง
"การเปลี่ยนบริบทต้นฉบับให้เข้ากับความเป็นอินเดีย" ชอบที่หนังปรับเปลี่ยนบริบทเรื่องให้เข้ากับวัฒนธรรมอินเดียได้อย่างกลมกลืน
ช็อคโกแลตรสฮอลลีวูด ถูกปรับเปลี่ยนเป็น
ปานีปูรี สัญชาติอินเดีย เหตุการณ์และวัฒนธรรมในเรื่องเล่าออกมาไหลลื่น พร้อมกับด้วยความรู้สึกพลังบวกจากชายที่ชื่อว่า
"ลาล" ทุกคนจึงรู้สึกสนุกและอบอุ่นหัวใจไปกับหนังได้ไม่ยาก
ปานีปูรี ที่มาแทน ช็อคโกแลต
- จุดที่ชอบถัดมา คือ
"Production ภาพยนตร์" ส่วนนี้ก็เป็นไปตามมาตรฐานหนังอาเมียร์ ข่าน มุมกล้อง สีภาพยนตร์ ดนตรีประกอบ คอสตูมถูกออกแบบอย่างสวยงามและเคารพต้นฉบับ
ที่น่าสนใจอีกอย่าง ก็ Location ในเรื่อง ต้องขอบคุณที่อินเดียมีดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล ทำให้หนังได้ภูมิประเทศที่หลากหลาย ซึ่งเข้ากับเนื้อเรื่องเป็นอย่างยิ่ง เมื่อลาลต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในอินเดีย
- การดำเนินเรื่องทำได้สนุก น่าติดตาม มีความฉูดฉาด เช่น การแทรกซีนเพลงเข้ามาสไตล์อินเดีย
ฉากวิ่งของลาลบนภูมิประเทศอันหลากหลายของอินเดีย
[ ส่วนข้อเสีย ]
- มาในส่วนข้อเสีย ก็ถือว่ามีไม่น้อย โดยส่วนใหญ่ จะเป็นข้อเสียที่มาจากการเทียบกับต้นฉบับ
-- ส่วนแรกเป็นเรื่อง
"โครงหลักภาพยนตร์ที่ดำเนินรอยตามต้นฉบับมากเกินไป" หนังดำเนินตามรอย Forrest Gump ทุกกระเบียดนิ้ว มองมุมหนึ่งคือ หนังเคารพต้นฉบับไว้อย่างดีเยี่ยม และสร้างตามรอยออกมาค่อนข้างดี มอบความบันเทิงกับผู้ชมได้
แต่หากมองอีกมุม การเคารพต้นฉบับทำให้ความสร้างสรรค์และความน่าสนใจของหนังหายไปพอสมควร ถ้าเคยดูเวอร์ชั่นเก่ามาก่อน ก็แทบจะเดาได้หมดทั้งเรื่อง และหลังจากที่ได้รับชม ตัวหนังยังไม่ได้มอบความรู้สึกว้าวมากเท่าไร ตรงกันข้ามกับต้นฉบับที่ทำให้ทุกคนหลงรัก พร้อมยกให้เป็นหนังอันดับหนึ่งในใจได้ทันที
Kahani: Sonu's Version 🤗 | Laal Singh Chaddha
-- ถ้าเทียบความคลาสสิคและอิมแพคที่มีต่อคนดู ต้นฉบับยังคงทำได้ดีกว่าเวอร์ชั่นนี้เช่นกัน ส่วนหนึ่งอาจเพราะ ผู้ชม (รวมถึงพวกเรา) คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์สหรัฐ ฯ และประวัติศาสตร์สากลมากกว่า นอกจากนี้หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Forrest Gump ยังมีนัยยะสำคัญกับแนวโน้มประวัติศาสตร์โลก ทำให้ Timeline ที่เกิดขึ้นใน Forrest Gump สร้างอิมแพคให้กับคนดูอย่างเหนียวแน่น
ขณะที่ใน Laal Singh Chaddha แม้ว่าจะใส่กิมมิค Timeline ประวัติศาสตร์อินเดียยุคใหม่มาได้ดี แต่สิ่งนี้อาจจะไม่ทำงานกับผู้ชมนอกอินเดียหรือผู้ที่ไม่มีพื้นฐานประวัติศาสตร์อินเดียมากนัก
สงครามเวียดนามถูกเปลี่ยนเป็น สงครามชายแดนอินเดีย - ปากีสถาน (Kargil War) ที่เกิดขึ้นในปี 1999
-- ข้อเสียอีกอย่าง ก็คือ
"ความเฉียบคมของหนังโดยรวม" ต้องยอมรับว่า ต้นฉบับเล่าเรื่องได้คมกว่า Laal Singh Chaddha มาในโหมดอินเดีย เนื้อเรื่องเข้มข้น สนุก บันเทิง แต่ว่าไปแล้ว ซีนดราม่าและซีนแสดงอารมณ์ยังบีบหัวใจได้ไม่เท่ากับเวอร์ชั่นแรก รวมถึงตัวเรื่องที่ค่อนข้างยืดเมื่อเทียบกับต้นฉบับ (ก็แหงละ ต้นฉบับแทบจะเป็น Top List ภาพยนตร์ที่คนประทับใจที่สุดในโลกไปแล้ว 😂)
— ในพาร์ทนักแสดง คาแรคเตอร์ของลาล มีความคล้ายกับบทบาทที่อาเมียร์ ข่าน แสดงใน PK หากเทียบกับคาแรคเตอร์ Forrest Gump ตัว Tom Hank ดูค่อนข้างจะแสดงได้เนียนเป็นธรรมชาติ สมจริงกว่า
-- จุดสุดท้าย คงเป็นความเสี่ยงที่เลือกหยิบหนังระดับตำนานมารีเมค สิ่งนี้เป็นดาบสองคม ยิ่งหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับเป็นระดับตำนานของวงการภาพยนตร์ การรีเมกให้ดีกว่าเดิม จึงดูเป็นอะไรที่ยาก เสี่ยงต่อการโดนวิจารณ์ในกรณีที่ทำไม่ได้เท่ามาตรฐานเดิม
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผมมองในแง่ชื่นชมมากกว่ามุมลบ หนังทำมาได้ขนาดนี้ จริง ๆ ก็อยู่ในระดับชื่นใจแล้ว
สรุป
ถ้ามองในแง่ที่ไม่เคยดู
Forrest Gump (1995) มาก่อน
Laal Singh Chaddha (2022) ถือว่าแสดงคุณภาพออกมาในมาตรฐานที่สูง น่าชื่นชม แต่ถ้าไปเทียบกับต้นฉบับ แน่นอนว่า หนังอาจจะต้องมีการปรับเพิ่ม เพื่อสร้างความต่างให้มากกว่านี้
อันที่จริง หากตีความใหม่และสลัดภาพเก่าไปเลย ไม่แน่ว่าหนังอาจจะน่าสนใจกว่าการเดินตามรอยเท้าเก่าทุกกระเบียดนิ้ว ซึ่ง อาเมียร์ ข่าน ก็ดูเป็นคนที่พอจะมีศักยภาพในการทำแบบนี้ได้อยู่แล้ว
ท้ายที่สุด ก็ขอแนะนำนะครับ เป็นหนังอินเดียที่ดี มีคุณภาพ สนุกดูเพลินบน Netflix เลยทีเดียว !
_________________________________
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพุดคุยหรือติดต่อกับผม
Laal Singh Chaddha (2022) - Forrest Gump อินเดียฉบับดูเพลิน แต่ยังไปไม่ถึงอย่างที่ต้นฉบับทำเอาไว้
Laal Singh Chaddha ได้รับการกำกับโดย Advait Chandan ที่น่าสนใจกว่า หนังเรื่องนี้มี Aamir Khan (อาเมียร์ ข่าน) เป็นนักแสดงนำ อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังมาจาก Aamir Khan Productions
เป็นที่รู้กันว่า อาเมียร์ ข่าน เป็นนักแสดงชั้นเยี่ยมของอินเดีย... ภาพยนตร์ของเขามักมีคุณภาพสูงกว่าหนังทั่วไปเสมอ
เรื่องย่อ
ขณะที่ลาลเล่าเรื่องราวของเขา ผู้โดยสารก็มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อฟังเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่เผยให้เห็นว่าลาลเป็นหนึ่งในประจักษ์พยานในเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์อินเดียสมัยใหม่ได้อย่างไร รวมถึงชีวิตของเขาได้อุทิศให้กับความรักที่เขามีให้อย่างไร [Credit - Entertainment Trueid]
ความรู้สึกหลังชม
[ ส่วนข้อดี ]
- จุดน่าประทับใจแรก ขอยกให้เป็นเรื่อง "การเปลี่ยนบริบทต้นฉบับให้เข้ากับความเป็นอินเดีย" ชอบที่หนังปรับเปลี่ยนบริบทเรื่องให้เข้ากับวัฒนธรรมอินเดียได้อย่างกลมกลืน ช็อคโกแลตรสฮอลลีวูด ถูกปรับเปลี่ยนเป็น ปานีปูรี สัญชาติอินเดีย เหตุการณ์และวัฒนธรรมในเรื่องเล่าออกมาไหลลื่น พร้อมกับด้วยความรู้สึกพลังบวกจากชายที่ชื่อว่า "ลาล" ทุกคนจึงรู้สึกสนุกและอบอุ่นหัวใจไปกับหนังได้ไม่ยาก
ที่น่าสนใจอีกอย่าง ก็ Location ในเรื่อง ต้องขอบคุณที่อินเดียมีดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล ทำให้หนังได้ภูมิประเทศที่หลากหลาย ซึ่งเข้ากับเนื้อเรื่องเป็นอย่างยิ่ง เมื่อลาลต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในอินเดีย
- การดำเนินเรื่องทำได้สนุก น่าติดตาม มีความฉูดฉาด เช่น การแทรกซีนเพลงเข้ามาสไตล์อินเดีย
-- ส่วนแรกเป็นเรื่อง "โครงหลักภาพยนตร์ที่ดำเนินรอยตามต้นฉบับมากเกินไป" หนังดำเนินตามรอย Forrest Gump ทุกกระเบียดนิ้ว มองมุมหนึ่งคือ หนังเคารพต้นฉบับไว้อย่างดีเยี่ยม และสร้างตามรอยออกมาค่อนข้างดี มอบความบันเทิงกับผู้ชมได้
แต่หากมองอีกมุม การเคารพต้นฉบับทำให้ความสร้างสรรค์และความน่าสนใจของหนังหายไปพอสมควร ถ้าเคยดูเวอร์ชั่นเก่ามาก่อน ก็แทบจะเดาได้หมดทั้งเรื่อง และหลังจากที่ได้รับชม ตัวหนังยังไม่ได้มอบความรู้สึกว้าวมากเท่าไร ตรงกันข้ามกับต้นฉบับที่ทำให้ทุกคนหลงรัก พร้อมยกให้เป็นหนังอันดับหนึ่งในใจได้ทันที
ขณะที่ใน Laal Singh Chaddha แม้ว่าจะใส่กิมมิค Timeline ประวัติศาสตร์อินเดียยุคใหม่มาได้ดี แต่สิ่งนี้อาจจะไม่ทำงานกับผู้ชมนอกอินเดียหรือผู้ที่ไม่มีพื้นฐานประวัติศาสตร์อินเดียมากนัก
— ในพาร์ทนักแสดง คาแรคเตอร์ของลาล มีความคล้ายกับบทบาทที่อาเมียร์ ข่าน แสดงใน PK หากเทียบกับคาแรคเตอร์ Forrest Gump ตัว Tom Hank ดูค่อนข้างจะแสดงได้เนียนเป็นธรรมชาติ สมจริงกว่า
-- จุดสุดท้าย คงเป็นความเสี่ยงที่เลือกหยิบหนังระดับตำนานมารีเมค สิ่งนี้เป็นดาบสองคม ยิ่งหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับเป็นระดับตำนานของวงการภาพยนตร์ การรีเมกให้ดีกว่าเดิม จึงดูเป็นอะไรที่ยาก เสี่ยงต่อการโดนวิจารณ์ในกรณีที่ทำไม่ได้เท่ามาตรฐานเดิม
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผมมองในแง่ชื่นชมมากกว่ามุมลบ หนังทำมาได้ขนาดนี้ จริง ๆ ก็อยู่ในระดับชื่นใจแล้ว
สรุป
อันที่จริง หากตีความใหม่และสลัดภาพเก่าไปเลย ไม่แน่ว่าหนังอาจจะน่าสนใจกว่าการเดินตามรอยเท้าเก่าทุกกระเบียดนิ้ว ซึ่ง อาเมียร์ ข่าน ก็ดูเป็นคนที่พอจะมีศักยภาพในการทำแบบนี้ได้อยู่แล้ว
ท้ายที่สุด ก็ขอแนะนำนะครับ เป็นหนังอินเดียที่ดี มีคุณภาพ สนุกดูเพลินบน Netflix เลยทีเดียว !