ตั้งเเต่เด็กๆ ( ประมาณ อ.1 - ป 2) บ้านผมก็ไม่มี ต้องมานอนบ้านญาติ เนื่องจากครอบครัวตอนนั้นย่ำเเย่จนบ้านโดนยึด พอมาอยู่บ้านญาติ พ่อเเม่ผมก็ต้องจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำ เพื่อเป็นการเเลกเปลี่ยนที่ให้อยู่ ทั้งๆที่พวกเขา เปิดเเอร์เปิดไฟทิ้งไว้ทั้งวัน เเถมเวลาผมมีของเล่นก็โดนเด็กในบ้านญาติขโมยไปเล่น พอจะเอาคืน ย่าก็บอกให้น้องไปน้ำใจไม่มีรึไง ผมเลยทำอะไรไม่ได้เเถมพ่อเเม่ก็ติดงานจนไม่มีเวลาเล่นด้วย เเถมย่าก็เล่นเเต่พนัน พ่อก็จ้างพี่เลี้ยงเด็กมานะ เเต่พี่เลี้ยงเด็กก็โกงเงินบอกว่าผมกินเดือน 1 ก็ 7-8 พัน ทั้งๆที่ตอนนั้นผมกินเเค่ลูกชิ้นปิ้งกับอาหารตามสั่งเอง ( เงินเดือนเเยกกับค่ากิน ) เเถมหาเพื่อนเล่นที่โรงเรียนไม่เก่งเพราะโดนเเกล้งเเละกีดกันที่ตัวผมเองจน โดนล้อทุกวัน เเต่ก็กล้าเข้าสังคมได้เพราะมีเพื่อน ผญ คนหนึ่งที่ค่อยมาหาตอนผมอยู่คนเดียว เเละได้เรียนรู้ระบบสังคมจาก รร วัด ผมก็อยู่ที่บ้านญาติได้สักพัก จนมีปัญหาโดนเเกล้งหนักขึ้นเรื่อยๆจนผมร้องไห้เเละขอให้ทุกคนช่วยทั้งเพื่อน ทั่งครู ก็ไม่มีใครช่วยเลยสักคน เป็นเเบบนั้นสักพักจนผมเริ่มชินกับการโดนเเกล้ง จนป้าให้มาเฝ้าบ้าน จนผมได้ย้ายจาก บ้านญาติบ้าๆนี่ได้
ช่วง ป2- ม 2 ผมได้อยู่บ้านป้าที่ให้เฝ้าเเต่ปัญหาการเงินก็ตามมาอีกเพราะ พ่อตกงาน โดนโกง เเม่เลยต้องทำงานคนเดียว เเถมขอความช่วยเหลือใครก็ไม่มีใครช่วย เเถมโดนดูถูกอีก โดนล้อ จากคนที่เรารู้จัก เเละ ไม่รู้จัก พอเรียนจบ ป..6 ผมก็ไป ต่อ ม.ต้น ซึ่งคิดว่าจะรอดจากสังคมเเบบเดิมเเต่กลับมาเจอหนักกว่าเดิมเนื่องจาก เเม่ส่งมาให้เรียน ห้องพิเศษ ที่มีอังกฤษล้วนๆ ยกเว้น วิชาสังคม ไทย ง่ายๆ คือ ห้อง MEP นี่เเหละ เทอมละ 35000 คือ อยากให้ลูกได้ดีเเต่ไม่ถามลูกเลยว่าอยากเรียนไหม พอมาอาจารย์ก็ไม่สนอีกว่าจะเก่งภาษาหรือไม่ จนผมเรียนไม่รู้เรื่อง เเถมโดนเพื่อนในห้องกีดกันอีก โดนเเกล้ง โดนดูถูก เเต่ผมก็ไม่สนใจนะ เพราะโดนมาเเต่เด็กเเล้ว เเต่ที่เเปลกใหม่คือ พอทำดี ใจดี ก็หาว่าเราเป็นขี้ข้า ผมเลยเลิกใจดีกับมนุษย์เลย พอถามอาจารย์ที่เรียนไม่รู้เรื่องก็บอกว่าไม่ตั้งใจเรียนอีก พอกลับบ้านปรึกษาพ่อเเม่ก็...โดนด่าโง่อีก เเถมกลับมาก็นอนเเล้วบอกไปถามครูซะ.... ช่วงสังคม ม. ต้นคือ ไม่มีคนคุยเลย นอกจากเพื่อนในเกมส์ที่เล่นกัน 1 ชม เอง
ช่วง ม. 3 พอใกล้จบห้อง MEP ผมก็จะอยู่ห้องทั่วไปตอน ม.4 ซึ่งตอนนั้นเป็นคนไม่สนใครเเล้ว อยากเรียนในสิ่งที่อยาก พอใกล้จบ ผมก็ say good bye พวกขยะในห้อง MEP เเละได้ย้ายบ้าน เป็นบ้านของตัวเองสักที ที่เเม่หาเงินมาเองส่วนพ่อกับย่าก็เกาะเป็นปลิง ตกงานตั้งเเต่ ผม ป.2 ยันตอนนี้เเถมไม่ทำอะไรอีก ผมเคยมีเเฟน เเต่เเฟนหลอกใช้เงินจากผม ซึ่งผมรู้เเต่ไม่ให้ ก็เลิกกันไป 3 - 4 คน ซึ่งเจอเเต่พวกตัวเมียน่าเงินทั้งนั้น พอจบ ม.3 อาจารย์บอก อังกฤษ ผมห่วย จบไปทำอะไรไม่ได้หรอก หางานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ตอนนั้นผมก็ทำได้เเค่เงียบๆ พอขึ้น ม.4 ผมเจอเพื่อนที่ดี เเต่พอใกล้จบ ม.4 นิสัยก็ออกลายเเถมเจอเพื่อน ม.ต้นตามมาบอกว่าผมเป็นเเค่ขี้ข้าหลอกใช้ได้ ผมเลยลาออกไป สอบ รร ช่าง
ปวช1-3 พอผมย้ายมา รร ช่าง เเต่เป็นระบบทหาร เเรกๆก็อยู่ลำบากเเต่พอไปๆมาก็ชิน เเละได้พบกับสังคมเเบบใหม่ที่มีคนหลาย จังหวัด มาอยู่ด้วยกัน ซึ่งเเรกๆก็ดีเเหละ เเต่พอ ปี 1 เทอม 2 เกรดผมที่โล่งในรุ่น เหมือนตอน ม.ต้น ก็โดนล้อ ดูถูก เป็นขี้ปากของคนรู้จักเเละไม่รู้จัก พอผมข้อความช่วยเหลือใครก็ไม่มีใครช่วยอีก เพราะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของตน เเต่ผมก็พยายามนะ จนเรียนจบ เเล้วสอบติดทหาร ตอนอายุ 18
ช่วงทำงาน ผมก็ได้เเต่ดูเพื่อนที่ยังเรียนอยู่กับญาติพี่น้องที่กำลังขอส่วนบุญ ขอเงินเพราะมีงานทำ ซึ่งผมไม่ให้เเน่นอน เจอคนร่วมชั้นเรียนขอยืมเงิน ขอให้ช่วยเส้นเข้าไปทำงาน ผมก็ไม่สนเพราะเขาไม่เคยสนใจผมเลย จนผมนั้น ได้เจอพวกเดียวเเบบผมนี่เเหละ จากทางโลกอินเตอร์เน็ตหรือ ชีวิตจริงบ้าง ทุกคนที่ผมรู้จักล้วนเป็นพวกถูกสังคมทำร้าย พ่อเเม่ทิ้ง ไร้ความเห็นใจจากคนอื่น ผมที่กำลังเรียนรู้เเละเก่งด้านๆ หนึ่ง ส่วนที่เหลือก็มีความเก่งคนละด้าน
ขอเข้าประเด็นเลย ถ้าจู่ๆ มีพวกคนที่ทำลายความสงบสุขในสังคมนี้จนเป็นนรก ทำร้ายคุณทั้งๆที่คุณไม่รู้จักเขา จะผิดไหม?
ถึงมนุษย์จะมีดีกับเลว ก็ไม่ต่างจากคำว่า มีประโยชน์กับไม่มีประโยชน์นั้นเเหละ
ผมจะผิดไหม ถ้าทำลายระบบสังคมทิ้ง?
ช่วง ป2- ม 2 ผมได้อยู่บ้านป้าที่ให้เฝ้าเเต่ปัญหาการเงินก็ตามมาอีกเพราะ พ่อตกงาน โดนโกง เเม่เลยต้องทำงานคนเดียว เเถมขอความช่วยเหลือใครก็ไม่มีใครช่วย เเถมโดนดูถูกอีก โดนล้อ จากคนที่เรารู้จัก เเละ ไม่รู้จัก พอเรียนจบ ป..6 ผมก็ไป ต่อ ม.ต้น ซึ่งคิดว่าจะรอดจากสังคมเเบบเดิมเเต่กลับมาเจอหนักกว่าเดิมเนื่องจาก เเม่ส่งมาให้เรียน ห้องพิเศษ ที่มีอังกฤษล้วนๆ ยกเว้น วิชาสังคม ไทย ง่ายๆ คือ ห้อง MEP นี่เเหละ เทอมละ 35000 คือ อยากให้ลูกได้ดีเเต่ไม่ถามลูกเลยว่าอยากเรียนไหม พอมาอาจารย์ก็ไม่สนอีกว่าจะเก่งภาษาหรือไม่ จนผมเรียนไม่รู้เรื่อง เเถมโดนเพื่อนในห้องกีดกันอีก โดนเเกล้ง โดนดูถูก เเต่ผมก็ไม่สนใจนะ เพราะโดนมาเเต่เด็กเเล้ว เเต่ที่เเปลกใหม่คือ พอทำดี ใจดี ก็หาว่าเราเป็นขี้ข้า ผมเลยเลิกใจดีกับมนุษย์เลย พอถามอาจารย์ที่เรียนไม่รู้เรื่องก็บอกว่าไม่ตั้งใจเรียนอีก พอกลับบ้านปรึกษาพ่อเเม่ก็...โดนด่าโง่อีก เเถมกลับมาก็นอนเเล้วบอกไปถามครูซะ.... ช่วงสังคม ม. ต้นคือ ไม่มีคนคุยเลย นอกจากเพื่อนในเกมส์ที่เล่นกัน 1 ชม เอง
ช่วง ม. 3 พอใกล้จบห้อง MEP ผมก็จะอยู่ห้องทั่วไปตอน ม.4 ซึ่งตอนนั้นเป็นคนไม่สนใครเเล้ว อยากเรียนในสิ่งที่อยาก พอใกล้จบ ผมก็ say good bye พวกขยะในห้อง MEP เเละได้ย้ายบ้าน เป็นบ้านของตัวเองสักที ที่เเม่หาเงินมาเองส่วนพ่อกับย่าก็เกาะเป็นปลิง ตกงานตั้งเเต่ ผม ป.2 ยันตอนนี้เเถมไม่ทำอะไรอีก ผมเคยมีเเฟน เเต่เเฟนหลอกใช้เงินจากผม ซึ่งผมรู้เเต่ไม่ให้ ก็เลิกกันไป 3 - 4 คน ซึ่งเจอเเต่พวกตัวเมียน่าเงินทั้งนั้น พอจบ ม.3 อาจารย์บอก อังกฤษ ผมห่วย จบไปทำอะไรไม่ได้หรอก หางานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ตอนนั้นผมก็ทำได้เเค่เงียบๆ พอขึ้น ม.4 ผมเจอเพื่อนที่ดี เเต่พอใกล้จบ ม.4 นิสัยก็ออกลายเเถมเจอเพื่อน ม.ต้นตามมาบอกว่าผมเป็นเเค่ขี้ข้าหลอกใช้ได้ ผมเลยลาออกไป สอบ รร ช่าง
ปวช1-3 พอผมย้ายมา รร ช่าง เเต่เป็นระบบทหาร เเรกๆก็อยู่ลำบากเเต่พอไปๆมาก็ชิน เเละได้พบกับสังคมเเบบใหม่ที่มีคนหลาย จังหวัด มาอยู่ด้วยกัน ซึ่งเเรกๆก็ดีเเหละ เเต่พอ ปี 1 เทอม 2 เกรดผมที่โล่งในรุ่น เหมือนตอน ม.ต้น ก็โดนล้อ ดูถูก เป็นขี้ปากของคนรู้จักเเละไม่รู้จัก พอผมข้อความช่วยเหลือใครก็ไม่มีใครช่วยอีก เพราะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของตน เเต่ผมก็พยายามนะ จนเรียนจบ เเล้วสอบติดทหาร ตอนอายุ 18
ช่วงทำงาน ผมก็ได้เเต่ดูเพื่อนที่ยังเรียนอยู่กับญาติพี่น้องที่กำลังขอส่วนบุญ ขอเงินเพราะมีงานทำ ซึ่งผมไม่ให้เเน่นอน เจอคนร่วมชั้นเรียนขอยืมเงิน ขอให้ช่วยเส้นเข้าไปทำงาน ผมก็ไม่สนเพราะเขาไม่เคยสนใจผมเลย จนผมนั้น ได้เจอพวกเดียวเเบบผมนี่เเหละ จากทางโลกอินเตอร์เน็ตหรือ ชีวิตจริงบ้าง ทุกคนที่ผมรู้จักล้วนเป็นพวกถูกสังคมทำร้าย พ่อเเม่ทิ้ง ไร้ความเห็นใจจากคนอื่น ผมที่กำลังเรียนรู้เเละเก่งด้านๆ หนึ่ง ส่วนที่เหลือก็มีความเก่งคนละด้าน
ขอเข้าประเด็นเลย ถ้าจู่ๆ มีพวกคนที่ทำลายความสงบสุขในสังคมนี้จนเป็นนรก ทำร้ายคุณทั้งๆที่คุณไม่รู้จักเขา จะผิดไหม?
ถึงมนุษย์จะมีดีกับเลว ก็ไม่ต่างจากคำว่า มีประโยชน์กับไม่มีประโยชน์นั้นเเหละ