ทุกข์ชาวบ้าน! น้ำท่วมทั้งวัด ต้องขนโลงศพลงเรือไปเผาที่เมรุ ส่งดวงวิญญาณสู่สุขคติ
https://www.dailynews.co.th/news/1608736/
 
น้ำท่วมทั้งวัด สูงกว่า 1.50 เมตร ญาติต้องขนโลงศพลงเรือ ลากไปเผาที่เมรุ ส่งดวงวิญญาณสู่สุขคติ เผยทั้งพระนครศรีอยุธยา วัดได้รับผลกระทบอุทกภัย 207 วัด
 
 
สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ถึงแม้ระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มทรงตัว และเริ่มลดลงเล็กน้อย แต่ระดับน้ำที่ท่วมยังคงสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในการดำรงชีวิตประจำวันของชาวบ้าน
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่วัดพิกุลโสคันธ์ หมู่ 2 ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณวัดถูกน้ำท่วม โบสถ์ วิหาร ศาลาธรรมสังเวช เมรุ น้ำท่วมสูงประมาณ 1.50 เมตร ทางวัดต้องใช้นั่งร้าน เศษไม้ ทำสะพานไม้เป็นทางเดินเข้าไปภายในวัด
  
โดยที่ศาลาการเปรียญ มีการประกอบพิธีณาปนกิจศพ นายสำเนา สุขเลิศกิข อายุ 81 ปี ที่เสียชีวิตโดยโรคชรา อย่างไรก็ตาม ภายในบริเวณวัดถูกน้ำท่วม ทางญาติได้ประกอบพิธีทอดผ้าบังสุกุล และให้ญาติที่มาร่วมงานวางดอกไม้จันทน์ เพื่อไว้อาลัย บนศาลการเปรียญแทน หลังเสร็จพิธีได้เคลื่อนย้ายศพลงจากศาลาการเปรียญ แล้วนำลงเรือท้องแบน โดยพระสงฆ์สามเณร นั่งภายในเรือเข็นเรือที่บรรทุกโลงศพไปยังเมรุ แล้ววน 3 รอบ การเคลื่อนย้ายเป็นไปอย่างทุลักทุเล ลูกหลาน ครอบครัวนั่งเรือตามไปเพื่อร่วมในการเผาศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
  
ขณะที่ สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยข้อมูล วัดที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อมูลจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีวัดที่ได้รับผลกระทบ รวม 11 อำเภอ จำนวน 207 วัด โดยวัดในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา มีวัดถูกน้ำท่วมมากที่สุด 42 วัด และอำเภอบางบาล ถูกน้ำท่วม 31 วัด
 

---

 
เซ่นควบรวม!! ดีลเลอร์เติมเงินโอด ‘กสทช.’ ลงมติไม่ถึง 24 ชม. โดนตัดค่าคอมมิชชั่น
https://www.matichon.co.th/economy/news_3634565
  
เซ่นควบรวม!! ดีลเลอร์เติมเงินโอด ‘กสทช.’ ลงมติไม่ถึง 24 ชม. โดนตัดค่าคอมมิชชั่นแล้ว คู่ค้ารายย่อยเริ่มกังวล กีดกันการค้าปะทุเริ่มแล้ว
  
จากกรณี เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่ประชุม กสทช.มีมติ 3 ต่อ 2 เสียงรับทราบการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือทรู และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แบบมีเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะ เพื่อเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
สำหรับกรรมการ กสทช. 2 เสียงที่ลงมติเห็นชอบกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. และนายต่อพงศ์ เสลานนท์  ส่วน กสทช. 2 เสียงที่ไม่เห็นชอบ ประกอบด้วย นายศุภัช ศุภชลาศัย และนางพิรงรอง รามสูต ขณะที่ พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กสทช. งดออกเสียง เนื่องจากยังมีประเด็นปัญหาการตีความในแง่กฎหมาย จึงยังไม่สามารถพิจารณาได้อย่างชัดเจน โดยจะขอทำบันทึกในภายหลัง
 
ทั้งนี้ เนื่องจากการลงมติที่ประชุมมีคะแนนเสียงเท่ากัน ดังนั้น ประธานที่ประชุมได้ใช้อำนาจตามข้อ 41 ของระเบียบ กสทช.ว่าด้วยข้อบังคับการประชุม  กสทช.พ.ศ.2555 ออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด

ซึ่งภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังลงมติควบรวมกจิการดังกล่าว เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อกังขาถึงวิธีการลงมติ บนโลกโซเชียล และในแวดวงนักกฎหมาย นักวิชาการ และภาคธุรกิจต่างๆ อย่างมาก และล่าสุด บริษัท wePAY ตัวแทนเติมเงินโทรศัพท์มือถือรายหนึ่ง ได้โพสต์ ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจ wePAY ว่า

“ทาง wePAY ต้องขออภัยลูกค้าทุกท่าน แต่เนื่องจากทางเครือข่ายทรูมูฟเอชมีการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นใหม่โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า (เนื่องจากทางเครือข่ายสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า) ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทาง wePAY มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเงิน คืนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2565”
 
และยังได้คอมเมนต์เพิ่มเติมว่า “ประกาศแจ้งล่วงหน้า! บริการเติมเงินมือถือ ทรูมูฟเอช จะมีการปรับลดอัตราเงินคืน จากเดิม 3.5% เป็น 3% สำหรับสมาชิกโดยทั่วไป และ 3.25% สำหรับสมาชิกประเภทร้านค้า เนื่องจากทางเครือข่ายผู้ให้บริการมีการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการบริการเพิ่มสูงขึ้น โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป”
 
โดยมีผู้เข้ามาคอมเม้นท์วิจารณ์อย่างหนัก เช่น ก็ค่อยๆ หาเหตุผลทีละนิดทีละหน่อย เล็กๆ น้อยๆ เหมือนไม่ค่อยรู้สึกว่ากระทบอะไร แต่นานวันก็รู้สึกว่าโดนไปเยอะแล้ว, นี่แหละความผิดของ กสทช 3 เสียงที่สมควรประนาม, ผลกระทบของการควบรวมกิจการ สำแดงฤทธิ์แล้วสินะ ขณะนี้ โพสต์ดังดล่าวได้ถูกลบไปแล้ว

นอกจากนี้ บนทวิตเตอร์ยังโพสต์กันเดือดถึงเรื่องนี้ แสดงให้เห็นถึงความกังวลใจที่หลายฝ่ายเกรงว่า เมื่อควบรวมแล้วจะกระทบกับการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยจะถูกกีดกันทางการค้า ได้เริ่มแล้วหรือไม่ เริ่มจากคู่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อย ถูกบริษัททรูประกาศลดค่าคอมมิชชั่นแล้วอย่างเป็นทางการ
 
โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังแหล่งข่าวในแวดวงดีลเลอร์ ได้รับคำตอบว่า คาดว่าโอเปอร์เรเตอร์ทุกรายกำลังปรับลดค่าคอมมิชชั่นในเร็วๆ นี้แน่นอน  เพราะกลไกการตลาดเปลี่ยนไป โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ มีอำนาจต่อรองเหนือผู้ประกอบการรายย่อยแบบมีเพดานที่ห่างขึ้นไปอีก ไม่นับที่โอเปอเรเตอร์รายใหญ่มีช่องทางจัดจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทำให้รายย่อยที่เคยทำมาหากินยากอยู่แล้ว ยิ่งลำบากเข้าไปอีก กระทบสภาพเศรษฐกิจแน่นอน อีกทั้ง มาตรการเฉพาะของ กสทช. ที่จะออกมา ไม่ช่วยปกป้องผู้ประกอบการรายย่อยเลยด้วย ถือว่าน่ากังวลมาก
  

---

  
อุ๊งอิ๊ง สวมชุดอินเดีย พาคณะเพื่อไทยชมงานดิวาลี ปชช.แห่ถ่ายรูปคึกคัก
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3634372

อุ๊งอิ๊ง สวมชุดอินเดีย พาคณะเพื่อไทยชมงานดิวาลี ปชช.แห่ถ่ายรูปคึกคัก
 
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ตุลาคม ที่คลองโอ่งอ่าง พาหุรัด น ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ ส.ส.กทม. เดินทางร่วมงานเทศกาลดิวาลี และชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองอินเดีย แสง สี เสียง สไตล์บอลลีวูด ชิมอาหารอินเดียน-ไทย
 
โดย น.ส.แพทองธาร และคณะได้สวมชุดสไตล์อินเดีย เข้าสักการะพระพิฆเนศและพระลักษมี ที่นำมาประดิษฐานไว้ให้ประชาชนสักการะในงาน พร้อมพบปะทักทายประธาน VHP Mr. Susheel Sarraff เจ้าของกลุ่ม Saraff ซึ่งประกอบด้วยอัญมณี เครื่องประดับ และโรงไฟฟ้า และนายชวน ฐกูร นายกสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
 
Mr. Ravi Sehgal ประธานหอการค้าไทยอินเดีย ITCC ที่มาให้การต้อนรับ ก่อนเยี่ยมชมบูธต่างๆ โดยมีประชาชนให้ความสนใจและถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก

 

---

  
เตรียมส่งตัว “เค ร้อยล้าน” ตรวจอาการทางจิต หลังบุกป่วนงานหนังสือ
https://www.nationtv.tv/news/crime/378890460

โฆษก บช.น. เผย เตรียมคุม “เค ร้อยล้าน” ส่ง รพ.สมเด็จเจ้าพระยา หลังมีประวัติรักษาป่วยทางจิต ก่อนแจ้งข้อหา ป่วนงานหนังสือฯ -ขณะที่ก่อนเกิดเหตุพยายามเข้าล็อกคอ “ธนาธร” แต่ถูกการ์ดควบคุมตัวไว้ได้
 
ความคืบหน้าภายหลังตำรวจ สน.ลุมพินี ควบคุมตัวนายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ "เค ร้อยล้าน" ผู้ก่อความวุ่นวายภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ บริเวณบูธมูลนิธิคณะก้าวหน้า พร้อมนำกระเป๋าใบหนึ่งโยนลงบนพื้น และตะโกนว่า "มีระเบิด" ทำให้ผู้คนแตกตื่น และเกิดความโกลาหลวิ่งหนีออกจากบริเวณงาน
 
 23 ตุลาคม 2565 ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล(โฆษก บช.น.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา กระทำการอันให้เกิดความแตกตื่นโกลาหล แก่ผู้ก่อเหตุ แต่เนื่องจากเคยมีประวัติการรักษาอาการทางจิต หลังจากนี้จึงต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบอาการทางจิตก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุ "เค ร้อยล้าน" ได้เดินทางมาที่บูธมูลนิธิคณะก้าวหน้า E11 ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะนั้นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า อยู่ระหว่างการแจกลายเซ็นต์ที่บูธดังกล่าว เจ้าตัวพยายามบุกเข้าไปล็อกคอนายธนาธร ก่อนถูกการ์ดในงานเข้าควบคุมตัว เจ้าตัวจึงโยนกระเป๋า พร้อมโวยวายทำให้คนในงานต่างพากันวิ่งหนี