"ปตท."เล็งตอกเสาเข็มโรงงานผลิตอีวีปีนี้ พร้อมเริ่มลุยผลิตต้นปี 67 ระบุเป้ากำลังการผลิตพลังงานทดแทน 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 2573
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) หรือโรงงานอีวี ว่า มีแผนเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ และคาดว่าโรงงานจะเเล้วเสร็จและสามารถเปิดดำเนินการได้ในต้นปี 2567
ทั้งนี้ ในส่วนของพลังงานทดแทนนั้น ปตท.มีแผนเพิ่มกำลังการพลังงานทดแทน 7,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 2573
ส่วนสถานการณ์ราคาพลังงานปี 2566 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบปีหน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 85-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันกลุ่มผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก (โอเปก) พยายามลดกำลังการผลิต ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ความต้องการน้อยลง ราคาจึงลดลงในเวลาเดียวกัน จึงจะเห็นได้ว่าทั้งสองปัจจัยส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้น/ลงผันผวน ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ปตท.ยืนยันมีแผนสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยการสต็อกน้ำมันตามกฎหมายในช่วงที่สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนมีความรุนแรงเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาประมาณ 4 ล้านบาร์เรล ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการทยอยนำออกมาใช้ เพราะมองว่าปัจจัยเรื่องของการขาดแคลนคงจะไม่เกิดขึ้น
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล 17 ต.ค. 2565 เวลา 17:37 น.
"ปตท."เล็งตอกเสาเข็มโรงงานผลิตอีวีปีนี้ พร้อมเริ่มลุยผลิตต้นปี 67
"ปตท."เล็งตอกเสาเข็มโรงงานผลิตอีวีปีนี้ พร้อมเริ่มลุยผลิตต้นปี 67 ระบุเป้ากำลังการผลิตพลังงานทดแทน 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 2573
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) หรือโรงงานอีวี ว่า มีแผนเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ และคาดว่าโรงงานจะเเล้วเสร็จและสามารถเปิดดำเนินการได้ในต้นปี 2567
ทั้งนี้ ในส่วนของพลังงานทดแทนนั้น ปตท.มีแผนเพิ่มกำลังการพลังงานทดแทน 7,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 2573
ส่วนสถานการณ์ราคาพลังงานปี 2566 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบปีหน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 85-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันกลุ่มผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก (โอเปก) พยายามลดกำลังการผลิต ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ความต้องการน้อยลง ราคาจึงลดลงในเวลาเดียวกัน จึงจะเห็นได้ว่าทั้งสองปัจจัยส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้น/ลงผันผวน ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ปตท.ยืนยันมีแผนสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยการสต็อกน้ำมันตามกฎหมายในช่วงที่สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนมีความรุนแรงเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาประมาณ 4 ล้านบาร์เรล ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการทยอยนำออกมาใช้ เพราะมองว่าปัจจัยเรื่องของการขาดแคลนคงจะไม่เกิดขึ้น
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล 17 ต.ค. 2565 เวลา 17:37 น.