เราทำถูกต้องแล้วใช่ไหมที่เสียสละทุกอย่างเพื่อพ่อแม่ เราเสียสละพอหรือยัง

คิดนานมากก่อนจะตั้งกระทู้นี้ แต่สุดท้ายก็ตั้งเพราะรู้สึกอึดอัดคับข้องใจมาก อยากร้องไห้ ทั้งๆ ที่หลายเรื่องเราก็ตัดสินใจเสียสละไปแล้ว

เราเป็นคนที่รักพ่อแม่มากถึงท่านจะทำให้เราเสียใจมาตลอด เราเสียสละทุกอย่างเพื่อท่านจนเราไม่มีความสุข เราถูกปลูกฝังมาให้ทำทุกอย่างเพื่อแสดงถึงความกตัญญู เปรียบพ่อแม่ดั่งเจ้าชีวิต

เราเสียสละไม่เรียนในสาขาที่ชอบ เพื่อเรีบนในสาขาที่พ่อสั่ง

เราเสียสละไม่ทำงานในฝันที่ตัวเองตั้งเป้ามาตลอด เพื่อทำงานในฝันของพ่อแม่

เราเสียสละไม่ออกจากบ้านเลย ไม่มีสังคมเพื่อนฝูงในช่วงเรียน ตอนเช้าออกจากบ้านไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนเข้าบ้าน

เราเสียสละไม่มีแฟนเลยในวัยเรียน เพราะพ่อแม่ห้าม

เราเสียสละเงินเดือนทุกเดือนให้พ่อแม่

เราเสียสละไม่ซื้อของที่ตัวเองชอบหรืออยากได้ เพื่อพาพ่อแม่ไปกินข้าวกินอาหารอร่อย ซื้อของที่ท่านชอบ

เราเสียสละกู้เงินมา ยามที่พ่อป่วย จนตัวเองต้องรับภาระหนี้ก้อนโต

เราเสียสละเวลาหลังเลิกงาน ไปไหนไม่ได้ เพื่อกลับมาดูแลพ่อ ไม่กินข้าวก่อน แม้จะหิวมาก ต้องป้อนข้าว อาบน้ำให้พ่อ ให้พ่อกินยา ทำกายภาพให้พ่อก่อน ถึงจะกินข้าวของตัวเอง จนกระทั่งพ่อเสีย

เราเสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อทำให้พ่อแม่มีความสุข

เราเสียสละเวลางาน มาดูแลแม่ที่ป่วย พาแม่ไปหาหมอ จนงานเริ่มมีปัญหา

และเสียสละอีกมากมายหลายอย่างจนนับแทบไม่ไหว

และล่าสุดเราเสียสละต้องเลิกกับแฟนที่รักมาก เพราะแม่ไม่ชอบเค้า แม่ไม่อยากให้มีแฟนที่นับถือในศาสนาที่แม่ไม่ชอบ

เรากตัญญูพอหรือยัง.. เราเสียสละมากพอหรือยัง.. ถ้าเราไม่เสียสละ เราจะต้องเป็นลูกอกตัญญูใช่ไหม บางอย่างเราคิดว่ามันคือสิทธิของเราที่เราอยากจะมี อยากจะเป็น อยากจะตัดสินใจเลือกเอง แต่ทำไม่ได้แค่เพราะคำว่า "กตัญญู" เราเหนื่อยมากจริงๆ..
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
คำว่าเสียสละของ จขกท. บางครั้ง ก็เข้าข้างตัวเองมากเกินไป
อย่างเสียสละแฟนที่แม่ไม่ชอบ แต่เคยมาตั้งกระทู้​เรื่องแฟน (ซึ่งก็ควรแล้วที่แม่จะไม่ชอบ)
เสียสละไม่เรียนคณะที่ชอบ แล้วคณะที่พ่อแม่เลือกให้มันไม่ดียังไง ก็ไม่เห็นบอก
ไม่มีแฟนในวัยเรียนก็ถูกต้องแล้ว  ชื่อก็บอกแล้วว่าวัยเรียน ก็ตั้งใจเรียน
เลิกเรียนต้องรีบกลับบ้าน อันนี้ก็นับด้วยเหรอ 555
โดยรวมเราว่า จขกท. มองตัวเองเป็นศูนย์กลาง​ไปหน่อยนะ
แต่สิ่งที่ จขกท. ทำดีอยู่แล้ว เช่น ดูแลพ่อที่ป่วย พาแม่ไปหาหมอ ก็ขอชื่นชม แต่อย่าลืมว่า ตอน จขกท.ยังเด็ก พ่อแม่ก็เสียสละดูแลจขกท.มาเหมือนกัน

คิดว่า ปห.ใหญ่คือเรื่องแฟนแหละ แล้วพาลมาเรื่องอื่น
ความคิดเห็นที่ 30
อันดับแรก จขกท ตั้งสติ หยุดดราม่าก่อนนะ แยกเป็นเรื่องๆ

1. เรื่องเลือกเรียนอะไร เลือกทำงานอะไร มีแฟนวัยเรียนไหม จขกท ไม่ได้ “เสียสละ” อะไรให้พ่อแม่นะ วันรุ่นบางคนเชื่อพ่อแม่ บางคนไม่เชื่อ บางคนเชื่อพ่อแม่แล้วได้ดี บางคนเชื่อพ่อแม่กลับล้มเหลว แต่พ่อแม่ไม่ได้ได้อะไรจากการที่คุณทำตามหรือไม่ทำตาม เช่น พ่อแม่บอกให้เรียนพยาบาลเพราะคิดว่าลูกจะมั่นคง แต่ลูกไม่เรียน ไปค้าขาย กลายเป็นเศรษฐีร้อยล้าน พ่อแม่ก็สบายไปด้วย อันนี้คือไม่เชื่อพ่อแม่แล้วได้ดีดีต่อทั้งตัวเอง ทั้งพ่อแม่

2. เรื่องดูแลพ่อแม่ป่วย อันนี้คือความเสียสละ กตัญญู บวกทำเพราะจำเป็น คำถามคือ ถ้าไม่ดูแลพ่อแม่ที่ป่วย คุณจะทำยังไง จ้างคนมาดูแลได้ไหม หรือไม่มีเงินจ้าง? ถ้าไม่มีเงินจ้าง คำถามคือ ใครจะกล้าปล่อยพ่อแม่เน่าตายบนเตียง? ดังนั้นเรื่องนี้ถือเป็นโชคชะตา น่าเห็นใจแต่ก็ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้

3. เรื่องไม่ซื้อของที่อยากได้ แต่พาพ่อแม่ไปกินข้าวข้างนอกแทน อันนี้แต่ละคนควรดูความเหมาะสมของตัวเองนะ ของที่อยากได้ของคุณคืออะไรล่ะ ของจำเป็นหรือของฟุ่มเฟือย กินข้าวข้างนอกของคุณคือกินอะไร ร้านธรรมดาหรือ chef table  ของแบบนี้ต้องจัดสมดุลเอง ถ้ามีคนถือกระเป๋าแอร์เมส แต่พ่อแม่กินข้าวคลุกผักลวกทุกวัน คุณจะคิดว่าคนคนนั้นเป็นคนยังไง

4. เรื่องเลิกกับแฟนเพราะศาสนาที่แม่ไม่ชอบ อันนี้อ่านแล้วรู้สึกสงสัยมาก เพราะไม่มีคำอธิบายอะไรเลย เน้นแต่ดราม่า อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณพิจารณาแล้วว่าแฟนคนคนนี้ดีต่อชีวิตคุณ ก็ไม่ควรมาให้พ่อแม่ชี้นำ โตแล้ว ตัดสินชีวิตเอง การเลิกกันเพราะแม่ ไม่ใช่ “การเสียสละเพื่อแม่”


สรุปนะ ข้อ 1 กับข้อ 4 ไม่ใช่การเสียสละ แต่คือการไม่เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง ไปให้พ่อแม่เลือกให้ ซึ่งพ่อแม่ไม่ได้ได้อะไรเลย เพราะเส้นทางที่เลือก จะดีรึเปล่า ไม่มีใครรู้อนาคตได้

ข้อ 2 เสียสละ แต่จำเป็นต้องทำเพราะสถานการณ์บังคับ

ข้อ 3 คือสิ่งที่ควรทำแต่พอดี ไม่ใช่ทำจนตัวเองรู้สึกต้องเสียสละยิ่งใหญ่เหลือเกิน
ความคิดเห็นที่ 2
วิธีการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่มีหลากหลายวิธี คุณควรเลือกวิธีที่ทำให้ตัวเองมีความสุข
อะไรที่มันมากเกินไป มันทำให้ชีวิตเสียสมดุล เหมือนอย่างที่คุณเจอนี่แหละ
ความคิดเห็นที่ 7
มันช่างต่างจากที่ผมสอนลูกสาวมากมายครับ

1. ดูแลพ่อแม่ตามสมควร แต่ไม่ต้องทุ่มเทจนหมดตัว เพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับลูกได้ตลอดกาล ลูกต้องมีทุนชีวิตของตัวเองไว้ด้วย

2. เรียนอะไรก็ได้ ที่ใจเราอยากเรียน แต่ขอแค่อย่าเรียนตามเพื่อน เพราะถ้าเราเรียนในสิ่งที่เรารัก ต่อให้เหน็ดเหนื่อย แต่เราก็มีความสุข และ พร้อมจะสู้ต่อ

3. เรื่องแฟน หาเอาเองลูก คนไหนที่คิดว่าใช่ ต่อให้ ช มันฐานะด้อยกว่า มีแต่ตัว แต่ดันขยัน มีหัวคิด เป็นคนดี และ พร้อมจะฟันฝ่าทุกอย่างเพื่อครอบครัว สินสอดคือเรื่องเล็ก ต่อให้มีมาแค่ 99 บาท พ่อก็ยกให้ งานแต่งก็แค่งานประกาศว่าลูกพ่อจะมีผัว เอาแค่พอประมาณก็พอ ทำมากก็สิ้นเปลืองใช่เหตุ แต่มีข้อแม้ว่า แฟนเอ็งต้องทำเงินฝากบัญชีมาอวดพ่อก่อน เพราะนั่นแสดงถึงความตั้งใจ และ เป็นหลักประกันในอนาคต
ความคิดเห็นที่ 4
เราเคยเป็นแบบคุณค่ะ เพียงเพราะคำว่ากตัญญูมันค้ำคอ
และมันก็ทำให้เราจะเป็นบ้าตาย บ้าที่แปลว่าบ้าจริง ๆ นะ
บ่าเราหนักมากเพราะแบกทุกอย่างไว้เพียงเพราะคำว่ากตัญญู
พอหันกลับไปมองที่ครอบครัว ไม่เห็นจะมีใครทุกข์ร้อนเหมือนเรา
ตอนนั้นแหละที่เราฉุกคิดว่าสิ่งที่เราทำไปทั้งหมด เราทำไปแล้วได้อะไร
พ่อแม่มีความสุข ทุกคนมีความสุข แล้วตัวเราล่ะ ตัวเราไม่มีสิทธิ์ที่จะมีความสุขเหรอ
หลังจากนั้นมาเราจึงเลือกที่จะทำตามใจตัวเอง เลือกที่จะทำเพื่อตัวเองบ้าง ต่อให้จะต้องถูกตราหน้าว่า อกตัญญูก็ช่างเถอะ
ทำไปแล้วได้อะไร ได้ชีวิตที่เป็นชีวิตกลับมาอีกครั้งค่ะ และนั่นล่ะที่เราเริ่มใช้ชีวิตแบบคนเห็นแก่ตัว ทำไมล่ะ เราผิดอะไร เราก็แค่อยากมีความสุขบ้าง

เราไม่ใช่คนจิตใจดีและไม่ได้โตมาแบบค่านิยมคนไทยที่ต้องเลี้ยงดูให้เงินพ่อแม่ พ่อแม่=ของสูง  
เวลาได้อ่านข้อความว่าบุพการีคือมีผู้พระคุณงั้นงี้แล้วมวนท้อง
ตอนเกิดก็ทำกันออกมาเอง แล้วทำไมเราต้องมารับกรรม รับทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับตัว
ใครทำอะไรกับเรามาเราก็ทำแบบนั้นกลับนั่นล่ะแฟร์ดี
ต่อให้เป็นพ่อแม่ก็เถอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่