ขออนุญาตเล่าเหตุการณ์ในชีวิต เพราะไม่รู้ว่าจะรับมือไหวไหมในอนาคต
เล่าก่อนว่า
ครอบครัวเรามีความสุขมากๆ ตอนจำความได้เด็กๆ จนกระทั่ง "แม่" เราซึ่งเที่ยวเก่งมาก ไปผับ ไปกินเหล้ากับเพื่อนๆของเขา เล่นพนัน มั่วสุมยาเสพติด
ส่วน "พ่อ" เราเป็นคนดีมาก รักลูกมาก รักครอบครัว ทำงานหาเงิน
มีวันนึง เราจำได้ว่า ตอนนั้น เราเป็นเด็ก ประมาณ ป.4 - ป.5 เราเห็น ผู้ชาย แปลกหน้าที่ไหนไม่รู้ กอดกับแม่เรา ถอดเสื้อผ้า ตอนนั้นเรานอนข้างนอก ตื่นมาตอนดึก เลยจะไปนอนในห้องกับแม่ เราเห็นเราก็ตกใจ แม่กับผู้ชาย ก็ตกใจ และเราก็แกล้งทำเป็นละเมอไปนอนเหมือนเดิม เราคิดอยู่นานว่าจะบอกพ่อดีไหม ความรู้เหมือนใจจะขาด และเราก็บอกพ่อไป สรุปวันนั้น พ่อกับแม่ ทะเลาะกัน แม่ก็แก้ต่างว่า เค้ามานอนด้วยเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรกัน แล้วพ่อเราอ่ะ โคตรจะรักแม่เลย แกเชื่อ แกไม่ทำอะไรแม่เลย มีเถียงกันเล็กน้อย
และหลังๆมา ความสัมพันธ์ในครอบครัว มันเริ่มแย่ลง แม่ มีผู้ชายหลายคนมาก เรารู้สึกสงสารพ่อมากๆๆๆ จนกระทั่ง พ่อกับแม่ทะเลาะกันครั้งสุดท้ายที่จำได้ คือ พ่อเรียกผู้ชายอีกคน มาคุย ว่ารักกันจริงไหม ซึ่งเค้าก็ยอมรับ และพ่อเราโครตโกรธแม่ แบบไม่เคยเห็นมาก่อน เกลียดจนเข้าใส้
แต่พวกเค้าคงลืมลูก ไปแล้ว ด้วยความที่เราเป็นลูกคนโต เรารับรู้ทุกอย่าง ตอนที่พ่อเดินออกจากบ้าน พร้อมสัมภาระ เราร้องไห้ใจจะขาด ส่วนแม่เราก็ไปอยู่กับผู้ชาย ซึ่งวันนั้นเราทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ร้องไห้ แบบใจจะขาดจริงๆ คิดว่าทำไมพ่อกับแม่ ถึงจะทิ้งเราไปแบบนี้ เราทำใจไม่ได้จริงๆ น้องเราก็ยังเล็ก ไม่รู้เรื่อง
จนเราได้แต่นอนคดตัวอยู่ในห้อง ไม่รู้จะเอาไงต่อ คิดในใจ พ่อแม่ ไม่รักเราเลยหรอ ทำไมทำแบบนี้ ทำไมมันต้องจบแบบนี้ ซึ่งระหว่างนี้ เราจะใช้ชีวิต อยู่กับป้า จากเด็ก มีคนรีดผ้าให้ ต้องใส่เสื้อผ้ายับๆ ไปโรงเรียนทุกวัน ส่วนน้อง แม่มารับไปอยู่ด้วย แต่เราไม่ขอไปกับแม่ เพราะตอนนั้นเรารู้สึกว่า สิ่งที่แม่ทำกับพ่อ มันไม่ถูกต้อง ส่วนพ่อเรา ไปทำงานต่างจังหวัด แต่เค้าก็ส่งเงินให้ทุกเดือน ซึ่งจริงๆแล้ว เรารักพ่อมากๆ เพราะเรารู้ดีว่าพ่อ ทำทุกอย่างให้ดีขนาดไหน แล้วชีวิตก็เหมือนเล่นตลก ระหว่าง ป.6 - ม.3 เราใช้ชีวิต กับป้ามาตลอด จนเรารู้สึกว่า เรารักเค้าเหมือนแม่ ซึ่งป้าคนนี้จะคอยปลอบใจเราเสมอ แล้วทีนี้ แกกลับเป็น มะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งตอนนั้นเราใจแทบสลาย เพราะเป็นคนเดียวที่เราอยู่ด้วยนั้น เราไม่มีใครแล้ว จับมือกัน ให้กำลังใจป้า แล้วมันก็เดจาวู สามีป้าเรา ก็ไปมีผู้หญิงอื่น ตอนป้าเราป่วยติดเตียง เราโครตไม่เข้าใจ โลกใบนี้ เป็นอะไรกันไปหมด เราและป้าประคับประคองกันมา สุดท้าย ป้าก็จากไป เราคิดว่ามันทรมานมากนะ แกเจ็บปวดมาก ทั้งกายและใจ บอกก่อนว่า ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่มาก แต่ทำพังกันเองทั้งหมด และเมื่อป้าจากโลกไป เราโครตอยากจะตาย ชีวิตแทบจะไม่เหลือใครแล้ว แต่สุดท้าย พ่อก็มารับ ไปอยู่ด้วย เราดีใจมากๆ ที่ได้เจอพ่ออีกครั้ง ในรอบหลายปี อย่างน้อย เราก็จะไม่ได้อยู่คนเดียว แล้วเราก็มาใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ ซึ่งจะบอกว่า พ่อโคตรลำบาก เพราะแกออกจากบ้านใหญ่ มาโดยไม่มีอะไรเลย แล้วแกก็สารภาพว่า "พ่อยังไม่มีเงินให้ลูกเรียนต่อนะ" พูดจบ เราอึ้ง เพราะเราวาดฝันไว้แล้วว่าอยากเรียน เราได้แต่ร้องไห้ ร้องไห้อีกแล้ว555 คือเป็นคนจิตใจอ่อนไหวมาก แต่สุดท้าย เราก็ไปทำเรื่องเอง จนขอผ่อนได้ แต่ก็เกือบไม่ได้เรียน เพราะ พ่อไม่มีเงินจริงๆ แค่ค่าห้องก็แทบไม่เหลือ เงินเดือน แต่อาจารย์ (จะบอกว่ารักวิทยาลัยนี้มาก) อาจารย์ทุกคนรู้ว่าเราตั้งใจมากขนาดไหน เราได้ เกรด 4 ทุกตัว เทอมแรก แต่เทอม 2 เราทำทุกทางเพื่อหาเงิน ขายของออนไลน์ พวกที่ดัดฟัน(ของเถื่อน)555 ก็พอได้เงิน แต่ไม่พอจริงๆ เราตัดสินใจ ว่า จะหายออกจาก วิทยาลัย เงียบๆ แต่อาจารย์ทุกคน โทรมาหาพ่อเรา เพราะเราไม่ไปเรียน อาทิตย์นึง ซึ่งเราไม่เคยขาดเลย อาจารย์เป็นห่วงมากๆ และอาจารย์ไปคุยกับพ่อว่า ค่อยๆทยอยจ่ายก็ได้ หรือลองไป ขอเงินเข้าเรียกว่าอะไรนะ กองหนุนการศึกษาไหมนะ? ซึ่งนี่แหละคือจุดเปลี่ยน พ่อเราเหมือนรู้ว่า เราตั้งใจมากขนาดไหน พ่อเราเลยทำงาน ทุกอย่าง ย้ำว่า ทุกอย่าง ไม่ได่ทำงานด้านเดียว โครตหลายด้าน จนไม่มีเวลาพัก เราก็ไม่ยอมแพ้ ลองขายของมือสอง สรุป ทุกอย่างมันดีขึ้นเรื่อยๆจนแปลกใจ พ่อพาเราไปกินอาหารร้านดีๆ ทั้งที่ปกติไม่เคยเลย มาม่า ตลอด555 เอ้ออ มีครั้งนึง ไม่มีข้าวกิน ประมาณ 2 วัน โครตทรมาน เอ้อ จะบอกว่า พ่อเราก็มีแฟนใหม่ อายุน้อยกว่าเกือบ 10 ปี แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่ได้ เพราะ อะไรก็ไม่รู้ แต่ แฟนพ่อดีมาก ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน มีครั้งนึงที่หนีออกจากห้องเช่า เพราะไม่มีตังค์จ่าย เสียใจมากตอนนั้น ไม่คิดว่ามาอยู่กับพ่อแล้วจะรันทดขนาดนี้555 และคือ จะมีของชิ้นนึง คือ อูคูเลเล่ ที่พ่อกับแม่ รวมเงินกันซื้อให้เรา ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ได้มาจากพ่อและแม่ที่ช่วยกัน แล้วคือเราไม่ได่หยิบมาตอนขึ้นรถ ตอนนั้นพ่อบอกให้ เราหยิบแค่เสื้อผ้า กับ ชุดนักเรียน ตอนนั้นยังไม่รู้ไงว่าพ่อกำลังจะทำอะไร
สรุปพ่อพามานอนริมทะเลบนรถ555 ลมแมร่งโครตเหนียว555 พ่อก็บอกว่า เอ้อ พ่อไม่ได้จ่ายค่าห้องมาหลายเดือนแล้ว นอนบนรถนะ ตอนนี้คือสับสนไปหมด555 แล้วไปวิทยาลัย ไปล้างหน้าแค่ที่ปั๊ม555 น้ำไม่อาบ สภาพไปวิทยาลัยโทรมมาก แต่ก็นั่นแหละ ลำบากวันเดียว พ่อก็พาไปอยู่กับแฟนใหม่พ่อ ซึ่งอันนี้เราซึ้งใจมาก เพราะเค้าดีมากจริงๆ แต่สุดท้าย โชคชะตาก็เล่นตลกอีกแล้ว55555 ฝ่ายพ่อแม่ ผู้หญิง ไม่ชอบพ่อเรา เพราะพ่อจน ไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง แถมยังมาอยู่กับผู้หญิง และ อายุห่างกันเป็น 10 ปี สุดท้ายวันจากลาก็ต้องมีกันอีกแล้ว พ่อกับพี่สาวคนนี้ จากกันแบบเงียบๆ เราเก็บของออกจากบ้านพี่เค้า พี่เค้าก็นอนร้องไห้อยู่ในห้อง ไม่ออกมาล่ำรากันกับพ่อเลย และแล้ว ก็กลับมาลำบาก อีกครั้ง......
ตลอดเวลาที่ลำบาก เรานอนที่ทำงานพ่อตลอด(พ่อทำงานเป็นช่างโรงแรม)เราก็ไปนอนอยู่หน้าล็อบบี้ อาบน้ำปั๊มบ้าง อาบน้ำห้องลูกค้าที่ไม่มีลูกค้าบ้าง บ้านเพื่อนพ่อบ้าง ก็ตลกดีนะชีวิต จนกระทั่งพ่อตั้งตัวได้ ทุกอย่างมันก็ขึ้น เรื่อยๆ จนได้เช่าห้องอยู่ พ่อก็โสดนานมาก 4 ปี หลังจากที่ไม่ได้คุยกับพี่สาวคนนั้น ตอนนั้นเราก็ขายของมือสอง เริ่มดี เริ่มมีเงิน ทำงานพาร์ทไทม์ ทำทุกอย่างเพื่อเงิน และแล้ว น้องเล็กเรา ก็มาอยู่ด้วย เพราะน้องก็คิดถึงพ่อ + พ่อเลี้ยงฝั่งแม่ ชอบด่าชอบว่า ระหว่างนี้เราจะเล่า ฝั่งแม่บ้าง...
แม่ติดยา โดนตำรวจจับ และ ก็ท้องกับพ่อเลี้ยง มีน้องใหม่ออกมา แต่แม่ก็ยังคง ใช้ชีวิตมั่วสุม กับญาติพี่น้องที่ ติดยา โดนตำรวจตามจับหลายรอบมาก สุดท้ายพ่อเลี้ยง ก็เอาลูก ไปอยู่ที่ต่างจังหวัด ครอบครัวใหญ่ฝั่งแม่ก็แตกแยก ไปคนละทาง หลังจากป้า(ที่เป็นมะเร็ง เพราะแกเป็นเสาหลัก)+ปู่เสีย ทุกคนก็ไปมีครอบครัวใหม่กันหมด กลับกัน แม่เรา ยังคงอยู่คนเดียวที่เดิม แม่ไปอยู่กับญาติ เริ่มทักมาขอเงินเรา เริ่มมาละลานพ่อ ซึ่งพ่อจะโกรธมาก(ตาแดง แบบโกรธมากจริงๆ)พอเวลาโทรมา ขอแต่เงิน พ่อเราจะด่าแบบหยาบมาก เหมือนเกลียดแม่เข้าใส้ เราก็คอยปลอบใจพ่อ แล้วขอร้องว่าแม่อย่าโทรมาหาพ่อ ให้ทักมาที่หนูคนเดียว นั่นแหละ แม่ขอเงินตลอด ไม่เคยถามเลย ว่าเราเป็นยังไงบ้าง ทักมาทีไร ขอตังหน่อยตลอด ซึ่งเราก็ให้บ้างไม่ให้บ้าง เพราะมีครั้งนึง เราให้ไป 500 วันเดียว อีกวันบอกขอ 300 บอกว่าป่วย ไปหาหมอ ตลอด หิวบ้าง เราถามว่าทำไมไม่ทำงานหาเงินบ้าง เค้าบอก ทำไม่ไหว ป่วย
จนน้าทักมาบอกว่า แม่เราโดนจับ เพราะมียาบ้า เราโครตเสียใจ ทำไมแม่ถึง ไม่เห็นใจเราบ้าง เราหาเงินกว่าจะได้แต่ละบาท เอ้อ ตอนนี้เราไม่ได้เรียนแล้ว จบแค่ ปวส. ทำธุรกิจส่วนตัวขายของมือสอง ขายในไทยและต่างประเทศ พูดตรงๆเราก็มีแหละเงิน แต่เราอยากให้แม่ คิดถึงเรามากๆ แม้พ่อจะไม่ได้รักแม่แล้ว แม่เราก็สร้างวีรกรรมต่างๆมาตลอด จนตอนนี้ ทุกคนเหมือนนินทาว่าแม่เราตกอับ ไม่เหลือใคร แม่เราก็เครียดมากๆ ตอนนี้แม่เริ่มห่างจากพวกสิ่งเสพติดแล้ว แต่คือ แม่ไม่เหลือญาติพี่น้อง ไม่เหลือใคร อยู่กับญาติอีกคน (ผู้ชาย) น่าจะมีซัมติงอะไรกันด้วย
อ่ะเข้าเรื่องที่จะปรึกษาเลย แม่เราอ่ะ ตลอด 3-4 ปีที่เรากับพ่อ เริ่มดีขึ้น แม่ตะทักมาขอเงินตลอดเลย แม่ทำงานด้วย แต่ก็ออก ทำๆออกๆเป็นว่าเล่น ไม่มีเงินก็ไม่แปลก ล่าสุดไปขโมยของคนอื่น เราก็ต้องเป็นคนโอนเงินไปให้เคลียร์ นี่แหละคือสิ่งที่เรา เครียดมาตลอด เพราะเราก็ใช้จ่ายเยอะ ต้องซื้อของตลอด (ตอนนี้อายุ 20) แล้วแม่ก็ขอเงินบ่อยมากๆ แม่ไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรเลย และแม่เราโทรมมากๆ ผอม หน้าตอก สภาพดูไม่ได้เลยจากคนสวยๆ แต่เราก็คิดว่า คงเป็นไปตามกาลเวลา และล่าสุด แม่เราป่วยหนัก นอนโรงบาล แกก็ทักมาขอเงิน ทุกวัน เชื่อไหม ทุกครั้งที่เราโอนเสร็จปุ๊ป แม่จะหายไปตลอด โผล่มาอีกที ก็ แม่ขอตังค์หน่อย เดี๋ยวรถยางแตก เดี๋ยวไม่มีตังค์กินข้าว เดี๋ยวค่าหมอ เดี๋ยวค่าน้ำมัน เห้ออออออออ เราโครตเหนื่อยเลย นี่แหละที่เรากลัวมาตลอด เมื่อพ่อกับแม่แยกทางกัน แทนที่เราจะร่วมสร้างครอบครัวที่ดี ดูแลกันและกัน จะได้ช่วยกัน กลับเป็นต้องเป็น "เรา" ที่ต้องส่งให้ทั้งสองฝ่าย เพราะพ่อเกลียดแม่มากๆ พ่อจะบ่นทุกครั้งพอเวลาเราโอนเงินให้แม่ เราพูดตรงๆว่า เรารักแม่ อยู่เหมือนเดิม แม้แม่จะเป็นคนไม่ดียังไง พ่อก็เริ่มแก่ทุกวันๆ เศรษฐกิจก็แย่เอาๆ เราควรจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงดี ( กับแม่ ) เราคิดว่าเราจะบอกว่าไม่มี แต่ทุกครั้งที่เราคิดเราก็ร้องไห้ และทำไม่ลง เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่า เรามี แต่แบบ เราไม่เข้าใจ ทักมาก็ขอแต่เงิน ไม่เคยถามอะไรเลย
แบบนี้เราควรจะทำอย่างไร ขอคำปรึกษา
#ครอบครัวฝั่งแม่ มีแค่ แม่+ญาติผู้ชาย สถานะ แม่ป่วย(น่าจะจริงเพราะแม่ถ่ายรูปมาให้น้ำเกลือ)และตกอับสุดๆ ไม่มีงาน ไม่มีเงิน แถมมาป่วย หมอไม่รู้ว่าโรคอะไร ตอนที่เราถามแม่
"ตอนนี้แม่เรายังไม่ได้เลิกกับพ่อเลี้ยงที่มีลูกด้วยกัน แต่แม่ไม่ยอมไปอยู่กับพ่อเลี้ยงกับลูกอีกคน ซึ่งในส่วนนี้เราไม่เข้าใจแม่เลยจริงๆ"
#ตอนนี้ครอบครัวฝั่งพ่อ พ่อ+แม่เลี้ยง+เรา+น้อง+ลูกติดฝั่งแม่เลี้ยง+น้องเล็กที่พ่อกับแม่เลี้ยง มีความสุขมากๆเพราะตอนนี้พ่อมีบ้านที่ต้องผ่อนเป็นของตัวเอง ส่งลูกจบ ปวส. ซึ่งอันนี้เราพอใจมาก เพราะมันใช้เงินไม่น้อยเลย และพ่อก็พึ่งผ่อนรถหมด เงินเดือนก็ดี แถมมีรับจ๊อบพิเศษ ได้เงินมากกว่าเงินเดือน ส่วนเรา ขายของมือสอง ก็ดี ส่งทั้งไทยและต่างประเทศ ลูกติดแม่เลี้ยงกับน้องเราก็กำลังเรียนอยู่ และมีน้องตัวเล็กเข้ามาเติมเต็ม ตอนนี้ถ้าแบบจริงจังเลย พ่อเหมือนทำงานคนเดียว แล้วเราคอยเสริม สนับสนุน ขาดเงินตรงไหน เอาเงินไปโปะ ประมาณนี้ โดยรวมมีความสุขมากๆเลย และเราก็อยากจะให้ความสัมพันธ์พ่อกับแม่เลี้ยง ไม่ลดลง เพราะเราเข้าใจความรู้สึกเด็ก(ที่เป็นลูก) ไม่อยากให้มาเจอเหมือนที่เราเจอ
.
สุดท้ายนี้ เรายังให้คำตอบตัวเองไม่ได้ ว่าเราควรจะทำหรือแก้ไขยังไงดี หรือ จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราไม่ได้โกรธแม่ แต่บางทีเราก็แอบคิดว่า แม่ทำตัวเองทั้งนั้น และเราก็คิดว่า ถ้าให้เงินทุกครั้งที่ขอ มันจะเหมือนเป็นการ สนับสนุนในทางที่ผิดไหม เพราะแม่ชอบโกหกเอาไปทำในสิ่งที่ไม่ควรจะทำ เพราะเราจะมีภาระของตัวเองที่ต้องทำ ในเรื่องการทำงานในอนาคต คงจะมี เพราะตอนนี้อยู่ในช่วง จะเข้าคัดเลือกทหาร ไปทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะต้องผ่านการเกณฑ์ทหารก่อน ตอนนี้ก็ขายของไปก่อน
.
ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไร แสดงความคิดเห็นได้นะครับ
เล่าประสบการณ์ การใช้ชีวิตที่ พ่อ แม่ เลิกกัน สุดท้ายสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิด มันกำลังดำเนินการ ควรทำอย่างไรดี..........
เล่าก่อนว่า
ครอบครัวเรามีความสุขมากๆ ตอนจำความได้เด็กๆ จนกระทั่ง "แม่" เราซึ่งเที่ยวเก่งมาก ไปผับ ไปกินเหล้ากับเพื่อนๆของเขา เล่นพนัน มั่วสุมยาเสพติด
ส่วน "พ่อ" เราเป็นคนดีมาก รักลูกมาก รักครอบครัว ทำงานหาเงิน
มีวันนึง เราจำได้ว่า ตอนนั้น เราเป็นเด็ก ประมาณ ป.4 - ป.5 เราเห็น ผู้ชาย แปลกหน้าที่ไหนไม่รู้ กอดกับแม่เรา ถอดเสื้อผ้า ตอนนั้นเรานอนข้างนอก ตื่นมาตอนดึก เลยจะไปนอนในห้องกับแม่ เราเห็นเราก็ตกใจ แม่กับผู้ชาย ก็ตกใจ และเราก็แกล้งทำเป็นละเมอไปนอนเหมือนเดิม เราคิดอยู่นานว่าจะบอกพ่อดีไหม ความรู้เหมือนใจจะขาด และเราก็บอกพ่อไป สรุปวันนั้น พ่อกับแม่ ทะเลาะกัน แม่ก็แก้ต่างว่า เค้ามานอนด้วยเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรกัน แล้วพ่อเราอ่ะ โคตรจะรักแม่เลย แกเชื่อ แกไม่ทำอะไรแม่เลย มีเถียงกันเล็กน้อย
และหลังๆมา ความสัมพันธ์ในครอบครัว มันเริ่มแย่ลง แม่ มีผู้ชายหลายคนมาก เรารู้สึกสงสารพ่อมากๆๆๆ จนกระทั่ง พ่อกับแม่ทะเลาะกันครั้งสุดท้ายที่จำได้ คือ พ่อเรียกผู้ชายอีกคน มาคุย ว่ารักกันจริงไหม ซึ่งเค้าก็ยอมรับ และพ่อเราโครตโกรธแม่ แบบไม่เคยเห็นมาก่อน เกลียดจนเข้าใส้
แต่พวกเค้าคงลืมลูก ไปแล้ว ด้วยความที่เราเป็นลูกคนโต เรารับรู้ทุกอย่าง ตอนที่พ่อเดินออกจากบ้าน พร้อมสัมภาระ เราร้องไห้ใจจะขาด ส่วนแม่เราก็ไปอยู่กับผู้ชาย ซึ่งวันนั้นเราทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ร้องไห้ แบบใจจะขาดจริงๆ คิดว่าทำไมพ่อกับแม่ ถึงจะทิ้งเราไปแบบนี้ เราทำใจไม่ได้จริงๆ น้องเราก็ยังเล็ก ไม่รู้เรื่อง
จนเราได้แต่นอนคดตัวอยู่ในห้อง ไม่รู้จะเอาไงต่อ คิดในใจ พ่อแม่ ไม่รักเราเลยหรอ ทำไมทำแบบนี้ ทำไมมันต้องจบแบบนี้ ซึ่งระหว่างนี้ เราจะใช้ชีวิต อยู่กับป้า จากเด็ก มีคนรีดผ้าให้ ต้องใส่เสื้อผ้ายับๆ ไปโรงเรียนทุกวัน ส่วนน้อง แม่มารับไปอยู่ด้วย แต่เราไม่ขอไปกับแม่ เพราะตอนนั้นเรารู้สึกว่า สิ่งที่แม่ทำกับพ่อ มันไม่ถูกต้อง ส่วนพ่อเรา ไปทำงานต่างจังหวัด แต่เค้าก็ส่งเงินให้ทุกเดือน ซึ่งจริงๆแล้ว เรารักพ่อมากๆ เพราะเรารู้ดีว่าพ่อ ทำทุกอย่างให้ดีขนาดไหน แล้วชีวิตก็เหมือนเล่นตลก ระหว่าง ป.6 - ม.3 เราใช้ชีวิต กับป้ามาตลอด จนเรารู้สึกว่า เรารักเค้าเหมือนแม่ ซึ่งป้าคนนี้จะคอยปลอบใจเราเสมอ แล้วทีนี้ แกกลับเป็น มะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งตอนนั้นเราใจแทบสลาย เพราะเป็นคนเดียวที่เราอยู่ด้วยนั้น เราไม่มีใครแล้ว จับมือกัน ให้กำลังใจป้า แล้วมันก็เดจาวู สามีป้าเรา ก็ไปมีผู้หญิงอื่น ตอนป้าเราป่วยติดเตียง เราโครตไม่เข้าใจ โลกใบนี้ เป็นอะไรกันไปหมด เราและป้าประคับประคองกันมา สุดท้าย ป้าก็จากไป เราคิดว่ามันทรมานมากนะ แกเจ็บปวดมาก ทั้งกายและใจ บอกก่อนว่า ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่มาก แต่ทำพังกันเองทั้งหมด และเมื่อป้าจากโลกไป เราโครตอยากจะตาย ชีวิตแทบจะไม่เหลือใครแล้ว แต่สุดท้าย พ่อก็มารับ ไปอยู่ด้วย เราดีใจมากๆ ที่ได้เจอพ่ออีกครั้ง ในรอบหลายปี อย่างน้อย เราก็จะไม่ได้อยู่คนเดียว แล้วเราก็มาใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ ซึ่งจะบอกว่า พ่อโคตรลำบาก เพราะแกออกจากบ้านใหญ่ มาโดยไม่มีอะไรเลย แล้วแกก็สารภาพว่า "พ่อยังไม่มีเงินให้ลูกเรียนต่อนะ" พูดจบ เราอึ้ง เพราะเราวาดฝันไว้แล้วว่าอยากเรียน เราได้แต่ร้องไห้ ร้องไห้อีกแล้ว555 คือเป็นคนจิตใจอ่อนไหวมาก แต่สุดท้าย เราก็ไปทำเรื่องเอง จนขอผ่อนได้ แต่ก็เกือบไม่ได้เรียน เพราะ พ่อไม่มีเงินจริงๆ แค่ค่าห้องก็แทบไม่เหลือ เงินเดือน แต่อาจารย์ (จะบอกว่ารักวิทยาลัยนี้มาก) อาจารย์ทุกคนรู้ว่าเราตั้งใจมากขนาดไหน เราได้ เกรด 4 ทุกตัว เทอมแรก แต่เทอม 2 เราทำทุกทางเพื่อหาเงิน ขายของออนไลน์ พวกที่ดัดฟัน(ของเถื่อน)555 ก็พอได้เงิน แต่ไม่พอจริงๆ เราตัดสินใจ ว่า จะหายออกจาก วิทยาลัย เงียบๆ แต่อาจารย์ทุกคน โทรมาหาพ่อเรา เพราะเราไม่ไปเรียน อาทิตย์นึง ซึ่งเราไม่เคยขาดเลย อาจารย์เป็นห่วงมากๆ และอาจารย์ไปคุยกับพ่อว่า ค่อยๆทยอยจ่ายก็ได้ หรือลองไป ขอเงินเข้าเรียกว่าอะไรนะ กองหนุนการศึกษาไหมนะ? ซึ่งนี่แหละคือจุดเปลี่ยน พ่อเราเหมือนรู้ว่า เราตั้งใจมากขนาดไหน พ่อเราเลยทำงาน ทุกอย่าง ย้ำว่า ทุกอย่าง ไม่ได่ทำงานด้านเดียว โครตหลายด้าน จนไม่มีเวลาพัก เราก็ไม่ยอมแพ้ ลองขายของมือสอง สรุป ทุกอย่างมันดีขึ้นเรื่อยๆจนแปลกใจ พ่อพาเราไปกินอาหารร้านดีๆ ทั้งที่ปกติไม่เคยเลย มาม่า ตลอด555 เอ้ออ มีครั้งนึง ไม่มีข้าวกิน ประมาณ 2 วัน โครตทรมาน เอ้อ จะบอกว่า พ่อเราก็มีแฟนใหม่ อายุน้อยกว่าเกือบ 10 ปี แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่ได้ เพราะ อะไรก็ไม่รู้ แต่ แฟนพ่อดีมาก ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน มีครั้งนึงที่หนีออกจากห้องเช่า เพราะไม่มีตังค์จ่าย เสียใจมากตอนนั้น ไม่คิดว่ามาอยู่กับพ่อแล้วจะรันทดขนาดนี้555 และคือ จะมีของชิ้นนึง คือ อูคูเลเล่ ที่พ่อกับแม่ รวมเงินกันซื้อให้เรา ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ได้มาจากพ่อและแม่ที่ช่วยกัน แล้วคือเราไม่ได่หยิบมาตอนขึ้นรถ ตอนนั้นพ่อบอกให้ เราหยิบแค่เสื้อผ้า กับ ชุดนักเรียน ตอนนั้นยังไม่รู้ไงว่าพ่อกำลังจะทำอะไร
สรุปพ่อพามานอนริมทะเลบนรถ555 ลมแมร่งโครตเหนียว555 พ่อก็บอกว่า เอ้อ พ่อไม่ได้จ่ายค่าห้องมาหลายเดือนแล้ว นอนบนรถนะ ตอนนี้คือสับสนไปหมด555 แล้วไปวิทยาลัย ไปล้างหน้าแค่ที่ปั๊ม555 น้ำไม่อาบ สภาพไปวิทยาลัยโทรมมาก แต่ก็นั่นแหละ ลำบากวันเดียว พ่อก็พาไปอยู่กับแฟนใหม่พ่อ ซึ่งอันนี้เราซึ้งใจมาก เพราะเค้าดีมากจริงๆ แต่สุดท้าย โชคชะตาก็เล่นตลกอีกแล้ว55555 ฝ่ายพ่อแม่ ผู้หญิง ไม่ชอบพ่อเรา เพราะพ่อจน ไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง แถมยังมาอยู่กับผู้หญิง และ อายุห่างกันเป็น 10 ปี สุดท้ายวันจากลาก็ต้องมีกันอีกแล้ว พ่อกับพี่สาวคนนี้ จากกันแบบเงียบๆ เราเก็บของออกจากบ้านพี่เค้า พี่เค้าก็นอนร้องไห้อยู่ในห้อง ไม่ออกมาล่ำรากันกับพ่อเลย และแล้ว ก็กลับมาลำบาก อีกครั้ง......
ตลอดเวลาที่ลำบาก เรานอนที่ทำงานพ่อตลอด(พ่อทำงานเป็นช่างโรงแรม)เราก็ไปนอนอยู่หน้าล็อบบี้ อาบน้ำปั๊มบ้าง อาบน้ำห้องลูกค้าที่ไม่มีลูกค้าบ้าง บ้านเพื่อนพ่อบ้าง ก็ตลกดีนะชีวิต จนกระทั่งพ่อตั้งตัวได้ ทุกอย่างมันก็ขึ้น เรื่อยๆ จนได้เช่าห้องอยู่ พ่อก็โสดนานมาก 4 ปี หลังจากที่ไม่ได้คุยกับพี่สาวคนนั้น ตอนนั้นเราก็ขายของมือสอง เริ่มดี เริ่มมีเงิน ทำงานพาร์ทไทม์ ทำทุกอย่างเพื่อเงิน และแล้ว น้องเล็กเรา ก็มาอยู่ด้วย เพราะน้องก็คิดถึงพ่อ + พ่อเลี้ยงฝั่งแม่ ชอบด่าชอบว่า ระหว่างนี้เราจะเล่า ฝั่งแม่บ้าง...
แม่ติดยา โดนตำรวจจับ และ ก็ท้องกับพ่อเลี้ยง มีน้องใหม่ออกมา แต่แม่ก็ยังคง ใช้ชีวิตมั่วสุม กับญาติพี่น้องที่ ติดยา โดนตำรวจตามจับหลายรอบมาก สุดท้ายพ่อเลี้ยง ก็เอาลูก ไปอยู่ที่ต่างจังหวัด ครอบครัวใหญ่ฝั่งแม่ก็แตกแยก ไปคนละทาง หลังจากป้า(ที่เป็นมะเร็ง เพราะแกเป็นเสาหลัก)+ปู่เสีย ทุกคนก็ไปมีครอบครัวใหม่กันหมด กลับกัน แม่เรา ยังคงอยู่คนเดียวที่เดิม แม่ไปอยู่กับญาติ เริ่มทักมาขอเงินเรา เริ่มมาละลานพ่อ ซึ่งพ่อจะโกรธมาก(ตาแดง แบบโกรธมากจริงๆ)พอเวลาโทรมา ขอแต่เงิน พ่อเราจะด่าแบบหยาบมาก เหมือนเกลียดแม่เข้าใส้ เราก็คอยปลอบใจพ่อ แล้วขอร้องว่าแม่อย่าโทรมาหาพ่อ ให้ทักมาที่หนูคนเดียว นั่นแหละ แม่ขอเงินตลอด ไม่เคยถามเลย ว่าเราเป็นยังไงบ้าง ทักมาทีไร ขอตังหน่อยตลอด ซึ่งเราก็ให้บ้างไม่ให้บ้าง เพราะมีครั้งนึง เราให้ไป 500 วันเดียว อีกวันบอกขอ 300 บอกว่าป่วย ไปหาหมอ ตลอด หิวบ้าง เราถามว่าทำไมไม่ทำงานหาเงินบ้าง เค้าบอก ทำไม่ไหว ป่วย
จนน้าทักมาบอกว่า แม่เราโดนจับ เพราะมียาบ้า เราโครตเสียใจ ทำไมแม่ถึง ไม่เห็นใจเราบ้าง เราหาเงินกว่าจะได้แต่ละบาท เอ้อ ตอนนี้เราไม่ได้เรียนแล้ว จบแค่ ปวส. ทำธุรกิจส่วนตัวขายของมือสอง ขายในไทยและต่างประเทศ พูดตรงๆเราก็มีแหละเงิน แต่เราอยากให้แม่ คิดถึงเรามากๆ แม้พ่อจะไม่ได้รักแม่แล้ว แม่เราก็สร้างวีรกรรมต่างๆมาตลอด จนตอนนี้ ทุกคนเหมือนนินทาว่าแม่เราตกอับ ไม่เหลือใคร แม่เราก็เครียดมากๆ ตอนนี้แม่เริ่มห่างจากพวกสิ่งเสพติดแล้ว แต่คือ แม่ไม่เหลือญาติพี่น้อง ไม่เหลือใคร อยู่กับญาติอีกคน (ผู้ชาย) น่าจะมีซัมติงอะไรกันด้วย
อ่ะเข้าเรื่องที่จะปรึกษาเลย แม่เราอ่ะ ตลอด 3-4 ปีที่เรากับพ่อ เริ่มดีขึ้น แม่ตะทักมาขอเงินตลอดเลย แม่ทำงานด้วย แต่ก็ออก ทำๆออกๆเป็นว่าเล่น ไม่มีเงินก็ไม่แปลก ล่าสุดไปขโมยของคนอื่น เราก็ต้องเป็นคนโอนเงินไปให้เคลียร์ นี่แหละคือสิ่งที่เรา เครียดมาตลอด เพราะเราก็ใช้จ่ายเยอะ ต้องซื้อของตลอด (ตอนนี้อายุ 20) แล้วแม่ก็ขอเงินบ่อยมากๆ แม่ไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรเลย และแม่เราโทรมมากๆ ผอม หน้าตอก สภาพดูไม่ได้เลยจากคนสวยๆ แต่เราก็คิดว่า คงเป็นไปตามกาลเวลา และล่าสุด แม่เราป่วยหนัก นอนโรงบาล แกก็ทักมาขอเงิน ทุกวัน เชื่อไหม ทุกครั้งที่เราโอนเสร็จปุ๊ป แม่จะหายไปตลอด โผล่มาอีกที ก็ แม่ขอตังค์หน่อย เดี๋ยวรถยางแตก เดี๋ยวไม่มีตังค์กินข้าว เดี๋ยวค่าหมอ เดี๋ยวค่าน้ำมัน เห้ออออออออ เราโครตเหนื่อยเลย นี่แหละที่เรากลัวมาตลอด เมื่อพ่อกับแม่แยกทางกัน แทนที่เราจะร่วมสร้างครอบครัวที่ดี ดูแลกันและกัน จะได้ช่วยกัน กลับเป็นต้องเป็น "เรา" ที่ต้องส่งให้ทั้งสองฝ่าย เพราะพ่อเกลียดแม่มากๆ พ่อจะบ่นทุกครั้งพอเวลาเราโอนเงินให้แม่ เราพูดตรงๆว่า เรารักแม่ อยู่เหมือนเดิม แม้แม่จะเป็นคนไม่ดียังไง พ่อก็เริ่มแก่ทุกวันๆ เศรษฐกิจก็แย่เอาๆ เราควรจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงดี ( กับแม่ ) เราคิดว่าเราจะบอกว่าไม่มี แต่ทุกครั้งที่เราคิดเราก็ร้องไห้ และทำไม่ลง เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่า เรามี แต่แบบ เราไม่เข้าใจ ทักมาก็ขอแต่เงิน ไม่เคยถามอะไรเลย
แบบนี้เราควรจะทำอย่างไร ขอคำปรึกษา
#ครอบครัวฝั่งแม่ มีแค่ แม่+ญาติผู้ชาย สถานะ แม่ป่วย(น่าจะจริงเพราะแม่ถ่ายรูปมาให้น้ำเกลือ)และตกอับสุดๆ ไม่มีงาน ไม่มีเงิน แถมมาป่วย หมอไม่รู้ว่าโรคอะไร ตอนที่เราถามแม่
"ตอนนี้แม่เรายังไม่ได้เลิกกับพ่อเลี้ยงที่มีลูกด้วยกัน แต่แม่ไม่ยอมไปอยู่กับพ่อเลี้ยงกับลูกอีกคน ซึ่งในส่วนนี้เราไม่เข้าใจแม่เลยจริงๆ"
#ตอนนี้ครอบครัวฝั่งพ่อ พ่อ+แม่เลี้ยง+เรา+น้อง+ลูกติดฝั่งแม่เลี้ยง+น้องเล็กที่พ่อกับแม่เลี้ยง มีความสุขมากๆเพราะตอนนี้พ่อมีบ้านที่ต้องผ่อนเป็นของตัวเอง ส่งลูกจบ ปวส. ซึ่งอันนี้เราพอใจมาก เพราะมันใช้เงินไม่น้อยเลย และพ่อก็พึ่งผ่อนรถหมด เงินเดือนก็ดี แถมมีรับจ๊อบพิเศษ ได้เงินมากกว่าเงินเดือน ส่วนเรา ขายของมือสอง ก็ดี ส่งทั้งไทยและต่างประเทศ ลูกติดแม่เลี้ยงกับน้องเราก็กำลังเรียนอยู่ และมีน้องตัวเล็กเข้ามาเติมเต็ม ตอนนี้ถ้าแบบจริงจังเลย พ่อเหมือนทำงานคนเดียว แล้วเราคอยเสริม สนับสนุน ขาดเงินตรงไหน เอาเงินไปโปะ ประมาณนี้ โดยรวมมีความสุขมากๆเลย และเราก็อยากจะให้ความสัมพันธ์พ่อกับแม่เลี้ยง ไม่ลดลง เพราะเราเข้าใจความรู้สึกเด็ก(ที่เป็นลูก) ไม่อยากให้มาเจอเหมือนที่เราเจอ
.
สุดท้ายนี้ เรายังให้คำตอบตัวเองไม่ได้ ว่าเราควรจะทำหรือแก้ไขยังไงดี หรือ จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราไม่ได้โกรธแม่ แต่บางทีเราก็แอบคิดว่า แม่ทำตัวเองทั้งนั้น และเราก็คิดว่า ถ้าให้เงินทุกครั้งที่ขอ มันจะเหมือนเป็นการ สนับสนุนในทางที่ผิดไหม เพราะแม่ชอบโกหกเอาไปทำในสิ่งที่ไม่ควรจะทำ เพราะเราจะมีภาระของตัวเองที่ต้องทำ ในเรื่องการทำงานในอนาคต คงจะมี เพราะตอนนี้อยู่ในช่วง จะเข้าคัดเลือกทหาร ไปทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะต้องผ่านการเกณฑ์ทหารก่อน ตอนนี้ก็ขายของไปก่อน
.
ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไร แสดงความคิดเห็นได้นะครับ