เมื่อฉันมีประสบการณ์ขนหัวลุก..

กระทู้สนทนา
นี่คิดอยู่นานว่าจะมาตั้งกระทู้ดีไหม คือเรื่องราวอาจจะไม่สนุกมากและก็ยาวมากกกด้วย ใครไม่ชอบอ่าน กดผ่านเลยจ้า อ่านพันทิปบ่อย จนกลัวการดราม่าไปเลย แต่เอานะ ไหนๆก็อยากเล่าแล้วเอาซะหน่อยแล้วกัน ไม่รู้ว่าจะเขียนให้ทุกคนเข้าใจได้ไหมนะ แต่ก็จะพยายามนะ


เหตุการณ์เริ่มต้น

เราเป็นเด็ก ตจว. โรงเรียนใน ตจว. ก็อย่างที่รู้ๆกันเนอะ ติดภูเขา ติดป่าอะไรแบบนี้ ตอนนั้นเราเรียนอยู่ม.ปลาย เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่า เฮ่ยยยย การขนหัวลุกมันเป็นแบบนี้ เราเป็นคนมาโรงเรียนเช้า ไม่ได้ขยันนะ มาพร้อมรถรับ-ส่ง คือบ้านเราไกลมากห่างจากตัวเมืองไป 60 กิโล เรานั่งรถไป-กลับทุกวัน วันนั้นเราไปถึงโรงเรียน ห้องเราอยู่ชั้นสามคะ ตอนนั้นกำลังเดินขึ้น ชั้นสองมีทางเชื่อมไปห้องน้ำ เราก็เห็นน้องผู้ชายคนนึงที่รู้จักกำลังเดินเข้าห้องน้ำไป ใส่ชุดนักเรียน แต่เดินแบบคอตก เหมือนคนเศร้าๆ  เราไม่ได้ทัก เพราะว่าไม่สนิท แต่เรารู้ว่าน้องเค้าป่วยมาหลายวัน ในใจก็คิดว่า เอออ คงดีขึ้นละมาเรียนได้ละเนอะ ก็คิดว่าปกติ ตอนนั้นไม่มีความรู้สึกอะไรเลย คนเราไม่สนิทกัน เจอกันมันจะรู้สึกอะไรทำไมเนอะ 555+ แต่พอตอนเข้าแถวอาจารย์ประกาศหน้าเสาธงว่า ให้ยืนไว้อาลัยสามนาทีแด่เพื่อนที่จากไป ปรากฏว่า คือน้องคนที่เราเห็นเมื่อเช้า อาจารย์บอกว่าน้องจากไปเพราะโรคที่น้องป่วยอยู่นั่นแหละ เรานี่เหวอไปเลย ไม่กล้าบอกใคร เก็บไว้ในใจ นี่เป็นเหตุการณ์เริ่มต้นของชีวิตค่ะ..



เหตุการณ์ต่อมา

ยังอยู่ที่โรงเรียนเดิมและม.ปลายเหมือนเดิม แต่จำไม่ได้แล้วว่าม.อะไร คือเหตุการณ์นานมากแล้วจริงๆ ที่บอกตอนต้นไว้ว่า โรงเรียนเราติดภูเขา อยู่ตีนเขาเลย คนในจ.ชอบแซวพวกเราว่าเป็นนักเรียนหลังเขา พวกเรายังชอบเถียงเลยว่าไม่ใช่นะ หน้าเขาต่างหาก 55+ ตึกโรงเรียนเราเป็นรูปตัวยู โรงเรียนต้องมีบางวิชาที่ให้เราเดินเรียนตามห้องวิชาต่างๆ ตอนนั้นเราจำได้แม่นว่าคือ วิชาภาษาไทย ต้องเดินจากชั้นสามไปชั้นหนึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตึกด้วย คือเดินไกลมาก ห้องเรียนที่เราอยู่ติดฝั่งถนน  ตรงข้ามเป็นห้องเรียนติดฝั่งภูเขา จังหวะที่เรากำลังเดินอยู่กับเพื่อนสนิทในกลุ่ม ที่ตอนนี้ก็ยังสนิทกัน ถ้าได้อ่านพวกมันคงจำเหตุการณ์ได้แม่น 55+ ว่าเราไปทำให้ชีวิตพวกมันขนหัวลุกไปสักระยะนึงเลย

ระหว่างที่เดินด้วยกันมีลมพัดมาวูบนึง เราได้กลิ่นน้ำอบคะ น้ำอบไทยหอมๆ แต่มันใกล้มาก จนเหม็นอ่ะ เหมือนว่าเปิดฝาแล้วมาจ่อที่จมูกเลย แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร (ใครคิดกลิ่นน้ำอบไม่ออกให้คิดถึงเวลาเราอาบน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่เราเอาใส่เข้าไปในน้ำด้วย ไม่รู้ยังใช้กันไหม แต่บ้านเรายังใช้อยู่นะ) ห้องเรียนภาษาไทยของโรงเรียนเราอาจารย์เป็นคนสอนดนตรีไทยด้วยคะ เลยเป็นห้องดนตรีไทยด้วย ระหว่างที่นั่งเรียนก็ได้กลิ่นอีกแล้วคะ กลิ่นเดิมเลยคราวนี้ ตอนนี้ถามเพื่อนละคะ ว่าได้กลิ่นไหม มีคนนึงได้กลิ่นละคะ เป็นเพื่อนสนิทกันมากเลย แต่ตอนนั้นก็ไม่สนใจอีก 555+ เพราะคิดว่ารอดละไม่ได้กลิ่นคนเดียวสักหน่อย แต่ใครจะรู้คะว่าหลังจากนั้น เราได้กลิ่นเกือบตลอด เพื่อนคนไหนมาอยู่ใกล้เราจะได้กลิ่นนั้นไปด้วย เพื่อนสนิทเราถึงขั้นร้องไห้เลยคะ ที่ร้องไห้เพราะคิดแล้วว่า ต้องมีอะไรแปลกแน่ๆ เพราะพอไปอยู่กะเพื่อนคนอื่น หรือเวลากลับบ้าน ที่ต้องแยกกับเราไม่เคยได้กลิ่นเลย พอมาอยู่กับเราคือได้กลิ่นนี้ตลอด เราก็เริ่มกลัวนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง คือไม่กล้าบอกพ่อกะแม่อยู่แล้ว กลัวแกด่าว่าไร้สาระ ก็อดทนได้กลิ่นไป  บางทีกลับบ้านยืนล้างจานอยู่หลังบ้านยังได้กลิ่นเลยนะ

เราก็ใช้ชีวิตปกติไปไม่เกินสามวันนะถ้าจำไม่ผิด เรามีเพื่อนคนนึงบ้านอยู่ข้างวัด ก็สนิทกันในระดับนึงนะ แต่ตั้งแต่ช่วงที่เราได้กลิ่นเราจะรู้สึกไม่อยากเข้าใกล้เค้าเลย พออยู่ใกล้ๆตัวเราจะสั่นๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลัวอะไร ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็ปกติมาก คราวนี้เพื่อนคนนี้แหละ เดินมาทักเราแล้วบอกว่า แก..พอดีฉันไปเล่าเรื่องแกให้พระอาจารย์ฟังว่า แกได้กลิ่นอะไรแบบนี้ แถมยังตัวสั่นเวลาอยู่ใกล้ฉันด้วย พระอาจารย์เลยฝากมาเตือนแกให้ระวังตัว พระอาจารย์ถามถึงวันเกิดแกไปด้วย และบอกฉันมาว่า แกมีสัมพเวสีอยากได้ไปเป็นตัวตายตัวแทนเพราะแกดวงตก แล้ววันนั้นแกเดินผ่านเค้าพอดี เค้าเลยตามแก ยังไงแกก็ไปหาพระบ้างก็ดีนะ ตอนฟังก็รู้สึกกลัวมาก กลัวตายนั่นแหละ แต่จะเอายังไงดีหล่ะ ไม่รู้จริงๆต้องทำไงต่อ พอกลับบ้านไปตอนเย็น แม่ของเพื่อนคนนั้นโทรมาเองเลยจ้า โทรมาบอกขอคุยกะพ่อแม่เราหน่อย แต่ตอนนั้นคือไม่มีใครอยู่บ้านเลย แม่ก็เลยคุยกะเรา คือเรื่องที่แม่พูดก็เหมือนเพื่อนพูด แต่ด้วยความเป็นห่วง กลัวเราไม่กล้าบอกที่บ้าน แม่เห็นว่าถ้าเป็นผู้ใหญ่คุยกันอาจจะน่าเชื่อถือมากกว่า แล้วพรุ่งนี้จะฝากน้ำมนต์จากพระอาจารย์เอามาให้ดื่มและอาบด้วย แม่ก็บอกวิธีว่าต้องอาบในที่แจ้งนะ สวดมนต์ก่อนและราดจากหัวลงไป  เอาไงดีทีนี้ สงสัยต้องบอกพ่อกะแม่ละมั้ง เพราะจะอาบน้ำนอกบ้านนี่มันผิดปกติวิสัยสาวม.ปลายละป่ะ 55+

เราเลยตัดสินใจเล่าคะ เพราะใจคือกลัวมากแล้วด้วย พอเล่าให้พ่อกะแม่ฟัง แม่ร้องไห้เลยค่ะ เพราะแม่บอกว่า แม่ฝันเห็นว่าเราถูกรถชนตายหน้าโรงเรียนโดยที่ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่ด้วย วันรุ่งขึ้นเราก็ได้น้ำมนต์มาจากเพื่อน เป็นเหมือนน้ำเปล่านี่แหละ แต่มีน้ำตาเทียนผสมในน้ำด้วยนิดหน่อย เอาว่ะ เพื่อความสบายใจกลับบ้านปุ๊บเทกินเลยจ่ะ 1 แก้ว แล้วก็เอาไปผสมน้ำอาบกลางแจ้งตามที่แม่เพื่อนแนะนำทุกอย่าง คืนนั้นขอนอนกะพ่อแม่ด้วยนะ เพราะว่าเราแยกห้องมานอนคนเดียวตั้งแต่ประถมละ แต่คืนนั้นคือกลัวมาก ไปพึ่งบารมีพ่อกะแม่พระในบ้านหน่อยดีกว่า จากนั้นพ่อกับแม่ก็พาไปวัดใกล้บ้าน ถวายเพลเสร็จแล้วก็เล่าให้พระอาจารย์ที่วัดฟัง แกก็บอกให้ตัดเล็บ ตัดผมห่อใส่ใบฝรั่ง แล้วเอาไปทิ้งที่แม่น้ำใหญ่ คือเราก็ทำนะ แต่ช่วยอะไร แก้อะไร ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ถามไง แต่คิดว่าพ่อกะแม่น่าจะคุยกะพระอาจารย์แล้ว แล้วจากนั้นทุกอย่างก็ปกติ อ่อ หลังจากเหตุการณ์นี้เราก็เล่าให้เพื่อนฟังนะว่าเราเจอน้องคนนั้นในเหตุการณ์เริ่มต้น 55+ เพื่อนนี่สยองกันเชียวแหละ แล้วชีวิตเราก็ปกติสุขจนเข้ามหาวิทยาลัย ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่