🇹🇭💙มาลาริน💙🇹🇭เฝ้าระวังนทท.จากสิงคโปร์-ฮ่องกงที่มี XBB/สถาบันโรคผิวหนัง งดให้บริการวัคซีน15,22ต.ค./การฉีดวัคซีนเด็ก

กรมควบคุมโรค ยกระดับเฝ้าระวังสนามบิน ตรวจโควิด ผู้โดยสารมีอาการทางเดินหายใจ ที่มาจากสิงคโปร์ ฮ่องกง และประเทศที่พบระบาดสายพันธุ์ XBB พร้อมประสานขอข้อมูล 3 รายที่ฮ่องกงพบเดินทางจากไทย



เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ในไทยรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 2-8 ตุ.ค. 2565 จำนวนผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ย 416 รายต่อวัน เสียชีวิต 8 รายต่อวัน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง สายพันธุ์ BA.5 ยังคงเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาด ส่วนกรณีข่าวฮ่องกงพบสายพันธุ์ XBB 29 ราย โดย 3 รายเดินทางมาจากไทยนั้น กรมควบคุมโรคได้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขผ่านกลไกกฎอนามัยระหว่างประเทศ เพื่อขอทราบข้อมูล 3 รายนี้ ว่าเป็นใคร อาศัยในไทยหรือเป็นผู้โดยสารต่อเครื่องบิน รวมทั้งติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 เพื่อรับมือและเฝ้าระวังการระบาดจากสายพันธุ์ใหม่ๆ จากข้อมูลต่างประเทศยังไม่พบความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลการติดเชื้อจากสายพันธุ์ XBB ในไทย โดยไทยได้ยกระดับการเฝ้าระวังที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินทุกแห่ง หากตรวจพบผู้โดยสารที่มีอาการจากระบบทางเดินหายใจที่เดินทางจากสิงคโปร์ ฮ่องกง และประเทศที่มีรายงานการระบาดของสายพันธุ์ XBB หากมีผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ มีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจที่เข้ารับการรักษาใน รพ.รัฐและเอกชน และเฝ้าระวังในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้ทำการสุ่มเพื่อส่งตรวจหาสายพันธุ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

"สำหรับผู้ที่จะเดินไปต่างประเทศขอให้ไม่ประมาท ศึกษาคำแนะนำของประเทศที่จะเดินทางไป ป้องกันตนเองเสมอ โดยสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ป้องกันโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจได้ ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ช่วยที่ลดความรุนแรงของโรค" นพ.โสภณกล่าว

https://mgronline.com/qol/detail/9650000098680

จุดฉีดวัคซีนโควิดสถาบันโรคผิวหนัง งดให้บริการในวันเสาร์ที่ 15 และ 22 ต.ค.นี้


วันที่ 13 ต.ค.65 เพจเฟซบุ๊ก CVC กลางบางซื่อ โพสต์ข้อความระบุว่า...
จุดฉีดวัคซีนสถาบันโรคผิวหนัง
งดให้บริการในวันเสาร์ที่ 15 และ 22 ตุลาคม
เปิดให้บริการอีกครั้ง วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม
 
ซึ่งจะมีบริการวัคซีนโมเดอร์นา วันสุดท้าย
ณ ห้องประชุมชั้น 20 สถาบันโรคผิวหนัง
เวลาทำการ 9.00 -15.00 น.
เปิดให้บริการทั้งรูปแบบจองคิวล่วงหน้า
และลงทะเบียน ณ จุดฉีด (walk in)
คนไทย / ต่างชาติ / ต่างด้าว
อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป
ทุกเข็ม
ชนิดวัคซีนที่มีให้บริการคือ
ไฟเซอร์ฝาสีม่วง, ไฟเซอร์ฝาสีส้ม, โมเดอร์นา
จองคิวฉีดล่วงหน้าได้ที่ >> https://covid19.iod.go.th/vaccine
***** สถาบันโรคผิวหนัง
อาคารหลังใหม่ ติดถนนราชวิถี
(อยู่ระหว่างรพ.ราชวิถีและสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี)
ตั้งอยู่ เลขที่ 456 ถ.ราชวิถี
แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400


https://siamrath.co.th/n/390838

สธ.ยันวัคซีนโควิดเด็กฉีดพร้อมวัคซีนอื่นๆ ได้!


กรมควบคุมโรค เผยการฉีดวัคซีนโควิด19 ของไฟเซอร์ในเด็ก​ ​6 เดือน​ -​4 ปี สามารถฉีดพร้อมวัคซีนชนิดอื่นในวันเดียวกันได้

13 ต.ค.2565​ - นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค แนะนำให้เด็กอายุ 6 เดือน - 4 ปี เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีแดง เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 พบว่า ในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี พบอัตราป่วยสูงเป็น 1.5 เท่าของเด็กอายุ 5-9 ปี และพบอัตราการเสียชีวิตสูงเป็น 3 เท่าของเด็กอายุ 5-9 ปี เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต ผู้ปกครองจึงควรพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนตามกำหนด

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ไฟเซอร์ ฝาสีแดงจะฉีดให้เด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือน - 4 ปี ซึ่งกำหนดให้ฉีดวัคซีน 0.2 ซีซี (3 ไมโครกรัม) จำนวน 3 เข็ม เข็มสองห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มสามห่างเข็มสอง 2 เดือน หลังฉีดให้สังเกตอาการ 30 นาที และติดตามต่อจนครบ 1 เดือน โดยให้จัดจุดบริการแยกจากกลุ่มวัยอื่น เพื่อป้องกันความสับสนในการใช้วัคซีน

“เด็กทุกคนควรเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิต พร้อมทั้งได้มีการสื่อสารถึงเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขในเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์สีแดง โดยให้ผ่านระบบสถานพยาบาล หรืออาจพิจารณาให้วัคซีนในศูนย์เด็กเล็กภายใต้กำกับของแพทย์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานครเห็นสมควร เริ่มฉีดวัคซีนได้เมื่อมีความพร้อม โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก ไม่เสียค่าใช้จ่าย และการรับวัคซีนไม่เป็นเงื่อนไขในการไปโรงเรียน” นพ.ธเรศกล่าว
 
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถให้พร้อมกับวัคซีนอื่นๆ ในวันเดียวกันได้ หรือห่างกันเท่าใดก็ได้ สำหรับข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง สหรัฐอเมริกามีการฉีดและติดตามล้านกว่าโดส พบว่ามีผลข้างเคียงน้อยกว่าเด็กโต ไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงถึงเสียชีวิต ถือว่าปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กและยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะ MIS-C จากการติดเชื้อด้วย โดยขณะนี้กรมควบคุมโรค ได้จัดส่งวัคซีนไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เพื่อให้กระจายต่อในพื้นที่ตามจำนวนที่มีการแจ้งความประสงค์ ขอเชิญผู้ปกครองที่สนใจพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ณ สถานพยาบาลทั่วประเทศ ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกรุงเทพมหานครกำหนด

https://www.thaipost.net/covid-19-news/241926/

ติดตามข่าวโควิดกันต่อไปนะคะ....
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จับตา! โควิด 6 สายพันธุ์ย่อยกำลังระบาด พบในไทยแล้ว 3 สาย


ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุข้อความว่า
โควิด 6 สายพันธุ์ย่อยกำลังระบาด พบในไทยแล้ว 3 สาย
นักวิจัยทั่วโลกได้ร่วมกันถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสโคโรน่า 2019 มาตลอด 3 ปี ทำให้สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาสร้างเป็นต้นไม้
แห่งการวิวัฒนาการของไวรัสโคโรน่า 2019 (ด้วยระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง) เริ่มตั้งแต่ต้นกำเนิดจาก “ไวรัสอู่ฮั่น” ได้มีการวิวัฒนาการ
กลายพันธุ์เกิดเป็นทั้งสายพันธุ์หลัก และสายพันธุ์ย่อย แตกกิ่งก้านมาทดแทนกันอย่างต่อเนื่อง (phylogenetic tree) จนล่าสุดเกิดเป็นโอมิครอน
กลุ่มเพนตากอนอย่างน้อย 6 สายพันธุ์ย่อยฺ BQ.1.1, BF.7, BA.2.3.20, BA.2.75.2, BN.1, และ XBB

จากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมโควิดโลก “GISAID”
ในประเทศไทยพบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย
BF.7 จำนวน 2 ราย
BN.1 จำนวน 3 ราย
BA.2.75.2 จำนวน 5 ราย
(ณ. วันที่ 13/10/2565)

แม้จากข้อมูล GISAID จะพบการระบาดของแต่ละสายพันธุ์อยู่ในราว 200 - 2,000 ราย แต่มีการเพิ่มจำนวนมากกว่า 105%
หรือเท่าตัวในทุกสัปดาห์ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกคาดว่า จะมีการระบาดมาแทนที่ BA.5 ในสิ้นปีนี้ หรือต้นปี 2566
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

https://www.tnnthailand.com/news/covid19/127818/

https://www.infoquest.co.th/2022/242677
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่