ตอนนี้ผมอายุ19ครับ ย้อนไปในตอนเด็กๆครอบครัวผมถือว่าperfectเลยครับ บอกก่อนนะครับว่าตอนนั้น ผมอยู่กับแม่ที่ทำงานอยู่จังหวัดใกล้เคียง พ่อและพี่อยู่ชายผมอยู่ที่บ้านครับ ผมจึงค่อนข้างจะอยู่ข้างแม่มากกว่า
เรื่องเริ่มเกิดขึ้นตอนที่ผมและแม่ย้ายกลับมาอยู่บ้าน แม่พูดว่าเขาโดนของ อาการที่เขาเคยพูดคือเขาร้อนในตัวแล้วก็มีแผลเป็นจุดๆครับ
(ในตอนนั้นผมคิดว่าน่าจะเป็นสะเก็ดเงินสะเก็ดทองครับ) อีกอย่างคือ
เขาหายใจไม่ออกซึ่งเขาก็เข้าข่ายเป็นโรคหอบหืดนะครับ แต่เขาก็ยืนยันว่ามีคนทำให้เขาเป็นแบบนี้ การเป็นอยู่ในบ้านก็อึดอัดครับในตอนนั้น พ่อแม่ไม่คุยกัน เวลาเขาเป็นตอนกลางคืนจะมานั่งใต้หิ้งพระบ้าง นั่งอยู่ในมุ้งมืดๆบ้าง คาดว่าน่าจะนั่งสวดนะครับ อีกอย่างนึงเขาบอกว่าอยู่ที่บ้านจะร้อนตัวจนอยู่ไม่ได้ และยายผมเป็นใต้ เขาค่อนข้างจะอะไีรกับเรื่องแบบนี้ ยายผมเลยไปดูหมอให้ในตอนนั้น หมอดูบอกว่ามีคนทำจริงๆ ผมเลยเชื่อสนิทใจว่ามีคนทำแม่ผมจริงๆ จนทำให้ พ่อ ป้า และลุง น่าจะไปปรึกษากัน
*อีกอย่างนึงคือแม่ ผม ลุง ป้า นับถือคริสต์ครับ ตอนนั้นมีแค่พ่อนับถือพุทธ แต่แม่ก็ยังเชื่อในเรื่องนี้
เย็นวันนั้นพวกผู้ใหญ่เขาให้ผมและพี่ชายไปอยู่บ้านย่าครับ แล้วก็ช่วยกันจับพาตัวแม่ไป จนกลับมาเวลาประมาณ4ทุ่ม พ่อก็มารับไปนอนที่บ้าน เข้าบ้านมาก็เห็นแม่ครับนอนอยู่กลางบ้านเลย พร้อมกันมีถุงผมกระจุกหนึ่ง(เท่าที่จำได้) ผ่านมานานแม่เขาก็จะมีอาการซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ครับ จนเขาแอบหนีไปอยู่ที่อื่นติดต่อไม่ได้ตอนนั้นมีแค่เบอร์โทรเท่านั้นครับ พ่อผมก็ตามหาทุกทาง จะไปอยู่ที่ไหนทำอะไร
จนคืนนั้นพ่อผมเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกลับบ้านจนเสียชีวิต
ผมได้แต่ร้องไห้ ตอนนั้นพ่อผมคือทุกอย่าง ผ่านไปน่าจะประมาณครึ่งปีแม่ผมกลับมาแล้วก็รู้ข่าว (แม่บอกพ่อไปเข้าฝันเอาเสื้อผ้าสีดำขาวไปให้)
กลับมาอยู่บ้าน3แม่ลูก อาการของเขาดีบ้างไม่ดีบ้าง เขาไม่ค่อยได้ทำงานเพราะเขาบอกว่าทำปุ้บจะมีอาการดังกล่าวจึงทำไม่ได้ ภาระทุกอย่างยายผมโอนผ่านไปรษณีย์บัตรมาให้ ค่าไฟ น้ำมันรถ กับข้าวที่บ้าน ค่าขนมไปเรียนผมและพี่ชาย ลำบากดิ้นรนจนพี่ชายเรียนจบม.3
ไม่ได้เรียนต่อพี่บอกให้ผมเรียนแทนเขา พี่ผมไปทำงานกับญาติที่รู้จักกัน อาการแม่ที่อยู่กับผมตอนนั้นดีขึ้นเยอะครับ ทำงานเองได้มีเงินเก็บ
จนมาแย่อีกตอนผม ม.5กำลังจะขึ้นม.6 ตอนนั้นพี่ผมออกจากงานที่กรุงเทพมาอยู่ที่บ้านแล้ว แม่เริ่มมีอาการเหมือนเดิมแต่รอบนี้หนักกว่า
ผมไม่รู้ว่าเขาเอาวิธีมาจากไหนคือการเอาฉี่ตัวเองมาทาตัวตอนอาบน้ำเอามีดจุ่มแล้วมาถูที่ตัว กรอกฉี่ตัวเองใส่ขวดแล้ววางไว้รอบๆบ้าน
มันหนักมากจนผมทนไม่ได้ บ้านควรจะเป็นที่ที่อยู่แล้วสุขใจ สบายใจ
แต่เรื่องพวกนี้ทำให้ผมรับไม่ได้ เคยพูดออกไปตอนทะเลาะเรื่องนี้กับแม่ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ มีจริงมาเข้าตัวนี่อยากตายวะ ช่วงนั้นมันเกินจะทนได้จริงๆเพราะเรื่องพวกนี้ทำให้ผมลำบาก ตัวผมเองก็ต้องเรียน กลับมาก็มาเจอกลิ่นน้ำฉี่ที่เต็มบ้านไปหมด ค่าเทอม ค่าไปกินโรงเรียนเขาก็ไม่ได้ส่งเสีย บางวันก็ตัวเปล่าไปโรงเรียน วันไหนไม่มีน้ำมันรถ
ผมก็ให้เพื่อนมารับเพราะเรียนใกล้จบแล้ว จนผมเรียนจบมาปีกว่าไปแล้ว ได้งานทำจ่ายค่าเทอมเอาใบจบกลับบ้านด้วยตัวเอง จนถึงช่วงต้นปี ผมออกจากบ้านแล้วไปอยู่บ้านเพื่อนใกล้ที่ทำงาน เพราะมันอึดอัด บ้านไม่น่าอยู่ เหมือนแต่ก่อนแล้ว ส่วนพี่ชายก็ทนอยู่เพราะใช้แค่นอน ส่วนมากจะทำงาน จนปัจจุบันนี้แม่เขาได้บอกยายว่า เขาจะไปแล้วไม่กลับมาอีกแล้ว เป็นเพราะเหตุผลต่างๆทำให้ผมไม่อยากคุยกับแม่
ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องทำอย่างไรดี ชีวิตทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ปีนี้แย่มากๆ แฟนที่เคยคบ เคยอยู่ให้กำลังใจ ตอนนี้ก็เลิกลา ท้อแท้ เหนื่อยเหลือเกิน ขอบคุณสำหรับที่ระบายครับ
แม่ผมโดนไสยศาสตร์จริงหรือแค่คิดไปเอง
เรื่องเริ่มเกิดขึ้นตอนที่ผมและแม่ย้ายกลับมาอยู่บ้าน แม่พูดว่าเขาโดนของ อาการที่เขาเคยพูดคือเขาร้อนในตัวแล้วก็มีแผลเป็นจุดๆครับ
(ในตอนนั้นผมคิดว่าน่าจะเป็นสะเก็ดเงินสะเก็ดทองครับ) อีกอย่างคือ
เขาหายใจไม่ออกซึ่งเขาก็เข้าข่ายเป็นโรคหอบหืดนะครับ แต่เขาก็ยืนยันว่ามีคนทำให้เขาเป็นแบบนี้ การเป็นอยู่ในบ้านก็อึดอัดครับในตอนนั้น พ่อแม่ไม่คุยกัน เวลาเขาเป็นตอนกลางคืนจะมานั่งใต้หิ้งพระบ้าง นั่งอยู่ในมุ้งมืดๆบ้าง คาดว่าน่าจะนั่งสวดนะครับ อีกอย่างนึงเขาบอกว่าอยู่ที่บ้านจะร้อนตัวจนอยู่ไม่ได้ และยายผมเป็นใต้ เขาค่อนข้างจะอะไีรกับเรื่องแบบนี้ ยายผมเลยไปดูหมอให้ในตอนนั้น หมอดูบอกว่ามีคนทำจริงๆ ผมเลยเชื่อสนิทใจว่ามีคนทำแม่ผมจริงๆ จนทำให้ พ่อ ป้า และลุง น่าจะไปปรึกษากัน
*อีกอย่างนึงคือแม่ ผม ลุง ป้า นับถือคริสต์ครับ ตอนนั้นมีแค่พ่อนับถือพุทธ แต่แม่ก็ยังเชื่อในเรื่องนี้
เย็นวันนั้นพวกผู้ใหญ่เขาให้ผมและพี่ชายไปอยู่บ้านย่าครับ แล้วก็ช่วยกันจับพาตัวแม่ไป จนกลับมาเวลาประมาณ4ทุ่ม พ่อก็มารับไปนอนที่บ้าน เข้าบ้านมาก็เห็นแม่ครับนอนอยู่กลางบ้านเลย พร้อมกันมีถุงผมกระจุกหนึ่ง(เท่าที่จำได้) ผ่านมานานแม่เขาก็จะมีอาการซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ครับ จนเขาแอบหนีไปอยู่ที่อื่นติดต่อไม่ได้ตอนนั้นมีแค่เบอร์โทรเท่านั้นครับ พ่อผมก็ตามหาทุกทาง จะไปอยู่ที่ไหนทำอะไร
จนคืนนั้นพ่อผมเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกลับบ้านจนเสียชีวิต
ผมได้แต่ร้องไห้ ตอนนั้นพ่อผมคือทุกอย่าง ผ่านไปน่าจะประมาณครึ่งปีแม่ผมกลับมาแล้วก็รู้ข่าว (แม่บอกพ่อไปเข้าฝันเอาเสื้อผ้าสีดำขาวไปให้)
กลับมาอยู่บ้าน3แม่ลูก อาการของเขาดีบ้างไม่ดีบ้าง เขาไม่ค่อยได้ทำงานเพราะเขาบอกว่าทำปุ้บจะมีอาการดังกล่าวจึงทำไม่ได้ ภาระทุกอย่างยายผมโอนผ่านไปรษณีย์บัตรมาให้ ค่าไฟ น้ำมันรถ กับข้าวที่บ้าน ค่าขนมไปเรียนผมและพี่ชาย ลำบากดิ้นรนจนพี่ชายเรียนจบม.3
ไม่ได้เรียนต่อพี่บอกให้ผมเรียนแทนเขา พี่ผมไปทำงานกับญาติที่รู้จักกัน อาการแม่ที่อยู่กับผมตอนนั้นดีขึ้นเยอะครับ ทำงานเองได้มีเงินเก็บ
จนมาแย่อีกตอนผม ม.5กำลังจะขึ้นม.6 ตอนนั้นพี่ผมออกจากงานที่กรุงเทพมาอยู่ที่บ้านแล้ว แม่เริ่มมีอาการเหมือนเดิมแต่รอบนี้หนักกว่า
ผมไม่รู้ว่าเขาเอาวิธีมาจากไหนคือการเอาฉี่ตัวเองมาทาตัวตอนอาบน้ำเอามีดจุ่มแล้วมาถูที่ตัว กรอกฉี่ตัวเองใส่ขวดแล้ววางไว้รอบๆบ้าน
มันหนักมากจนผมทนไม่ได้ บ้านควรจะเป็นที่ที่อยู่แล้วสุขใจ สบายใจ
แต่เรื่องพวกนี้ทำให้ผมรับไม่ได้ เคยพูดออกไปตอนทะเลาะเรื่องนี้กับแม่ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ มีจริงมาเข้าตัวนี่อยากตายวะ ช่วงนั้นมันเกินจะทนได้จริงๆเพราะเรื่องพวกนี้ทำให้ผมลำบาก ตัวผมเองก็ต้องเรียน กลับมาก็มาเจอกลิ่นน้ำฉี่ที่เต็มบ้านไปหมด ค่าเทอม ค่าไปกินโรงเรียนเขาก็ไม่ได้ส่งเสีย บางวันก็ตัวเปล่าไปโรงเรียน วันไหนไม่มีน้ำมันรถ
ผมก็ให้เพื่อนมารับเพราะเรียนใกล้จบแล้ว จนผมเรียนจบมาปีกว่าไปแล้ว ได้งานทำจ่ายค่าเทอมเอาใบจบกลับบ้านด้วยตัวเอง จนถึงช่วงต้นปี ผมออกจากบ้านแล้วไปอยู่บ้านเพื่อนใกล้ที่ทำงาน เพราะมันอึดอัด บ้านไม่น่าอยู่ เหมือนแต่ก่อนแล้ว ส่วนพี่ชายก็ทนอยู่เพราะใช้แค่นอน ส่วนมากจะทำงาน จนปัจจุบันนี้แม่เขาได้บอกยายว่า เขาจะไปแล้วไม่กลับมาอีกแล้ว เป็นเพราะเหตุผลต่างๆทำให้ผมไม่อยากคุยกับแม่
ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องทำอย่างไรดี ชีวิตทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ปีนี้แย่มากๆ แฟนที่เคยคบ เคยอยู่ให้กำลังใจ ตอนนี้ก็เลิกลา ท้อแท้ เหนื่อยเหลือเกิน ขอบคุณสำหรับที่ระบายครับ