เมื่อไทยต้องการเป็นพระเอก หมายถึงการไม่ยิงศัตรูก่อน และจะยิงก็ต่อเมื่อถูกโจมตีก่อนเท่านั้น
ดังนั้นความอยู่รอด ในการถูกโจมตีทางอากาศระลอกแรกนั้นจึงสำคัญมาก เช่น จรวดต่อต้านเรือผิวน้ำ , เครื่องบินรบ , เฮลิคอปเตอร์ และ โดรน เป็นต้น

<< การป้องกันภัยทางอากาศ ของเรือรบไทย >>
1) เรือฟริเกต 3 ลำ
- เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดล
- เรือหลวงนเรศวร
- เรือหลวงตากสิน
* ทั้งสามลำ ใช้ท่อยิงแนวดิ่ง Mk.41 VLS ลำละ 8 ท่อยิง บรรจุจรวด ESSM ระยะยิง 50 KM เนื่องจาก ESSM  1 ท่อใส่ได้ 4 ลูก ดังนั้นเรือ 1 ลำ มีจรวด 32 ลูก
* เฉพาะ เรือหลวงภูมิพลฯ มี Phalanx CIWS 20 มม. หนึ่งระบบ ระยะยิง 1,486 เมตร

2)เรือคอร์เวต 2 ลำ
- เรือหลวงรัตนโกสินทร์
- เรือหลวงสุโขทัย
* ทั้งสองลำ ใช้แท่นยิงอัลบราทรอส ลำละ 1 แท่น 8 ท่อยิง บรรจุจรวด Aspide ระยะยิง 25 KM ดังนั้นเรือ 1 ลำ มีจรวด 8 ลูก

3)เรือบรรทุกเครื่องบินจักรีนฤเบศร
* แท่นยิงจรวด Mistral 3 แท่น แท่นละ 6 ลูก รวม 18 ลูก ระยะยิง 6 KM ยิงเป้าหมายได้เฉพาะอากาศยาน-เฮลิคอปเตอร์ ไม่ได้ใช้สกัดจรวด

————————————
สรุป ไทยมีเรือรบที่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ 6 ลำ
เป็นเรือรบที่มีประสิทธิภาพสูงในการยิงสกัดจรวดได้ 5 ลำ(1. และ 2.)

https://www.facebook.com/groups/thaiarmedforce/permalink/3351072941804039/
(ขอขอบคุณข้อมูลจากกลุ่ม TAF)
https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
https://thaiseafarer.com/naval-force/fs441/