วันนึงคนที่เคยทำผิดร้ายแรงกับคุณ จนเกลียดไม่เผาผี มาขอโทษในสิ่งที่เคยทำไว้ คุณจะพูดอะไรกับเขา

และคุณจะอโหสิหรือให้อภัยเขาไหม
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3



• คงแล้วแต่ข้อหาค่ะ - แต่ปรกติถ้าทำไว้ถึงขนาด “เกลียดจนไม่เผาผี” สำหรับเราก็คงเป็นตามนั้น “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” นั่นแหละค่ะ คือ ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกัน ไม่มีพื้นที่ในชีวิตให้ ไม่มีราคาหรือคุณค่าใดที่จะให้กับการมีอยู่กับคนที่เราใช้คำนั้นอยู่แล้ว

เพราะที่เจอมาบางข้อหาเนี่ย ให้เอาดอกไม้ธูปเทียนแพมาขอขมา ก็คงชักเท้าหนีนะคะ - โดยเฉพาะพวกที่เตือนแล้วไม่ฟังกลับคิดร้ายกับเรา เอาเราไปนินทา ไปพาคนอื่นมาจงเกลียดจงชัง หาว่าเราอิจฉาริษยาเนี่ย ไม่รู้เอาอะไรคิด -  อยู่กันคนละโลกมันก้อคงดีแล้วจ้ะแบบนั้น  “จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด”  ~  อโหสิให้ไปแล้ว แต่คงไม่มานั่งให้อภัยหรือให้โอกาสทำเรื่องเลวร้ายอะไรในชีวิตเราอีก แค่นั้นเลยค่ะ •

# อโหสิกับให้อภัยมันคนละเรื่องกัน จ้ะ 😸


เม่าปัดรังควาน






ความคิดเห็นที่ 6
ก่อนอื่น ต้องแยกคำที่ขีดเส้นใต้ออกจากกันก่อน
เพราะบางคำ มันคนละเรื่องเดียวกัน

การทำผิดร้ายแรงชนิดไม่เผาผี มีประการเดียว
คือการกระทำ ที่เขาทำให้เราเกิดความทุกข์ขึ้นที่ใจ
อึดอัดใจ จนขาดจากการเป็นมิตร หมดความไว้ใจอีกต่อไป

เพราะฉะนั้น ทุกอย่างต่อจากนี้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร
ก็อยู่บนพื้นฐานของความไม่ไว้ใจ ความไม่สบายใจทั้งสิ้น

จึงไม่จำเป็น จะต้อง ขอโทษ ขออภัย
อีกต่อไป

ส่วนการอโหสิกรรม
มันเป็นเรื่องส่วนตัว
ในเมื่อเราตัดแล้ว
ไม่ว่าเราจะเคยทำอะไรเค้าไว้
แล้วเขามาทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ
ก็ขอให้เวรมันสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้
นี่คือ อโหสิกรรม

ส่วนเกลียด คือ ความโง่
ไม่มีใครได้ประโยชน์เลย
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้ารู้สึกผิดจริง ก็จงยอมรับผลของการกระทำซะ !


ฉันจะสาปให้เธอเสียใจไม่ต่างกับฉัน
ฉันจะสาปให้เธอรับกรรมที่ทำเอาไว้
ให้ความเจ็บมันสอน อย่าได้ไปทำกับใคร
เพราะที่ฉันเจ็บ ไม่ว่านานเพียงไร ฉันไม่ให้อภัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่