เสียงเรียกปล่อย ยามตะวันคล้อย
เสียงตามสายในตอนเช้า จะกลายเป็นเสียงแห่งสวรรค์ของนักโทษบางคนในฉับพลัน เมื่อเสียงนั้นลงท้ายด้วยคำว่า “รับการปล่อยตัว” มันคือวันแห่งฝันที่ทุกคนเฝ้ารอคอยจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ สำหรับดินแดนความมั่นคงสูงแล้ว เสียงเรียกปล่อยตัวนี้จะก้องกังวานหลังอาหารเช้าเท่านั้น แต่รับรองว่าผู้มีชื่อหัวใจคงไปนั่งลิ้มรสอาหารหวานขมนอกกำแพงแห่งนี้แล้วเป็นแน่ เพราะต่างก็รู้ตัวอยู่ก่อนแล้วทั้งนั้น ส่วนใครที่ยังไม่ได้เป็นนักโทษเด็ดขาด หากได้ประกันตัวหรือเป็นวันที่หัวใจพองโตเพราะคดียกฟ้องไปเมื่อกลางวัน เสียงสวรรค์นั้นจะมาเมื่อฟ้ามืด นำมาก่อนด้วยเสียงทะเลาะกันดังกรุ๊งกริ๊งของลูกกุญแจดอกน้อยที่ห้อยรวมพวงโต ตามด้วยเสียงเรียกชื่อจากเจ้าหน้าที่ อาจไม่ดังสดใสเหมือนเสียงตามสายยามรุ่งอรุณ แต่ต่อให้แผ่วเบาแค่ไหนก็ดังนุ่มทุ้มในใจผู้เป็นเจ้าของชื่อแน่นอน จะมีสิ่งใดเล่า หอมหวานเท่าอิสระ ฉ่ำเย็นเท่าเสรี หรืออบอุ่นเท่ากอดของผู้เป็นที่รัก เราต่างรอคอยเสียงนี้ด้วยหวังอย่างมีความหวังแต่ความหวังของใครจะสว่างชัดกว่ากัน คงต้องถือเอาว่าวันปล่อยของผู้ใดใกล้ถึงกว่า ส่วนโทษของใครยังใช้ตัวอักษรบรรยายเนื้อความ “ตลอดชีวิต” “ประหารชีวิต” แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อาจดูริบหรี่เลือนลาง แต่ก็ใช่จะดับมืดเวิ้งว้างหากมันต่อท้ายด้วยชั้น “ดี ดีมาก หรือเยี่ยม” ซึ่งเป็นดั่งแสงเทียนเล่มน้อยที่คอยส่องทางให้ไปยังปลายอุโมงค์ได้อย่างปลอดภัย แต่วันนี้เสียงเรียกปล่อยตัวของนักโทษคนหนึ่งกลับดังแทรกอากาศเมื่อดวงตะวันล่วงเลยกลางศีรษะจนเงาทอดยาวหลังอาหารมื้อสุดท้ายของวันสำหรับชาวคุก จึงหาใช่สิ่งปกติทั่วไป หากใครได้สังเกตคงแปลกใจว่าเหตุใดวันหยุดศาลปิดกลับมีคนได้รับอิสระในยามสายัญ แต่หากรู้ข่าวและเรื่องราวคงเข้าใจได้ไม่ยากนักว่าเจ้าของชื่อได้รับอิสรภาพแล้วจริงๆ เพียงแต่ร่างถูกพาออกไปหลังวิญญาณ โทษทัณฑ์ในชาตินี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ภพต่อไปจะเป็นเช่นไรคงแล้วแต่กงล้อแห่งกรรมจะหมุนพาชะตาไป ยามนี้บ่ายคล้อยแล้ว เมื่อลมหายใจมีความหวังก็ยังมี อิสรภาพจะเป็นของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สักวัน...สักวัน...
LuckyLove
เสียงเรียกปล่อย ยามตะวันคล้อย - ชีวิตหลังกำแพง
เสียงตามสายในตอนเช้า จะกลายเป็นเสียงแห่งสวรรค์ของนักโทษบางคนในฉับพลัน เมื่อเสียงนั้นลงท้ายด้วยคำว่า “รับการปล่อยตัว” มันคือวันแห่งฝันที่ทุกคนเฝ้ารอคอยจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ สำหรับดินแดนความมั่นคงสูงแล้ว เสียงเรียกปล่อยตัวนี้จะก้องกังวานหลังอาหารเช้าเท่านั้น แต่รับรองว่าผู้มีชื่อหัวใจคงไปนั่งลิ้มรสอาหารหวานขมนอกกำแพงแห่งนี้แล้วเป็นแน่ เพราะต่างก็รู้ตัวอยู่ก่อนแล้วทั้งนั้น ส่วนใครที่ยังไม่ได้เป็นนักโทษเด็ดขาด หากได้ประกันตัวหรือเป็นวันที่หัวใจพองโตเพราะคดียกฟ้องไปเมื่อกลางวัน เสียงสวรรค์นั้นจะมาเมื่อฟ้ามืด นำมาก่อนด้วยเสียงทะเลาะกันดังกรุ๊งกริ๊งของลูกกุญแจดอกน้อยที่ห้อยรวมพวงโต ตามด้วยเสียงเรียกชื่อจากเจ้าหน้าที่ อาจไม่ดังสดใสเหมือนเสียงตามสายยามรุ่งอรุณ แต่ต่อให้แผ่วเบาแค่ไหนก็ดังนุ่มทุ้มในใจผู้เป็นเจ้าของชื่อแน่นอน จะมีสิ่งใดเล่า หอมหวานเท่าอิสระ ฉ่ำเย็นเท่าเสรี หรืออบอุ่นเท่ากอดของผู้เป็นที่รัก เราต่างรอคอยเสียงนี้ด้วยหวังอย่างมีความหวังแต่ความหวังของใครจะสว่างชัดกว่ากัน คงต้องถือเอาว่าวันปล่อยของผู้ใดใกล้ถึงกว่า ส่วนโทษของใครยังใช้ตัวอักษรบรรยายเนื้อความ “ตลอดชีวิต” “ประหารชีวิต” แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อาจดูริบหรี่เลือนลาง แต่ก็ใช่จะดับมืดเวิ้งว้างหากมันต่อท้ายด้วยชั้น “ดี ดีมาก หรือเยี่ยม” ซึ่งเป็นดั่งแสงเทียนเล่มน้อยที่คอยส่องทางให้ไปยังปลายอุโมงค์ได้อย่างปลอดภัย แต่วันนี้เสียงเรียกปล่อยตัวของนักโทษคนหนึ่งกลับดังแทรกอากาศเมื่อดวงตะวันล่วงเลยกลางศีรษะจนเงาทอดยาวหลังอาหารมื้อสุดท้ายของวันสำหรับชาวคุก จึงหาใช่สิ่งปกติทั่วไป หากใครได้สังเกตคงแปลกใจว่าเหตุใดวันหยุดศาลปิดกลับมีคนได้รับอิสระในยามสายัญ แต่หากรู้ข่าวและเรื่องราวคงเข้าใจได้ไม่ยากนักว่าเจ้าของชื่อได้รับอิสรภาพแล้วจริงๆ เพียงแต่ร่างถูกพาออกไปหลังวิญญาณ โทษทัณฑ์ในชาตินี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ภพต่อไปจะเป็นเช่นไรคงแล้วแต่กงล้อแห่งกรรมจะหมุนพาชะตาไป ยามนี้บ่ายคล้อยแล้ว เมื่อลมหายใจมีความหวังก็ยังมี อิสรภาพจะเป็นของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สักวัน...สักวัน...
LuckyLove