JJNY : 5in1 ‘คลังวิลล่า’ยกธงขาวอีก│ไถผิวดินสนามบอลก่อน6ตุลา│“วรวัจน์”ลุยถก“ภูเก็ต”│กกต.ดับฝัน│แนวหน้าทางใต้รัสเซียล่ม

ห้างดังโคราชยกธงขาวอีกสาขา “คลังวิลล่าสุรนารายณ์” แบกวิกฤตซ้อนโควิด-ทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว ปิดตำนาน 36 ปี เครือ “คลังพลาซ่า”
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7301735
 
 
วันที่ 5 ต.ค. 65 “คลังวิลล่าสุรนารายณ์” เยื้องมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน นครราชสีมา ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นของคนโคราช แจ้งเปิดให้บริการแผนกซูเปอร์มาร์เก็ตและสินค้าอื่น ๆ เป็นวันสุดท้าย จากนั้นจะปิดตัวยุบไปรวมกับ “คลังพลาซ่าอัษฎางค์” หรือคลังเก่า อย่างเป็นทางการ
 
นายไพรัตน์ มานะศิลป์ รองประธานกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท คลังพลาซ่า จำกัด ผู้ประกอบการในเครือคลังพลาซ่า เปิดเผยว่า การหยุดกิจการ “คลังวิลล่า” สาเหตุเกิดจากผลกระทบวิกฤตซ้อนทั้งโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจซบเซารวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคการเดินในห้างเปลี่ยนไป รูปแบบห้างสรรพสินค้าดีพาร์ทเม้นท์ที่แยกเป็นแผนกสินค้าต่าง ๆ ไม่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ จึงต้องปรับตัวโดยเปลี่ยนแปลงธุรกิจและปรับปรุงในทางที่ดีกว่า เลือกเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ได้รับความนิยม
 
ผู้บริหารได้พยายามทุกวิถีทาง เพื่อประคับประคองกิจการแต่ระยะเวลาที่ยาวนาน ยังขาดทุนสะสมต่อเนื่อง สถานการณ์อยู่ในภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินการดำเนินธุรกิจอยู่ภาวะวิกฤตแบกรับภาระไม่ไหว โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าของ “คลังวิลล่า” ไม่รวมค่าจ้างแรงงานกว่า 40 คน ต้องจ่ายเดือนละ 5 แสนบาท จึงจำเป็นต้องปิดในส่วนของคลังมาร์เก็ต ที่บริษัท ฯ รับผิดชอบ เหลือเฉพาะอาคารของผู้เช่าด้านหน้าประกอบด้วย “คลินิกทันตกรรม” “เคเอฟซี” “วัตสัน” ฯ เปิดให้บริการตามปกติ โดยสินค้ารวมทั้งหนังสือและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ได้นำไปวางจำหน่ายชั้น 1 “คลังพลาซ่าอัษฎางค์
 
ส่วน “คลังพลาซ่าจอมสุรางค์” ได้เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจเป็นโปรเจ็กต์มัลติยูส อาคารเอนกประสงค์ที่มีหลากหลายธุรกิจมารวมอยู่ในพื้นที่และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “อาภาญา” มิใช่ห้างสรรพสินค้าเหมือนเดิม ได้ผสมผสานหลายอย่างภายในพื้นที่ทั้งหมดไม่มีสินค้าเหมือนห้างในอดีต ตนเป็นที่ปรึกษาส่วนทีมบริหารเป็นชุดใหม่มีน้องสาวเป็นผู้บริหารหลัก ทั้ง “คลังพลาซ่าอัษฎางค์” โครงสร้างอาคาร 3 ชั้น รวมพื้นที่ใช้สอยประมาณ 8,000 ตารางเมตร และ “คลังวิลล่า” เป็นทรัพย์สินสร้างบนที่ดินของตระกูลมานะศิลป์ไม่ได้สร้างบนที่ดินเช่า
 
เราพร้อมให้ผู้สนใจมาพูดคุย เพื่อเช่าประกอบกิจการ ส่วนโปรเจกต์ “คลังสเตชั่น” หนองไผ่ล้อมห้าแยกหัวรถไฟ ทำสัญญาเช่าที่ดินกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นระยะเวลา 30 ปี ยังเหลือเวลา 26 ปี ใช้งบลงทุนประมาณ 750 ล้านบาท ได้ก่อสร้างจากชั้นใต้ดินของอาคารหลักมีความคืบหน้ากว่า 40 % ขณะนี้ลงทุนไปแล้วกว่า 400 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ “คลังพลาซ่า” เป็นห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นโดยเจ้าของเป็นคนโคราช ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่รุ่นพ่อ นายไพศาล มานะศิลป์ ตั้งแต่ปี 2501 จากร้านขายอุปกรณ์การเรียนในชื่อ “คลังวิทยา” ข้างวัดพายัพ พระอารามหลวง ในปี 2519 ได้ขยายสาขาและย้ายมาอยู่ที่ ถนนอัษฏางค์ เป็น “คลังวิทยาดีพาร์ทเม้นท์สโตร์” ซึ่งมีบันไดเลื่อนเป็นแห่งแรกของภาคอีสาน จากนั้นได้ขยายสาขาเพิ่มบริเวณตรงข้ามโรงภาพยนตร์เฉลิมวัฒนารามา เยื้องลานย่าโม ถนนจอมสุรางค์ยาตร วันที่ 24 ธันวาคม 2534 เปิดให้บริการ “คลังพลาซ่าอัษฏางค์”
 
ในขณะนั้นเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภาคอีสาน โดยได้รับการตอบรับจากชาวโคราชและคนอีสานเป็นอย่างดี ใครมากราบไหว้ย่าโมต้องแวะมาเดิน “คลังพลาซ่า” ปี 2553 ได้ขยายสาขาเพิ่ม “คลังวิลล่าสุรนารายณ์” เยื้อง มทร.นครราชสีมา แม้ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของบรรดาทุนใหญ่จากส่วนกลาง
 
ทั้ง “เดอะมอลล์” “เทอร์มินอล 21” “เซ็นทรัลพลาซ่า” แต่ “คลังพลาซ่า” ทั้ง 3 สาขา ยังคงยืนหยัดต่อสู้ได้อย่างแข็งแกร่ง ปี 2557 “คลังพลาซ่าจอมสุรางค์” ได้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท รีโนเวตปรับปรุงทุกชั้นทุกแผนก แต่ด้วยปัญหานานัปการ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 “คลังพลาซ่าจอมสุรางค์” ห้างดังที่สุดในยุค 30 ปี ต้องปิดตัวและวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 “คลังพลาซ่าอัษฎางค์” ได้ยุบบางแผนก ล่าสุด “คลังวิลล่า” ได้ปิดตัวอีกเป็นแห่งที่ 3 ถือเป็นการปิดตำนาน 36 ปี ของห้างดังโคราช


 
ถามกันให้แซด! ‘บังเอิญหรือตั้งใจ? ไถผิวดินสนามบอลเละตุ้มเป๊ะ’ ก่อน6ตุลา.
https://www.dailynews.co.th/news/1545135/

ถามกันให้แซด! บังเอิญหรือตั้งใจ? ไถผิวดินสนามบอลเละตุ้มเป๊ะ ก่อนมีงาน 46 ปี 6 ตุลา ในธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ "เพนกวิน" ร่ายกลอน "หน้าไม่อายไม่ปรับปรับหน้าดิน พวกสับปลับไม่สิ้นไม่ยอมปรับ"
 
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ภาพสนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พร้อมแชร์หน้าเพจ “46 ปี 6 ตุลา” ในเฟซบุ๊ก ที่ปรากฏข้อความว่า 
 
“บังเอิญหรือตั้งใจ??” ไถผิวดินสนามบอลเละตุ้มเป๊ะ
 
ประวัติศาสตร์ประชาชนเหตุใดต้องถูกขัดขวางถูกสร้างอุปสรรคถึงเพียงนี้ เพียงเพราะเราต้องการเผยแพร่ประวัติศาสตร์ที่รัฐไทยพยายามลบ ทำให้คนไทยลืมความป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นกับคนในชาติ และการปล่อยให้คนที่สั่งฆ่าประชาชนได้พ้นผิดลอยนวลมานานกว่า 46 ปี
 
จากแถลงข่าวเมื่อวานชั่วข้ามคืน ผืนหญ้าในสนามบอลที่เขียวชอุ่มเต็มสนาม ก็กลายร่างเป็นสภาพนี้แล้ว เหล่านักศึกษาเราตั้งใจแค่จะให้สนามบอลซึ่งเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์นี้ เป็นพื้นที่ตั้งบอร์ดนิทรรศการประวัติศาสตร์เหมือนปีที่ผ่านมา ในปีนี้พื้นที่นี้ก็ไม่สามารถใช้ได้ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ แต่เราก็ยืนยันที่จะเดินหน้าจัดต่อไปอย่างสุดกำลัง
 
เชิญชวนประชาชนทุกคนมาร่วมเป็นสักขีพยานในประวัติศาสตร์ 6 ตุลา ไปด้วยกัน ประชาชนเข้าฟรี!! ไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วมาร่วมตามหา(อ)ยุติธรรมไปด้วยกัน ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ #46ปี6ตุลา
 
ส่วน เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ นักเคลื่อนไหวและนักกิจกรรมทางการเมืองคนสำคัญก็โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า 

หน้าไม่อายไม่ปรับปรับหน้าดิน พวกสับปลับไม่สิ้นไม่ยอมปรับ ไม่รู้ว่าอะไรแล้วล่ะครับ ควรแต่ขับ “โรจน์” ไปให้พ้น “รอง”



“วรวัจน์” ลุยถกแนวทางพัฒนา “ภูเก็ต” ชู 4 มาตรการส่งเสริมท่องเที่ยว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3600660

“วรวัจน์” ลุยถกแนวทางพัฒนา “ภูเก็ต” ชู 4 มาตรการส่งเสริมท่องเที่ยว พร้อมควงว่าที่ผู้สมัคร “พังงา” รับหนังสือชาวบ้านร้อง “เพื่อไทย” วางนโยบาย กู้ราคาสินค้าเกษตร-ท่องเที่ยว
 
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ได้ร่วมงานเทศกาลถือศีลกินผักที่ศาลเจ้า ท่าเรือ กระทู้ บางเหนียว และศาลเจ้ากวนอู ไม้ขาวที่จ.ภูเก็ต ซึ่งมีตัวแทนชาวภูเก็ตมาขอพบและยื่นหนังสือขอให้พรรค พท.สนับสนุนการจัดทำนโยบายการดูแลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้แก่จ.ภูเก็ต เพราะเชื่อว่า พรรค พท.เป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่ทำได้จริงและเป็นความหวังในการแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวภูเก็ตได้ อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตตอนนี้ ต้องการความช่วยเหลือในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอย่างมาก การพบกับตัวแทนชาวภูเก็ตจึงได้มีการพูดคุยแนะนำเสนอนโยบายระดับภาคและจ.ภูเก็ต คือ 

1. บริหารระบบจูงใจนักท่องเที่ยวเชิงรุกจากประเทศต้นทางเพื่อให้เพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
 
นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า 
 
2. พัฒนาระบบอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวเช่นเพิ่มไฟลท์บินให้นักท่องเที่ยวมาประเทศไทยเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น 
 
3. โครงสร้างพื้นฐานรองรับนักท่องเที่ยวเช่นระบบคมนาคมขนส่งสำหรับนักท่องเที่ยว wifi ความเร็วสูงสำหรับนักท่องเที่ยว การพัฒนาอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว 

และ 4. ฮาลาลทัวริสซึ่ม คือพัฒนาชุมชนมุสลิมให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิมที่มีรายได้สูงจากทั่วโลก และให้เป็นแหล่งผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์ส่งออกฮาลาลสู่โลกมุสลิม เป็นต้น ทั้งนี้ การเดินทางมาจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับในฐานะตัวแทนพรรค พท. อย่างอบอุ่น จากชาวภูเก็ตเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ชาวภูเก็ต มีความตั้งใจที่เลือกพรรค พท.กันเป็นส่วนมากเพราะเชื่อว่า พรรค พท.คือความหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้จริง
 
นายวรวัจน์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ตนได้ลงพื้นที่จ.พังงา พร้อมนายกฤษ ศรีฟ้า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พังงา เขต 2 พรรค พท. ก็มีกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่จ.พังงา นำโดยนายวิโรจน์ โสมจันทร์ ยื่นหนังสือต่อตน เพื่อร้องเรียนถึงความเดือดร้อนที่ประชาชนในท้องถิ่นจ.พังงาได้รับ ได้แก่ 

1. ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ยังตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นราคายางพาราที่ได้รับการดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐไม่ถูกทางเลยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนในการทำการเกษตรสูงขึ้น และราคาปาล์มน้ำมันที่กำลังดิ่งลง สวนทางกับราคาปุ๋ย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ที่ได้รับเมื่อตอนพรรค พท.บริหารประเทศ พบว่าเกษตรกรมีรายได้ที่ควรจะได้รับขาดหายไปเป็นจำนวนมาก
 
และ 2. ปัญหาการพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งความจริงแล้วจังหวัดพังงามีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่มีค่า และน่าสนใจ แต่กลับไม่ได้รับการผลักดัน และสนับสนุนจากภาครัฐเท่าที่ควร โดยทางกลุ่มฯ ขอให้พรรค พท.ช่วยหาวิธีการ และวางนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับชาวพังงาด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่