CEO Toyota บอกเอง รถยนต์ EV ยังไม่ใช่กระแสหลัก ในเร็ว ๆ นี้ อย่างที่สื่อประโคม.. - MarketThink
Toyota ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับโลก มักถูกโดนตั้งคำถามอยู่บ่อยครั้งว่า ยังลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่เพียงพอ จนหลายคนมองว่า Toyota อาจตกขบวน และไม่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ที่รุกลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ในมุมมองของคนทั่วไปอาจมองว่า Toyota ไม่ค่อยมีการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในความจริงแล้ว Toyota ไม่ได้นิ่งเฉยต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เสียทีเดียว
เพราะในช่วงเวลา 5 ปีนับจากนี้ Toyota วางแผนที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.7 ล้านล้านบาท
แม้ตัวเลขการลงทุนนี้จะดูสูง แต่ในความจริงแล้ว Toyota ยังไม่ได้ทุ่มการลงทุนไปที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เพียงอย่างเดียว เพราะการลงทุนก้อนนี้จะใช้ไปกับการพัฒนารถยนต์ Hybrid ด้วย
แตกต่างจากคู่แข่งของ Toyota อย่าง General Motor และ Volkswagen ที่เลือกหันไปลงทุนกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% เพียงอย่างเดียว
โดย Akio Toyoda CEO ของ Toyota ให้เหตุผลที่ Toyota ไม่ยอมทุ่มสุดตัวไปกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 100% เพียงอย่างเดียวเหมือนอย่างคู่แข่งรายอื่นในอุตสาหกรรม
ว่าเป็นเพราะ “Toyota ต้องการเป็นผู้ชนะ แม้จะต้องทำในสิ่งที่หลาย ๆ คนตั้งคำถามก็ตาม”
“Toyota เป็นเหมือนร้านค้าขนาดใหญ่ เป้าหมายของเราคือการชนะใจลูกค้าทุกกลุ่มให้ได้ ด้วยผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่หลากหลายที่สุด”
ซึ่งแน่นอนว่า Toyota มีรถยนต์ที่เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกความต้องการได้จริง ตั้งแต่รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน รถยนต์ Hybrid หรือแม้แต่รถยนต์พลังไฮโดรเจนอย่าง Toyota Mirai
นอกจากนี้ Akio Toyoda ยังเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า จะไม่ได้เกิดขึ้นเร็วอย่างที่คู่แข่งรายอื่นคิด
โดยมีปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่พร้อม เช่นเดียวกับโครงสร้างราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังมีราคาแพงกว่า
แม้หลาย ๆ ประเทศจะมีนโยบายแบนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป 100% ภายในเวลาไม่ถึง 20 ปีข้างหน้า แต่ Akio Toyoda เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
ในขณะที่สื่อทั่วโลกต่างมองว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% จะได้รับความนิยมจนกลายเป็นของ Mainstream นั้น Akio Toyoda ให้ความเห็นว่า “รถยนต์ไฟฟ้ากว่าจะกลายเป็นของ Mainstream ต้องใช้เวลานานกว่าที่สื่ออยากให้คนทั่วไปเชื่อ และกว่าจะถึงวันนั้น Toyota ก็ต้องมีตัวเลือกหลากหลายให้ผู้บริโภค”
ส่วนในด้านการผลิต ก็มีผลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota เช่นเดียวกัน เพราะในอนาคต Akio Toyoda คาดการณ์ว่า จะเกิดเหตุการณ์ขาดแคลนแร่ลิเทียมและนิกเกิล ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน
- Toyota มองว่า รถยนต์ไฟฟ้า 100% อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อสิ่งแวดล้อม
แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับการพูดถึงในฐานะทางเลือกใหม่ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีการปล่อยมลพิษแบบรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป แต่ Toyota ก็ได้ยกเหตุผลว่ารถยนต์ Hybrid ของตัวเองก็ช่วยโลกได้ไม่แพ้กัน
จากสถิติของ Toyota ระบุว่า นับตั้งแต่ Toyota Prius เปิดตัวเมื่อปี 1997
Toyota สามารถขายรถยนต์ Hybrid ไปแล้วกว่า 20 ล้านคันทั่วโลก และช่วยลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ไปมากกว่า 160 ล้านตัน เทียบเท่ากับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า 5.5 ล้านคัน
แถมในด้านกระบวนการผลิต Toyota ยกว่า ตัวเองสามารถผลิตรถยนต์ Hybrid ได้มากถึง 8 คัน ในขณะที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้เพียงคันเดียว
ทั้งนี้ แม้ Toyota จะมีเหตุผลให้กับการตัดสินใจไม่ทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดของบริษัทไปกับการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามากเท่ากับคู่แข่ง ทั้งในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่รถยนต์ Hybrid ของตนเองก็รักโลกได้ไม่ต่างกัน
รวมถึงต้องวางกลยุทธ์ให้ Toyota มีรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก
แต่อย่าลืมว่าที่ผ่านมา Toyota ถูกโจมตีอยู่เสมอจากจากองค์กรที่ทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม ทั้ง Sierra Club และ Greenpeace ที่จัดอันดับให้ Toyata อยู่รั้งท้าย.. ในฐานะผู้เล่นในอุตสาหกรรมรถยนต์ในด้านการลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
#Toyota
#รถยนต์ไฟฟ้า
#อุตสาหกรรมรถยนต์
#EV
—-------------------------
อ้างอิง :
-
https://www.cnbc.com/2022/10/02/toyota-ceo-akio-toyoda-electric-vehicles-happy-dance.html
CEO TOYOTA บอกเอง รถยนต์ EV ยังไม่ใช่กระแสหลัก ในเร็ว ๆ นี้ อย่างที่สื่อประโคม..
Toyota ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับโลก มักถูกโดนตั้งคำถามอยู่บ่อยครั้งว่า ยังลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่เพียงพอ จนหลายคนมองว่า Toyota อาจตกขบวน และไม่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ที่รุกลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ในมุมมองของคนทั่วไปอาจมองว่า Toyota ไม่ค่อยมีการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในความจริงแล้ว Toyota ไม่ได้นิ่งเฉยต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เสียทีเดียว
เพราะในช่วงเวลา 5 ปีนับจากนี้ Toyota วางแผนที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.7 ล้านล้านบาท
แม้ตัวเลขการลงทุนนี้จะดูสูง แต่ในความจริงแล้ว Toyota ยังไม่ได้ทุ่มการลงทุนไปที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เพียงอย่างเดียว เพราะการลงทุนก้อนนี้จะใช้ไปกับการพัฒนารถยนต์ Hybrid ด้วย
แตกต่างจากคู่แข่งของ Toyota อย่าง General Motor และ Volkswagen ที่เลือกหันไปลงทุนกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% เพียงอย่างเดียว
โดย Akio Toyoda CEO ของ Toyota ให้เหตุผลที่ Toyota ไม่ยอมทุ่มสุดตัวไปกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 100% เพียงอย่างเดียวเหมือนอย่างคู่แข่งรายอื่นในอุตสาหกรรม
ว่าเป็นเพราะ “Toyota ต้องการเป็นผู้ชนะ แม้จะต้องทำในสิ่งที่หลาย ๆ คนตั้งคำถามก็ตาม”
“Toyota เป็นเหมือนร้านค้าขนาดใหญ่ เป้าหมายของเราคือการชนะใจลูกค้าทุกกลุ่มให้ได้ ด้วยผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่หลากหลายที่สุด”
ซึ่งแน่นอนว่า Toyota มีรถยนต์ที่เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกความต้องการได้จริง ตั้งแต่รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน รถยนต์ Hybrid หรือแม้แต่รถยนต์พลังไฮโดรเจนอย่าง Toyota Mirai
นอกจากนี้ Akio Toyoda ยังเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า จะไม่ได้เกิดขึ้นเร็วอย่างที่คู่แข่งรายอื่นคิด
โดยมีปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่พร้อม เช่นเดียวกับโครงสร้างราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังมีราคาแพงกว่า
แม้หลาย ๆ ประเทศจะมีนโยบายแบนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป 100% ภายในเวลาไม่ถึง 20 ปีข้างหน้า แต่ Akio Toyoda เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
ในขณะที่สื่อทั่วโลกต่างมองว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% จะได้รับความนิยมจนกลายเป็นของ Mainstream นั้น Akio Toyoda ให้ความเห็นว่า “รถยนต์ไฟฟ้ากว่าจะกลายเป็นของ Mainstream ต้องใช้เวลานานกว่าที่สื่ออยากให้คนทั่วไปเชื่อ และกว่าจะถึงวันนั้น Toyota ก็ต้องมีตัวเลือกหลากหลายให้ผู้บริโภค”
ส่วนในด้านการผลิต ก็มีผลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota เช่นเดียวกัน เพราะในอนาคต Akio Toyoda คาดการณ์ว่า จะเกิดเหตุการณ์ขาดแคลนแร่ลิเทียมและนิกเกิล ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน
- Toyota มองว่า รถยนต์ไฟฟ้า 100% อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อสิ่งแวดล้อม
แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับการพูดถึงในฐานะทางเลือกใหม่ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีการปล่อยมลพิษแบบรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป แต่ Toyota ก็ได้ยกเหตุผลว่ารถยนต์ Hybrid ของตัวเองก็ช่วยโลกได้ไม่แพ้กัน
จากสถิติของ Toyota ระบุว่า นับตั้งแต่ Toyota Prius เปิดตัวเมื่อปี 1997
Toyota สามารถขายรถยนต์ Hybrid ไปแล้วกว่า 20 ล้านคันทั่วโลก และช่วยลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ไปมากกว่า 160 ล้านตัน เทียบเท่ากับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า 5.5 ล้านคัน
แถมในด้านกระบวนการผลิต Toyota ยกว่า ตัวเองสามารถผลิตรถยนต์ Hybrid ได้มากถึง 8 คัน ในขณะที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้เพียงคันเดียว
ทั้งนี้ แม้ Toyota จะมีเหตุผลให้กับการตัดสินใจไม่ทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดของบริษัทไปกับการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามากเท่ากับคู่แข่ง ทั้งในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่รถยนต์ Hybrid ของตนเองก็รักโลกได้ไม่ต่างกัน
รวมถึงต้องวางกลยุทธ์ให้ Toyota มีรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก
แต่อย่าลืมว่าที่ผ่านมา Toyota ถูกโจมตีอยู่เสมอจากจากองค์กรที่ทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม ทั้ง Sierra Club และ Greenpeace ที่จัดอันดับให้ Toyata อยู่รั้งท้าย.. ในฐานะผู้เล่นในอุตสาหกรรมรถยนต์ในด้านการลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
#Toyota
#รถยนต์ไฟฟ้า
#อุตสาหกรรมรถยนต์
#EV
—-------------------------
อ้างอิง :
-https://www.cnbc.com/2022/10/02/toyota-ceo-akio-toyoda-electric-vehicles-happy-dance.html