หลุด! เอกสารกรมบัญชีกลาง ไม่อนุมัติจ้าง “พงศ์พร” เป็นที่ปรึกษาสำนักพุทธฯต่ออีก 1 ปี

กรมบัญชีกลาง มีหนังสือแจ้ง ผอ.สำนักพุทธฯ ไม่เห็นชอบตามที่เสนอขออนุมัติค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักฯ ด้านกฎหมาย ต่ออีก 1 ปี หลังเห็นว่า ทำหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวมา 3 ปี เป็นเวลาที่พอสมควรแล้ว

กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือลงวันที่ 15 ก.ย. 2565 เรื่อง ขออนุมัติค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว ลงนามโดยนางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมบัญชีกลาง ส่งถึง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง ขออนุมัติค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เพื่อปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้านกฎหมาย ในอัตราเดือนละ 50,000 บาท โดยเบิกจ่ายจากงบดำเนินงาน รายการค่าตอบแทน ค่าใช้สอยและวัสดุ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2566 นั้น

กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียน ดังนี้ 1.หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0420/ว 169 ลงวันที่ 2 เม.ย.2561 กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติในการจ่ายค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ว่า หากส่วนราชการใดมีความจำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เพื่อปฏิบัติงานเป็น ที่ปรึกษาในภารกิจใดๆ ให้ทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง โดยมีระยะเวลาการปฏิบัติงานคราวละไม่เกิน 1 ปีงบประมาณ และให้มีการถ่ายทอดงานหรือฝึกฝนให้บุคลากรภายในหน่วยงานสามารถปฏิบัติงานแทนต่อไปได้

2. กรณีที่ขออนุมัติค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมายนั้น เห็นว่า ในการดำเนินงานตามภารกิจด้านกฎหมาย นิติกรรม และสัญญา การดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับคดี ซึ่งเป็นภารกิจปกติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นภารกิจที่สำคัญ และกรมบัญชีกลางเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีผู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อช่วยดำเนินงานตามภารกิจ รวมทั้งถ่ายทอดองค์ความรู้ในเรื่องดังกล่าวให้กับบุคลากรในช่วงการเปลี่ยนผ่านให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของหนังสือกรมบัญชีกลางในข้อ 1 กรณีดังกล่าว เมื่อปรากฏว่าที่ปรึกษาได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ มีการจัดอบรมหลักสูตรด้านกฎหมาย เป็นเวลาต่อเนื่อง 3 ปี ซึ่งเป็นเวลาพอสมควรต่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับงานด้านกฎหมาย การดำเนินการทางคดี และการดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการ ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน ส่วนใหญ่อยู่ในชั้นพิจารณาคดีตามเขตอำนาจของศาล รวมทั้งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้น เพื่อให้การถือปฏิบัติเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการจ่ายค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ จึงไม่เห็นชอบตามที่เสนอ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ที่มา : เว็บไซต์ น.ส.พ.เดลินิวส์

สมควรที่จะไม่ต่อแล้วล่ะครับ เพราะต่อให้ตั้ง 3 ปี ยังถ่ายทอดงานด้านกฎหมายไม่เสร็จอีกเหรอ...เกินไปไหมล่ะครับ

เรื่องนี้ถ้าจำได้ คุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มือปราบคอร์รัปชั่นคนหนึ่งของประเทศไทย เป็นคนทำหนังสือคัดค้านการว่าจ้างคนๆนี้ไปยังกรมบัญชีกลางเอง เนื่องจากมีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่หลายประการ และผู้ช่วยศาสตราจารย์สัจจวัตน์ เรืองกาญจน์กุล ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็ได้เคยทำหนังสือถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกด้วยเช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่