เทียบเรื่อง นาฬิกา กับ เรื่องโรงพัก ดีกว่า
.
ในสลิ่มแลนด์แดนคนดีย์
เรื่องคดีความเกี่ยวกับทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เอาไปเทียบกับเรื่องอะไรไม่ได้หรอกครับ
เพราะเป็นเรื่องที่ "เขาจะเล่น" แบบว่า ยังไงก็ผิดติดคุก ไม่ต้องขบคิดมากเรื่อง
ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ต้องเทียบกับอองซานซูจีตอนนี้แหละครับ เห็นภาพชัด
.
เรื่องนาฬิกา มีช่อง "ลอด" ก็ลอดช่องนั้นแหละ
ยุติการหาหลักฐาน จบ รูปแบบเดียวกับเรื่องระบายข้าวของรัฐบาลอภิสิทธิ์ หาหลักฐานยาก ยุติซะเลย จบ
ส่วนเรื่องโรงพักเสาโด่เด่ หาช่อง "ลอด" ยาก เพราะหลักฐานเสาโด่เด่มันเต็มประเทศ
จะหาเรื่องยุติมันก็ยาก จะจบดุ่ย ๆ แบบนั้นไม่ได้ ก็เลยต้องฟ้อง
ก็โยนไปที่อัยการ ถ้าอัยการฟ้องให้ก็ลอยตัว แต่อัยการเห็นสำนวนแล้วส่ายหน้า
ก็หันมาฟ้องเอง
ภาษากฎหมายเขาเรียกว่า เทคนิดพื้น ๆ ฟ้องให้หลุด คดีจบสนิท ฟ้องซ้ำไม่ได้
เทคนิคแบบนี้ นอกจากจบคดีสนิทแล้ว ยังเป็นการ "ฟอกขาว" ให้อย่างดี บริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย
เรื่องนาฬิกา ยังคาใจ เพราะคดีไม่ถึงที่สุด
แต่เรื่องโรงพักนี่ ถึงที่สุด ปราศจากมลทินเรียบร้อย
เสาโด่เด่เต็มประเทศ จ้างผู้รับเหมารายเดียว เรื่องแบบนี้ มันผิดปกติ มันแสดงความไม่สุจริต
แต่เมื่อองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบดำเนินการเอาผิดไม่ได้ ก็ปลงเถอะ
.
อย่างสุเทพว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคนดีย์
แล้วใครจะไม่รู้ล่ะ ว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ที่สุเทพอ้างถึงคืออะไร
ใครไม่รู้ นึกไม่ออก ก็ให้นึกย้อนไปปี 56-57 ที่ม็อบ กปปส. กร่างคับประเทศนั่นแหละ
ม็อบที่รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ ศาลรับรองว่าเป็นม็อบที่สงบเรียบร้อยตามหลักประชาธิปไตย
แถมมีเงื่อนไขสั่งห้ามรัฐบาล แทนที่จะสั่งห้ามม็อบ
นั่นแหละ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มหัวอยู่
.
เรื่องโรงพัก รอดฉลุย ดังนั้น เรื่องอื่นมีหรือจะโดน
ขนาดเสาโด่เด่เต็มประเทศยังหลุด แล้วคดีอื่น แม้ชั้นต้นจะโดนจำคุก แต่เชื่อว่าหลุดในชั้นอุทธรณ์แน่
สิ่งศักดิ์สิทธิ์กดปุ่มทีเดียว
หลุดครับ
อย่าไปเทียบเรื่องจำนำข้าว กับ เรื่องโรงพักเสาโด่เด่เลยครับ