จากกระทู้ที่บอกไป ต้องการสื่อว่า ความเหงาเป็นสิ่งที่ทรมาน ยิ่งปีเเรกๆที่เป็นโรคนี้ด้วย ตอนอารมณ์ดิ่งก็ไม่มีใครมาช่วย ดึงขึ้นไม่ได้ พยายามดึงเองก็เเค่นั้น ถ้าเป็นตอนกลางคืน ก็เลยประชดด้วยการไปนอนซะ(ถึงจะไม่ค่อยหลับ) บางช่วงน้าทำธุระ สถิติสูงสุดที่จมกับอารมณ์คือนอนได้ 2-3 วัน ข้าวกินให้รู้ว่ายังไม่ตาย ที่ลุกหลัง 2-3 วันคือฝืนไปซื้ออาหาร(หลายคนงงว่ามันเป็นไปได้หรอ คำตอบคือได้ครับนี่ไงตัวอย่าง) ร้อนเย็น มืดเช้าไรก็ไม่มีผล บ้านที่อยู่ก็เเฟลต บรรยากาศเหมาพเเก่ความเศร้า เเคบๆ เรื่องเพื่อน บอกเลยทักษะการเข้าสังคม 1/10 ตอนนี้อาจพัฒนาเป็น 3/10 ตั้งเเต่ตอนเด็กเเล้ว พูดไป เพื่อนวัยเด็กไม่อยากคุย บ้างก็เเกล้ง เลยทำให้ดูเป็นคนเงียบซึ่งจริงๆไม่อยากเงียบ ประถมต้น คุยได้บ้าง(ลองดูเเต่สังเกตได้ว่า ถ้าเกิดเราไม่พยายามคุย จะไม่มีใครคุยเลย เวลาอยู่กลุ่มกัน ก็เหมือมยืนให้อยู่ในวง ชะเง้อไป ถึงคนไม่สน) มีคนเเกล้ง ฟ้องครูหาว่าขี้ฟ้อง โดนครูให้ใส่ผ้ากันเปื้อน(ซึ่งผมไม่ชอบเลยอยากถอด)เพราะน้ำลายหยด กินเลอะ อ้วกบ่อย ชอบกินของในห้อง เพื่อนก็ชอบล้อ เรื่องเรียนก็พอถูๆไถๆได้ บางวิชาก็ไม่เก่ง ประถมปลายก็เหมือนเดิม เเกล้งทำตัวให้ตลก พยายามคิดเพื่อนที่เข้ามาล้อ คือเเค่เล่นสนุกๆ เเต่ไม่ใช่อย่างนั้น เพื่อนก็ล้อ ผมก็พยายามอยู่คนเดียว คนที่พอคุยได้ดันอยู่ห้องอื่น พักกลางวันต้องพยายามหาห้องอื่น เขายังพอรับได้ เเต่เขามีกลุ่มเพื่อนเเล้วเลยบอกประมาณ ไอ้นี่ใครวะ
มาทุกวันเลย เลยท้อ ผมเลยคิดในสมองเด็กๆว่าต้องเเบ่งวันที่อยู่คนเดียว วันที่ไปกับเพื่อนห้องอื่น วันที่ไปกับเพื่อนห้องเราให้ยอมโดนเเกล้ง วนไปเรื่อยๆ พยายามเเกล้งตลกเเล้วเพื่อนคนนึงซึ่งคนนั้นปกติเพื่อนเยอะ มาพูดกับผมว่า นายนี่ไม่มีความตลกเลย เฉยชา ดูไม่ค่อยอินกับสิ่งต่างๆ(ผมก็งงว่าต้องทำไง) ผมไม่ว่าเพื่อนก่อน พูดก็ดี เคยคิดเเบบโง่ๆว่าถ้าลองกวนตีนบ้างปรากฎโดนตบหัวปั๊วะเจ็บมาก(ที่ผมยังไม่ตบเเรงเลย) เวลามีตีเล่นให้เจ็บๆ ผมต้องเจ็บกว่าคนอื่นเสมอ เรื่องเรียน วิชาเลขไรไม่ถนัดอยู่เเล้วเเต่ก็ตั้งใจ ที่ได้มากสุดคือสังคม ผมเลยถ้าลองอ่านเรื่อยๆ เเต่ไม่ได้เรียนพิเศษกับที่อื่นหรือกับครูไม่เหมือนคนอื่น ผมได้ 17/20 ตอนครูยื่นก็ท่าทียิ้มบ้าง เเต่เพื่อน top ได้ 18/20 ครูชม บอกเพื่อนทั้งห้อง ทั้งห้องก็บอก ไอ้นี่เก่งสังคมนะ ผมเลยไม่ได้รับไรเลยกลับบ้านผู้ปกครองชมบ้าง ให้ดีใจขึ้น ก็พยายามคิด เย้ผู้ปกครองชม เรื่องเพื่อนไม่มี สมัยก่อนชอบปิดเทอมนะ เหมือนกะบว่าเราสามารถหนีความรู้สึกนั้นได้ ผมเลยชอบนอน เล่น (อาจจะขึ้เกียจ) เหมือนเเบบอืมก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย ต่อมาเพื่อนที่ชอบคุยกันในเเถว ครูจะบ่น ผมก็เเกล้งขยับหรือหาคุยกับเพื่อนบ้างนานๆทีให้ไม่เหงาเกิน เเล้วเพื่อนก็หาว่าเราคุยให้ครูฟัง ครูก็ตีผม เรื่องเพื่อนเเกล้งเคยฟ้องครู เเต่ฟ้องครูใจดี ครูเลยบ่นนิดหน่อย เพื่อนก็ไม่มีท่าทีสำนึกเเถมบ่นเราที่ฟ้อง ฟ้องครูดุหน่อย ก็ไม่ค่อยเชื่อ เเล้วเราก็โดนบ่นก่อน เคยมีสำเร็จเพื่อนโดนตี กลับมากลุ่มเพื่อนมันก็บ่นผมว่า ทำให้เพื่อนกูโดนตี ป.6 คิดว่าการเเกล้งจะเบา เเต่ไม่เลย มีเบาบ้าง ถ้าเราร้องไห้ ปีก่อนถ้าร้องไห้เพื่อนจะพอหยุด เเต่ ป.6 ร้องไห้ก็ทำต่อ มีบางช่วงหนัก เตะ บีบ จำได้มีช่วงึงไม่รู้เป็นไรโคตรโชคดี ไม่โดนใครเเกล้ง เป็นเเค่พักนึง เหมือนเขาอาจจะไปสนใจสิ่งอื่นอยู่ ที่โดนเเกล้งหนักสุด ในค่าย โดนมัดตอนนอน พอครูไม่อยู่ ครูมา ก็เเกะเชือก ให้ผมนอนชุดลูกเสือ นักเรียน(มีคนจะเเต่งตัวให้) ผมก็ดิ้น พยายามไม่ให้เพื่อนรุมเเต่ก็ไม่เป็นผล เเต่ไม่ได้รู้สึกไรเพราะจะนอนเเล้ว โดนมัดมือ เท้า ปาก ตาที่เเย่สุดๆคือคนที่นอนข้างๆเพื่อนชอบล้อว่าเก ซึ่งคิดว่าอาจจะเกจริงมันลวนลามเเถมจะ....ด้วย(เเต่ดีเพื่อนที่เก พอคุยกับผมบ้างนานๆที ปกติเขาก็รังเเกบ้าง บางครั้งก็มองเเปลกๆเหมือนจะ... ตอนนั้นผมตัวขาว เล็กๆ) เเล้วดึงๆกางเกงให้เพื่อนส่องไฟฉายเพื่อนเห็น... พอตอนเช้าบริหารร่างกาย ครูฝึกก็ถามนี่จงรักภักดีนอนชุดเต็ม เพื่อนก็ขำ ผมดูเด่น อย่างอาย ที่โดนมัดอีกทีก็ใน รร ที่ห้องเเล้วเรียกคนอื่นมาดุ รุ่นน้อง ให้ผมตลก ผมก็เเกล้งยิ้ม 555 โดนเเบบนี้ถึง 4 รอบ ครั้ง 2 มันมีของเล่น กุญเเจมือจากไหนไม่รู้ เเต่คนเเกล้งหลักจำได้ชื่อ วชิรวิทย์ เรียนเก่ง เเผนสูง หลบครูคลอด ใครถามผมทำไมไม่สู้ ผมสู้ตลอดเเต่ไม่ไหว ผมก็จะเอาคืน เเต่พลาดตลอดมีทั้งครู เพื่อนไร สรุปที่โดน ถ้าเตะไร ตบหัว วาจาไรเอาได้ เเต่ไม่เอาโดนมัดประจาน เคยมีกลุ่มไรเเล้วเพื่อนไม่ชอบ ผมเลยเเกล้งป่วย โดดเรียนคาบนั้นเพื่อหนีปัญหา บางครั้งก็ขอเข้าห้องน้ำนานเพราะเบื่อ อย่างน้อยในเเง่ดีสุดๆ ัวนใกล้สุดท้ายผมอยู่เหงาคนเดียว ไม่มีใครกวน วันที่จัดงานลาก็ไม่มีใครเเกล้งเฉยไ ผมคนเดียว มีมาขอโทษ 1 คน พูดดีๆ 2 คน เเต่ผมก็ตั้งใจเรียนจนเริ่มเก่งบ้างได้ top สังคม รับรางวัลช่วงปิดเทอม ตอนอยู่บ้านคนเดียวก้นั่งคืดว่า เฮ้ย เพื่อนจพดีขึ้นไหม มาวันนั้น ก็มีเเค่พวกเก่งๆ มีโดนล้อไรนิดหน่อย ไม่มีการถามสบายดีไหม อยู่คนเดียว รอกลับบ้าน ถามว่าเจอเพื่อนไม่เเกล้งไหม มีอยู๋ เเต่เขาก็ไม่ได้สนผม บางคนดีๆมาดูผม เพื่อนก็เเซว ผมลึกๆก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยากมาดูผมหรอก ขึ้น ม.1 ย้าย รร ตอนเเรกคิดว่าดีก็เลยปลดปล่อยความบ้าเต็มที่ เเต่เกินไปจนเพื่อนก็เริ่มงงผม ที่โชคร้ายมีเพื่อน รร เก่า มา 3 คน เเล้วเล่าเรื่องให้เเต่ไม่หมด เพื่อนดันเชื่อก็เริ่มล้อผม ผมก็คิดว่าต้องสู้ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าเเรงเยอะขึ้นบ้าง(เมื่อก่อนเเรงน้อย ไม่เก่งกีฬาเลยโดนบ่น เเกล้ง) ผมก็สู้เเต่ไม่ไหว มีบ้าใช้เก้าอี้ตี ครูมาเห็นก็เป็นเรื่อง ผมปาโดนเพื่อนคนอื่นก็เป็นเรื่อง ผมโคตร fail ตอนนั้นจนความบ้ากลายเป็นความหดหู่เเล้วก็เริ่มต้นของซึมเศร้า เรื่องครอบครัวถามว่ามีปัญหาไหม มีระดับเล็กน้อย ทะเลาะเบาหนักนานๆที คนในครอบครัวที่ไม่ได้เจอทุกวันก็อารมณ์ร้อนไม่ดีต้องลุ้นโดนบ่นเมื่อไร ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไร อยู่เฉยๆ เมื่อก่อนเชื่อฟังน้า เเต่ ป.6-ม.ต้น เริ่มเก็บกดไม่ฟัง ระดับซึมเศร้าตอนนั้น รู้สึกว่าโลกไม่เหมือนเดิม ความคิดความจำยากขึ้นเยอะ เเรงน้อย ระดับซึมเศร้าไม่เคยลด กลับบ้านก็เศร้า การ์ตูนที่ชอบดู ละครไรก็เริ่มไม่สนุก ผลการเรียนต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดเเต่ก็กังวลว่าจะต่ำเกิน การทำร้านตัวเองก็เริ่มขึ้นเมื่อหนักขึ้น ทีละน้อย ร็สึกหลอนกับตัวเอง ปิดบังรอยเเผลลึกไม่ให้ใครเห็น อาบน้ำก็จะเเสบทรมานกับสิ่งที่เราทำ เพื่อนเห็นเรานิ่งๆไม่บ้า ก็ล้อ เเต่สักพักก็เบื่อหยุด มีมาเรื่อยๆ(คือผมรู้ว่าถ้าผมทนไม่ไหว พวกนั้นตายเเน่) คนอื่นไม่สน งานกลุ่มไม่มีกลุ่ม คะเเนนไม่ต้องเอา การติด 0 ครั้งเเรกคือ ม.2 เทอม 2 2 วิชาคือเลขพื้นกับภาษาไทย ร็สึกดิ่งมาก คือไม่มีสมาธิในการเรียน ไม่เข้าใจติด 0 งานลืมวันส่ง(อันนี้ผิดเอง) ตอนไปเเก้ ครุก็บ่นทั้ง 2 วิชา บลาๆๆ เลยเเย่กว่าเดิม ตอนเเก้ก็ฝืนถึงจะไร้ชีวิตชีวาในการทำไร ถามว่าอายุเท่าไรไปหาหมอ น่าจะ 14 น้าเห็นเราอาการหนักมากเลยไป บ่นจะตายได้เรื่อยๆมีจะโดดสะพานมาเเล้ว หมอเอายาให้กิน เเล้วยาก็เพิ่มขึ้น ตอนสูวสุดประมาณ 9-10 เม็ดมั้งเเล้วค้างสักพักเเล้วเริ่มลดตอนนี้เหลือ 2.5 เม็ด ช่วงหนักๆ ความรู้สึกตายทั้งเป็น เกลียดตัวเอง เพื่อนเข้าใจเป็น 0 อยู่ รร ถ้าอาการมาเเล้วไม่อยากทำเรื่องไม่ดีให้เพื่อนเห็นก็นอน ไป ห้องน้ำ บอกไม่ค่อยสบายไอ เคยมีครูเรียกให้พูดหน้าห้อง เกือบจะหบุดดีนะ ยาช่วยไว้ เเต่ท่าทางเกรงมาก พูดไม่ค่อยดี ส่วนอาการหนักที่บ้าน ก็ไปเเอดมิทที่โรงพยาบาล หมอก็คุมคอยพูด ผมก็ไม่ค่อยหยุด เเล้วหมอเหมือนเอาเสื้อล็อกเเขน ผูกเท้าไรสักอย่างมาใช้ ผมก็นึกถึงเหตุการณ์เก่าเลยรีบวิ่งเเต่ไม่ทัน ก็โดนเเล้วรู้สึกเหมือนโดนมอดไหม้ ก่อนมา รพ ก็กลับบ้านเเล้วไม่ไหว ยังใส่เสื้อนักเรียนอยู่เลย ความคิดลบมาเองทุกอย่างโดนล็อกตัวนานมาก เเกล้งบอกปวดฉี่ หมอเกือบเชื่อเเต่จับพฤติกรรมเราทัน เลยไม่ไว้ใจอีก ส่วนที่ รร เคยหลุดเเล้วเพื่อนหาว่าเราบ้า สัมผัสเลยว่าสเพื่อนมองเราเปลี่ยน เพื่อนบอกสงสัยโตไปเป็นโจรโรคจิตเเน่ ส่วนที่ดีขึ้นเริ่มลดยาคือ ผมก็เรียนรู้จากประสบการณ์ผม อดทนมากขัน กับญาติช่วยสอนบ้าง คนที่ใจร้อนก็ใจเย็นลง หมอช่วยพูดให้เราสบายใจ ครุก็ช่วยเหลือบ้าง เพื่อนมีดีเเค่น้อยมากเขาดีเเต่รู้ว่าไม่ได้อยากคุยกับเราไรมาก พอดีขึ้นก็รู้ว่า ไม่มีเพื่อนมันเเย่เเต่ไม่ได้เเย่มาก เหลือเเเค่ความเหงาที่ต้องจัดการ อยู่กับคนในบ้าน เชื่อฟังมากขึ้น ทำให้เรียงง่ายขึ้น ออกกำลังกายเยอะขึ้น มีสติขึ้น การไม่มีเพื่อนก็มีข้อดีมากกว่าที่คุณคิดนะ(ที่โพสต์ที่เเล้วไม่ได้เล่าชีวิตช่วงต้น ช่วงกลาง) เเละวันนึงบังเอิญเจอ วชิรวิทย์ มันไม่รู้เห็นผมไหมเเต่ผมเลือเดินไปอีกทาง ให้ไม่เจอกัน ส่วนสุด้ทาย ความลำบกาไม่ว่าด้านไรก็สอนเราหลายๆอย่างในที่สุด การเข้าวัดธรรมะต้องทำอย่างถูกวิธีทำตอนอารมณ์ไม่ดิ่งมาก สวดมนต์บ้าง ฟังข้อคิดเเต่ไม่เชื่อหมด ถ้าไปจริงๆ ผิดวิธีจะทำให้เเย่กว่าเดิม ส่วนเรื่องที่บอกว่าต้องอดทน ต้องฝืนไหม ต้องดูด้วยว่า คุณขี้เกียจผิดปกติ หรือขยันผิดปกติ ถ้าเเบบเเรกควรอดทน อารมณ์ ฝืน ไปทำสิ่งอื่น เเบบ 2 ควรพักนะไม่งั้นบ้าเเน่ อันนี้ฝากถึง กระทรวงศึกษาธิการให้หันมาดูเด็กเเบบผม รักษาด้วย ไม่ใช่สนับสนุนเเต่คนเก่ง สังคมที่เจอตอนประถม เพื่อนที่ว่เเย่มาก ผมงงว่าตอนเด็กๆทำไมทำกันเเรงขนาดนี้{ผมอาจคิดในใจลึกๆพวกนั้นก็มีปัญหาเหมือนกัน] คนที่มีปัญหา เจอเเบบผม คนอื่นเคยคิดไหมว่าคนเเบบนี้ลำบากกว่าใคร ถ้าโตมากับอะไรๆดีกว่านี้คงจะมีความก้าวหน้าทางชีวิตมากกว่านี้ ทุกวันนี้อาการยังไม่หาย เเต่ดีขึ้น
ซึมเศร้าเเต่ ไม่มีเพื่อนอยู่เเล้ว 2