รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เพียงมุ่งมั่นที่จะผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศไทย แต่ยังมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพอากาศ พัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ. 2593 อีกด้วย

นายกรัฐมนตรีมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive Industry) เป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนผ่านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีนโยบายที่จะสนับสนุนการผลิต, การวิจัยและการพัฒนา และส่งเสริมการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และเพื่อการส่งออก

ภายใต้การผลักดันของรัฐบาล ในปัจจุบันประเทศไทยมียานยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกแล้วทั้งสิ้น 284,163 คัน

โดยแบ่งเป็น

- รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle; HEV) 228,894 คัน
- รถยนต์ไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-In Hybrid Electric Vehicle; PHEV) 37,075 คัน
- รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle; BEV) 18,644 คัน

และจากการคาดการณ์ของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี ประเมินว่าในสิ้นปี พ.ศ. 2565 นี้ ยอดขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าของไทยจะแตะ 63,599คัน เพิ่มขึ้นถึง 48% โดยแบ่งออกเป็น

- รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle; HEV) 41,927 คัน
- รถยนต์ไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-In Hybrid Electric Vehicle; PHEV) 11,469 คัน
- รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle; BEV) 10,203 คัน

#ยานยนต์ไฟฟ้าอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของไทย #ยุทธศาสตร์ชาติ20ปี
#สร้างไทยไปด้วยกัน #ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
#PMOC #ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี