คือ ณ ปัจจุบันคนประสบความสำเร็จไม่ใช่จะต้องมาจากสถาบัน หน่วยงาน หรืออาชีพที่ทำอยู่ เสมอไป คำว่าประสบความสำเร็จก็ไม่ได้วัดเพียงแค่รายได้ หรือสถานะทางสังคม คนที่ประสบความสำเร็จรวมหลาย ๆ ด้าน คือ ด้านอาชีพ การเงิน การบริหารจัดการชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังสามารถทำเพื่อสังคม ช่วยเหลือสังคมได้อีก เป็นที่ชื่นชมและยกย่องและนับถือของคนในสังคม โดยไร้ข้อติหรือมีก็มีน้อยมาก เป็นแบบอย่างของการดำเนินชีวิตที่คนอื่นสามารถนำมาเรียนรู้และปรับใช้ได้
ณ ปัจจุบัน คนไทย เลิกคิดหรือยังว่า ลูกคุณเรียนคณะอะไร สถาบันไหน ในวัยเรียน
ณ ปัจจุบัน คนไทย เลิกคิดหรือยังว่า ลูกคุณทำงานอะไร ที่ไหน เงินเดือนเท่าไหร่
ณ ปัจจุบัน คนไทยเลิกคิดหรือยังว่า หลานของคุณ เรียนที่ไหน ค่าเทอมเท่าไหร่
โดยที่เมื่อมองไปรอบโลกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา รูปแบบการเรียนการสอน ของไทยยังคงไม่พัฒนา ที่เห็นว่าเด็กไทยคนไหนเก่ง เรียนรู้เร็ว นั่นคือต้องยกความดีให้กับการรักดีของเด็กคนนั้นมากกว่าจะยกย่องระบบการศึกษาไทย
ระบบการศึกษาไทยยังคงผลิตบุคลากรที่ไม่โอเค ออกมาเยอะแยะ และเด็กนักเรียนไทยยังคงคิดไม่เป็น หรือถึงคิดเป็นก็เพียงส่วนน้อย เพราะเมื่อวัดระดับมาตราฐานนักเรียนไทยแล้ว ยังคงล้าหลังจากต่างชาติมากทีเดียว เด็กนักเรียนไทยยังคงอยู่ในระบบเดิมๆ วิถีการดำเนินชีวิตเดิมๆ หลับตาก็พอเดาได้ว่าเป็นอย่างไร
เด็กไทยโตมาก็จะโดนกรอกหูว่า ต้องเรียนคณะนี้นะ ต้องเรียนที่นี่นะ เหมือนถูกปลูกฝังมาแต่เด็กว่ามันต้องแบบนี้นะ ถึงจะได้รับการยอมรับจากสังคมส่วนใหญ่และได้รับการยกย่องชื่นชม และยังมีโอกาสทางการทำงานยังหน่วยงานมีชื่อเสียงอีกด้วย
เด็กไทยที่เรียนสายอาชีพก็จะโดนมองว่า "เด็กอีกระดับชนชั้น" ที่ไปบอกคนทั่วไปก็จะรู้สึกเฉยๆ ฟังแล้วปล่อยผ่าน
ส่วนเด็กไทยเอง จะรู้สึกภูมิใจและอีโก้จะสูง เมื่อได้แต่งชุดนักศึกษาสถาบันมีชื่อเสียงและคนในประเทศรู้จักกันดีว่ามัน "เจ๋ง"
สังเกตว่าจะต้องมีเข็ม มีป้าย มีอะไรบ่งบอกว่า ฉันเรียนที่นี่นะ เข็มขัดนักศึกษาก็จะเห็นชัดเจนว่าคือสถาบันไหน หรือแม้กระทั่งเสื้อสถาบันที่ใส่ไปไหนมาไหน เพื่อบอกให้โลกรู้ว่า ฉันเรียนสถาบันนี้นะ ส่วนคนที่เรียนสถาบันธรรมดา (สังคมว่ามา) ก็จะเฉยๆ ไม่ใส่เสื้อสถาบันตัวเองหรอก หรือทางสถาบันเองก็ไม่ค่อยจะทำเสื้อของที่ระลึก เสื้อคณะ เสื้อสถาบัน อะไรออกมาจำหน่ายให้นึกศึกษาเท่าไหร่
จะสังเกตว่า สถาบันระดับประเทศ คนที่เรียนหรือคนที่จบไปแล้ว ยังคงเอาเสื้อสถาบันตัวเองมาใส่อยู่ ยังเอาสติกเกอร์สถาบันติดรถของตนเองอยู่
ความรักสถาบันก็เป็นสิ่งที่ดีนะ
**********************************************************************************************************************************************************
แต่..ก็ไม่มีอะไรการันตีว่า สถาบันดี คณะดี จะประสบความสำเร็จกันทุกคน
สิ่งเหล่านี้เมื่อบินไปต่างประเทศ เค้าไม่รู้จักหรอกว่า คุณเรียนที่ไหน สถาบันไหน หรือทำงานอะไร แต่เค้าจะรู้ต่อเมื่อเค้าได้พูดคุยกับคุณเค้าถึงจะรู้จักตัวตนของคุณ หรือไม่เราก็ต้องบอกเค้าว่า สถาบันที่เรียนมานี่ดีนะ ดังมากเลยในประเทศ
แต่เมื่อได้ไปสัมผัสกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศแล้ว มันต่างกันลิบลับ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ความคิดของนักศึกษา วัฒนธรรมการแต่งกายและการใช้ชีวิต แฟชั่นในชุดนักศึกษา และการเล่นโซเชียลอะไรต่าง ๆนานา ไม่เหมือนกันเลยจริงๆ
ปี2565 หมดยุคหรือยังที่คนไทยยังคงยึดติดสถาบัน คณะ หรือหน่วยงานต่าง ๆนานา
ณ ปัจจุบัน คนไทย เลิกคิดหรือยังว่า ลูกคุณเรียนคณะอะไร สถาบันไหน ในวัยเรียน
ณ ปัจจุบัน คนไทย เลิกคิดหรือยังว่า ลูกคุณทำงานอะไร ที่ไหน เงินเดือนเท่าไหร่
ณ ปัจจุบัน คนไทยเลิกคิดหรือยังว่า หลานของคุณ เรียนที่ไหน ค่าเทอมเท่าไหร่
โดยที่เมื่อมองไปรอบโลกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา รูปแบบการเรียนการสอน ของไทยยังคงไม่พัฒนา ที่เห็นว่าเด็กไทยคนไหนเก่ง เรียนรู้เร็ว นั่นคือต้องยกความดีให้กับการรักดีของเด็กคนนั้นมากกว่าจะยกย่องระบบการศึกษาไทย
ระบบการศึกษาไทยยังคงผลิตบุคลากรที่ไม่โอเค ออกมาเยอะแยะ และเด็กนักเรียนไทยยังคงคิดไม่เป็น หรือถึงคิดเป็นก็เพียงส่วนน้อย เพราะเมื่อวัดระดับมาตราฐานนักเรียนไทยแล้ว ยังคงล้าหลังจากต่างชาติมากทีเดียว เด็กนักเรียนไทยยังคงอยู่ในระบบเดิมๆ วิถีการดำเนินชีวิตเดิมๆ หลับตาก็พอเดาได้ว่าเป็นอย่างไร
เด็กไทยโตมาก็จะโดนกรอกหูว่า ต้องเรียนคณะนี้นะ ต้องเรียนที่นี่นะ เหมือนถูกปลูกฝังมาแต่เด็กว่ามันต้องแบบนี้นะ ถึงจะได้รับการยอมรับจากสังคมส่วนใหญ่และได้รับการยกย่องชื่นชม และยังมีโอกาสทางการทำงานยังหน่วยงานมีชื่อเสียงอีกด้วย
เด็กไทยที่เรียนสายอาชีพก็จะโดนมองว่า "เด็กอีกระดับชนชั้น" ที่ไปบอกคนทั่วไปก็จะรู้สึกเฉยๆ ฟังแล้วปล่อยผ่าน
ส่วนเด็กไทยเอง จะรู้สึกภูมิใจและอีโก้จะสูง เมื่อได้แต่งชุดนักศึกษาสถาบันมีชื่อเสียงและคนในประเทศรู้จักกันดีว่ามัน "เจ๋ง"
สังเกตว่าจะต้องมีเข็ม มีป้าย มีอะไรบ่งบอกว่า ฉันเรียนที่นี่นะ เข็มขัดนักศึกษาก็จะเห็นชัดเจนว่าคือสถาบันไหน หรือแม้กระทั่งเสื้อสถาบันที่ใส่ไปไหนมาไหน เพื่อบอกให้โลกรู้ว่า ฉันเรียนสถาบันนี้นะ ส่วนคนที่เรียนสถาบันธรรมดา (สังคมว่ามา) ก็จะเฉยๆ ไม่ใส่เสื้อสถาบันตัวเองหรอก หรือทางสถาบันเองก็ไม่ค่อยจะทำเสื้อของที่ระลึก เสื้อคณะ เสื้อสถาบัน อะไรออกมาจำหน่ายให้นึกศึกษาเท่าไหร่
จะสังเกตว่า สถาบันระดับประเทศ คนที่เรียนหรือคนที่จบไปแล้ว ยังคงเอาเสื้อสถาบันตัวเองมาใส่อยู่ ยังเอาสติกเกอร์สถาบันติดรถของตนเองอยู่
ความรักสถาบันก็เป็นสิ่งที่ดีนะ
**********************************************************************************************************************************************************
แต่..ก็ไม่มีอะไรการันตีว่า สถาบันดี คณะดี จะประสบความสำเร็จกันทุกคน
สิ่งเหล่านี้เมื่อบินไปต่างประเทศ เค้าไม่รู้จักหรอกว่า คุณเรียนที่ไหน สถาบันไหน หรือทำงานอะไร แต่เค้าจะรู้ต่อเมื่อเค้าได้พูดคุยกับคุณเค้าถึงจะรู้จักตัวตนของคุณ หรือไม่เราก็ต้องบอกเค้าว่า สถาบันที่เรียนมานี่ดีนะ ดังมากเลยในประเทศ
แต่เมื่อได้ไปสัมผัสกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศแล้ว มันต่างกันลิบลับ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ความคิดของนักศึกษา วัฒนธรรมการแต่งกายและการใช้ชีวิต แฟชั่นในชุดนักศึกษา และการเล่นโซเชียลอะไรต่าง ๆนานา ไม่เหมือนกันเลยจริงๆ