เสื้อแดงรำลึก 16 ปีรัฐประหาร 49 จับตา 8 ปีบิ๊กตู่ 30 ก.ย. จ่อเชิดสิงโตรัวกลองยาวไล่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3571163
 
 
เสื้อแดงรำลึก 16 ปีรัฐประหาร 49 จับตา 8 ปีบิ๊กตู่ 30 ก.ย. จ่อเชิดสิงโตรัวกลองยาวไล่
 
เมื่อวันที่ 19 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรำลึกครบรอบ 16 ปี เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 บนถนนราชดำเนิน เขตพระนคร กรุงเทพฯ  โดยมีการจัดกิจกรรม 2 จุดหลัก ได้แก่ 

1. อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยกลุ่มคนเสื้อแดง กิจกรรม ‘รวมพลคนเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ’

2. อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว โดย กลุ่มทะลุฟ้า ในกิจกรรม ‘เผด็จการครองเมือง’ ครบรอบ 16 ปีรัฐประหาร’
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบ ตั้งจุดตรวจบริเวณแยกตะนาว ฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีรถกระบะและรถตู้จาก สน.ต่างๆ เกือบ 10 คัน อาทิ สน.ฉลองกรุง และ สน.จรเข้น้อย
 
เวลาราว 17.20 น. กลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแถวรวมตัวหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถือป้ายทำด้วยกระดาษเอ 4 มีข้อความต่างๆ อาทิ พอเหอะ 8 ปีแล้วประยุทธ์, 8 ปีประชาชนจนแล้ว ประยุทธ์ยังไม่หยุด รวมถึงกางป้ายไวนิลขนาดใหญ่มีข้อความว่า ‘รำลึกรัฐประหาร 49’
 
ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศผ่านเครื่องขนายเสียงว่า พวกตนไม่เอา 3 ป. และหากวันที่ 30 กันยายนนี้ ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ต่อ พวกตนจะรวมตัวแห่สิงโตและกลองยาวจากลานคนเมืองแห่มายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 3 รอบเพื่อขับไล่เผด็จการ  แต่หากตัดสินไม่ให้พลเอก ประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป จะมีการเฉลิมฉลองในวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคมต่อไป
 
จากนั้น ผู้ชุมนุมร่วมตะโกน ไม่เอา 3 ป. และชู 3 นิ้วเป็นสัญลักษณ์
    
เวลา 17.45 น. นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท กล่าวปราศรัยมีเนื้อหาโดยสรุปว่า ขณะที่เกิดการรัฐประหารปี’49 ตนยังเด็ก อายุเพียง 15 ปี ยังไม่มีโลกโซเชียล โดยในอดีตรัฐประหารเกิดวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำอีก รวมถึงเมื่อปี 2557
 
“ผมมีโอกาสออกมาร่วมต่อต้านพร้อมกับคนเสื้อแดง เป็นลูกหลานของคนเสื้อแดง เราคือรากหญ้า ไม่ยอมก้มหัวให้เผด็จการ ภูมิใจที่เกิดมาทั้งชาติได้ทดแทนคุณแผ่นดินร่วมกับเสื้อแดงบนถนนราชดำเนิน” นายชินวัตรกล่าว
 
จากนั้น นายชินวัตรกล่าวยกย่องสายัณห์ สัญญา ว่าเป็นศิลปินฝ่ายประชาธิปไตย โดยแต่งเพลง ‘อัศวินในดวงใจ’ มอบให้นายทักษิณ ชินวัตร ส่วนศิลปินดาราที่สนับสนุนรัฐประหารและเผด็จการ ต้องประณาม โดยเฉพาะในการชุมนุมของกลุ่ม

---

ซัด"พธม."ต้นเหตุ"รัฐประหาร"! "เต้น ณัฐวุฒิ "โพสต์คือจุดเริ่มความขัดแย้ง
https://siamrath.co.th/n/383838
 
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.65 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟสบุ๊ก "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ระบุว่า 
 
รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นจุดเริ่มต้นมหากาพย์ความขัดแย้งของสังคมไทย มาตลอด 16 ปี การชุมนุมของกลุ่ม พธม. ในช่วงปี 2548-2549 แม้จะมีขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สามารถเป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์การเมืองได้   
 
ถ้ากลุ่ม พธม. ยุติการชุมนุมไปหลังจากรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ประกาศยุบสภา บ้านเมืองอาจไปอีกทางหนึ่ง และจะไม่มาสู่หนทางนี้ได้ กระทั่งเมื่อกองทัพและเครือข่ายชนชั้นนำทำรัฐประหาร จึงกลายเป็นการเริ่มนับหนึ่งของมหากาพย์ความขัดแย้ง 
 
ก่อวิกฤตความแตกแยกของสังคมไทยยาวนานมาจนถึงวันนี้  
 
16 ปีผ่านไป ตัวละครหลักในเหตุการณ์ยังคงอยู่ครบ ทั้งฝ่ายการเมือง กองทัพ และเครือข่ายอำนาจชนชั้นนำ ขณะเดียวกัน 19 กันยา 49 และผลพวงจากเหตุการณ์นั้น ก็ให้กำเนิดตัวละครใหม่ เช่น กลุ่มคนเสื้อแดง กระทั่งขบวนการหนุ่มสาว ที่ออกมาร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปัจจุบัน เกิดการเรียนรู้อุดมการณ์ประชาธิปไตย และมีนักประชาธิปไตยเกิดขึ้นทุกที่ทุกเวลา 
 
เครือข่ายชนชั้นนำและกองทัพที่มีอิทธิพลสำคัญในมหากาพย์ความขัดแย้งนี้ ก็ไม่ได้รอดพ้นความจากเสียหายที่ก่อไว้ เพียงยังทรงตัวอยู่บนรอยปริร้าวของตัวเองได้ชั่วคราว แต่วันหนึ่งความเสียหายร้ายแรงจะลุกลามไปถึง ถ้า 19 กันยายน 2549 เป็นการทำเพื่ออนาคตประเทศอย่างแท้จริง ตามที่คณะรัฐประหารกล่าวอ้าง วันนี้ก็น่าจะยอมรับกันได้แล้วว่า อนาคตของประเทศต้องการอะไร เด็กที่เกิดวันที่  19 กันยายน 2549 พวกเขาจะอายุครบ 16 ปี และถ้าถามว่าอยากให้ประเทศไปทางไหน  ผมเชื่อว่า 100% จะไม่ยอมไปกับการรัฐประหาร 
 
แน่นอนว่าบ้านเมืองมาถึงวันนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมกันรับผิดชอบ แต่คณะรัฐประหารในประเทศนี้ ไม่เคยมีความรับผิดชอบใดๆ  ฉีกรัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรมตัวเอง แสวงหาอำนาจ ผลประโยชน์ ซ่อนตัวอยู่ในวงจรอุบาทว์การเมืองไทยในนามคนดี
 
16 ปีแล้ว เด็กโตจนรู้ทัน จนเขาพากันมาไล่แล้ว อายเด็กมันบ้าง ฟังเด็กมันด้วย
 
https://www.facebook.com/Nattawut.UDD/posts/pfbid0319CvJ7mSWwPKHsdu68RqG9YCWbURCyXJyRG1ySpZ63Wmyu3zJR3udytM1aPwqwful
 

---

‘ก้าวไกล’ ไม่กังวล พรรค รบ.แอบแฝงหาเสียง ข้องใจ ‘รักษาการนายกฯ’ ขึ้นป้ายเบิ้ม พร้อมโลโก้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3570344
 
‘ก้าวไกล’ ไม่กังวล พรรครัฐบาลแอบแฝงหาเสียง โวย ‘กกต.’ เขียนระเบียบไม่ชัด หวั่นเลือกปฏิบัติตีความ ข้องใจ ‘รักษาการนายกฯ’ ขึ้นป้ายใหญ่แปะโลโก้พรรค-นโยบาย
 
เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งเตือนกรอบเวลา 180 วัน ก่อนวันครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร (วันที่ 23 มีนาคม 2566) ที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ทำให้หลังวันที่ 24 กันยายน ไม่สามารถแจกสิ่งของช่วยน้ำท่วม หรือโควิด-19 ได้ จะทำให้เสียเปรียบพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจมีรัฐมนตรีแอบแฝงช่วยหาเสียงหรือไม่ว่า โดยกติกาเราไม่ได้กังวลว่าใครจะได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ เพราะเป็นกติกาที่ออกมาเป็นทางการ และทราบมาก่อนแล้ว แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ กกต.ไม่ได้ลงรายละเอียด เกรงว่าว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ไม่เข้าใจในเชิงปฏิบัติ และในเดือนตุลาคมเป็นช่วงประเพณีทอดกฐิน  หาก กกต.สามารถออกระเบียบ และแนวปฏิบัติ พร้อมช่องทางสำหรับสอบถามกรณีที่เกิดความไม่เข้าใจว่าสามารถทำได้หรือไม่ จะสมบูรณ์มากกว่า สำหรับฝ่ายค้านเราทำหน้าที่ตามปกติ เพื่อดูแลปัญหาความเดือดร้อนด้านปากท้อง และน้ำท่วม แต่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามกรอบที่ กกต.กำหนดมา
 
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันเราเข้าใจว่ารัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชน แต่อย่าแฝงใช้ช่องเพื่อเอื้อประโยชน์ และบอกว่าพรรคนั้นพรรคนี้ทำ หากเลือกพรรคนี้ในอนาคตจะกลับมาทำแบบนี้อีก ยกตัวอย่างการขึ้นป้ายขนาดใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะบอกว่าทำหน้าที่รักษาการนายกฯ แต่ว่าเราก็เห็นชัดเจนว่ามีโลโก้พรรคการเมืองที่พูดถึงนโยบายเบื้องต้นที่จะทำในอนาคต
 
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า แม้จะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 24 กันยายน 2565 ก็ถือเป็นการใช้เงื่อนไขในการดำเนินการ ขณะเดียวกันพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล และกลไกฝ่ายรัฐบาล ก็อย่าไปบังคับหรือให้คนอื่นกระทำการแทนด้วย จึงอยากเตือนข้าราชการสังกัด กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ว่าอาจจะตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองโดยไม่รู้ตัว และทำผิดกฎหมายของ กกต.ด้วย

เมื่อถามว่า พรรคฝ่ายค้านจะต้องตั้งทีมมอนิเตอร์เรื่องนี้หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พรรค ก.ก.ได้ตักเตือนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ในสัปดาห์นี้เราจะลงรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ขัดกับระเบียบของ กกต. และหลีกเลี่ยงไม่ให้คู่แข่งทางการเมืองมาใช้ประโยชน์ในการร้องเรียน โดยทางพรรค ก.ก.จะทำ 3 ระดับ คือ 
 
1. การตักเตือนเบื้องต้น 
2. วันนี้ (19 กันยายน) จะหารือแนวทางปฏิบัติให้ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ให้รับทราบ 
และ 3. ช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะสัมมนา ส.ส.และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่ออธิบายรายละเอียด และเปิดช่องตอบคำถาม เช่น อะไรที่ทำได้ อะไรที่ห้ามทำ และอะไรที่เป็นข้อพึงระวัง จนอาจถูกตีความว่าเข้าข่ายว่าทำได้หรือไม่ได้ โดยฝ่ายกฎหมายของพรรคจะเตรียมออกแนวทางเหล่านี้
 
เมื่อถามว่า กังวลว่าความไม่ชัดเจนของระเบียบ กกต.จะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า หลักกฎหมายที่  กกต.ไม่ใช่ไม่ชัดเจน เพราะ กกต.ใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นตัวตั้ง หมายความว่าโดยตัวกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว แต่ กกต.ไม่ได้มีแนวทางที่จะทำให้คนเข้าใจว่าสามารถทำได้มากแค่ไหน และอย่างไร ทั้งตัวว่าที่ผู้สมัคร และข้าราชการ องค์กรต่างๆ ด้วย
 
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นอกจากนี้ กกต.ต้องตั้งรับ และทำงานเชิงรุก ผ่านการทำหน้าที่ กกต.จังหวัด โดยการเปิดช่องให้สอบถามว่าการกระทำใดสามารถทำได้หรือไม่ได้ อย่างไร เพื่อลดช่องโหว่การตีความระเบียบที่ไม่ชัดเจนด้วย ไม่ใช่ว่าโยนความรับผิดชอบมาให้พรรคการเมืองอย่างเดียว
 

---

  
ราคาผักรับเทศกาลกินเจ! ขึ้นฉ่าย พุ่งกก.ละ220บาท คะน้า-ผักชีทยอยขึ้น
https://www.khaosod.co.th/economics/news_7273630

พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ลุยตรวจร้านจำน่ายพืชผัก เผย ขึ้นฉ่าย ราคาพุ่งกิโลกรัมละ 220 บาท ดูเลย ราคาผักวันนี้ กำชับติดป้ายแสดงราคาให้ชัดด้วย
  
วันที่ 19 ก.ย.2565 นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายบุญเชิด เอ็นดู นักวิชาการชำนาญการพิเศษ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ตรวจร้านจำหน่ายพืชผัก ในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อป้องปรามพ่อค้าแม่ค้าปรับขึ้นราคาพืชผักเกินกว่าราคาต้นทุนที่รับซื้อมาสูงเกินความเป็นจริง ในช่วงที่เกิดภาวะน้ำท่วมแหล่งเพาะปลูกในหลายพื้นที่จังหวัด รวมถึงใกล้ช่วงเทศกาลกินเจ ในห้วงระหว่างวันที่ 26 ก.ย.-4 ต.ค.2565
 
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ราคาผักสดส่วนใหญ่ยังทรงตัว มีบางชนิดที่ปรับราคาสูงขึ้น อาทิ ผักชี กก.ละ 180-200 บาท, ขึ้นฉ่าย กก.ละ 200-220 บาท, กะหล่ำปลี กก.ละ 60-70 บาท, คะน้า กก.ละ 60-80 บาท โดยผักส่วนใหญ่รับมาจากตลาดค้าส่งที่ จ.นครราชสีมา พร้อมทั้งกำชับให้พ่อค้าแม่ค้าติดป้ายแสดงราคาพืชผักและสินค้าอื่น ๆ ให้ผู้บริโภคมองเห็นอย่างชัดเจนด้วย หากพบว่าพ่อค้าแม่ค้ารายใดจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่าย ก็จะดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542
 
นายสุทธิศักดิ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากช่วงนี้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่จังหวัด ทำให้กระทบต่อแหล่งเพาะปลูกพืชผักของเกษตรกรได้รับความเสียหายด้วย ต้นทุนพืชผักหลายชนิดมีการปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับช่วงนี้ใกล้จะถึงเทศกาลกินเจ ดังนั้นทางพาณิชย์จังหวัดจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายผักสดในตลาด เพื่อป้องปรามไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าปรับขึ้นราคาผักสูงเกินต้นทุนที่รับซื้อมาเกินความเป็นจริง
 
นายสุทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า แต่จากการตรวจสอบก็พบว่า ราคาพืชผักส่วนใหญ่ยังทรงตัว บางชนิดก็ปรับลดลง แต่ก็มีบางชนิดที่ปรับขึ้นแต่ไม่มาก โดยแม่ค้าบอกว่าปรับตามภาวะราคาต้นทุนที่รับซื้อมา ทั้งนี้ก็ได้ขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าให้จำหน่ายตามภาวะต้นทุนที่รับซื้อ พร้อมกำชับให้ปิดป้ายแสดงราคาด้วย ซึ่งทางพาณิชย์ก็จะได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค