วันอาทิย์ที่ผ่านมาสองจิตสองใจว่าจะไไหนดีน่ะ ห้างก้อไม่ได้เข้ามานานสักพักตั้งแต่พักรักษาตัวตอนขาเดี้ยงสองเดือนก่อน อีกใจก้ออยากเลาะวัดใกล้ๆ บ้าน สุดท้าย..เลือกถวายสังฆทานที่วัดดีกว่า..อิ่มบุญอิ่มใจ
ครั้งนี้เลือกวัดที่ผ่านหลายครั้ง แต่ไม่ได้โอกาสเข้า กับอีกวัดได้โอกาสเข้า..แต่โควิดเข้าไปก่อน (ถอยดีกว่า...) จะว่าไปแล้ววัดในละแวกนี้มีทั้งที่เป็นสายหินยาน และมหายาน (แต่อย่างหลัง..มีเพียงหนึ่งยืนเดียว) เที่ยวนี้เลือกเขาวัดที่ชื่อช่างน่ากลัวอยู้ริมน้ำด้วย.."วัดจระเข้ใหญ่" ใหญ่จริงครับ หมายถึงพื้นที่นะครับ 555
โบสถ์นี้มีองค์พระให้กราบสักการะนะครับ ส่วนอุโบสถไม่เปิด..อดไป
องค์หลวงปู่ทวด กับหลวงพ่อโตนี้ไม่ได้ตั้งถาวรแบบนี้นะครับ เพียงแต่ฐานตั้งอยู่ระหว่างก่อสร้างอยู่ข้างๆ (ยังแต่ขึ้นโครงเหล็ดเส้นอยู่เลย) ต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งเดือน (เอาไว้แล้วเสร็จก้อจะมาบอกกล่าวอีกที) กราบไหว้เสร็จแล้วไปต่อครับ
"ท้าวเวสสุวรรณ" สิ่งที่ต้องมีทุกวัดเพื่อพิทักษ์สิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามา ท่านไม่ห้ามผมนะครับ เพราะผมเป็นคนดี >_<
ช่วงเวลาที่ผมเข้ามาเป็นเวลาฉันเพลพอดี มองไปที่ศาลาฉันเห็นญาติโยมเพียบ อาจเนื่องด้วยเป็นวันพระ(เล็ก)ด้วยมั๊งครับ กราบไหว้เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ถึงภาระกิจไปสำรวจจระเข้กันว่ามีป่ะ
นั่งล่อตรงลานแพกันเลย..มองซ้าย-มองขวา..ไม่มีสักตัว แม้แต่น้องเห้ จริงๆ แล้วไม่มีจระเข้แล้วครับ แต่ขอบอกเลยว่าร่มรื่นดีมาก พอลมพัดมาอาการเคลิ้มก่อตัวเลย ยังๆ ภาระกิจคือไปถวายสังฆทาน ตอนนี้แค่รอพระท่านลงจากศาลาก่อน แล้วผมจะบุกไปที่กุฏิ 555
*********************************************************************************************************************
ภาระกิจวัดนี้เสร็จสิ้นก้อไปวัดต่อไปตามลายแทง.."วัดบัวโรย" ซึ่งเป็นหนึ่งวัดราษฎร์มหานิกายบนเนื้อที่ 17 ไร่ ครั้งแรกที่ผมโฉบมาวัดนี้ตอนช่วงโควิด..ขอบอกแบบไม่อายฟ้าดิน คือ วิ่งผิดเส้นทาง แบบว่าวิ่งเลยเส้นทางกลับบ้าน คราวนี้ก้อเลยตั้งใจมาเลย อยากเห็นว่าวัดนี้เน้นอะไร พอตอนรถปุ๊บเปิดประตูปั๊บ..น้องลาบานูน เอ่ย น้องลาบาดอมาทักก่อนเลย รอบนี้ไปถวายสังฆทานก่อน ภาระกิจอื่นค่อยว่ากัน
เด่นๆ สำหรับวัดนี้คือสิ่งนี้ครับ "เจดีย์ที่เป็นพิพิธภัณฑ์" ให้เข้าชมฟรีครับ
แหระแล้วภาระกิจวันนี้สำเร็จตามเป้าหมาย..กลับบ้านไปรอลุ้นฝนได้ ขออนุโมทนาผลบุญครั้งนี้ไปยังสมาชิกพันทิปทุกๆ ท่านด้วยครับ สวัสดีครับ
ไม่เข้าห้าง ก้อเข้าวัดสิคร๊าบบบ
ครั้งนี้เลือกวัดที่ผ่านหลายครั้ง แต่ไม่ได้โอกาสเข้า กับอีกวัดได้โอกาสเข้า..แต่โควิดเข้าไปก่อน (ถอยดีกว่า...) จะว่าไปแล้ววัดในละแวกนี้มีทั้งที่เป็นสายหินยาน และมหายาน (แต่อย่างหลัง..มีเพียงหนึ่งยืนเดียว) เที่ยวนี้เลือกเขาวัดที่ชื่อช่างน่ากลัวอยู้ริมน้ำด้วย.."วัดจระเข้ใหญ่" ใหญ่จริงครับ หมายถึงพื้นที่นะครับ 555
โบสถ์นี้มีองค์พระให้กราบสักการะนะครับ ส่วนอุโบสถไม่เปิด..อดไป
องค์หลวงปู่ทวด กับหลวงพ่อโตนี้ไม่ได้ตั้งถาวรแบบนี้นะครับ เพียงแต่ฐานตั้งอยู่ระหว่างก่อสร้างอยู่ข้างๆ (ยังแต่ขึ้นโครงเหล็ดเส้นอยู่เลย) ต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งเดือน (เอาไว้แล้วเสร็จก้อจะมาบอกกล่าวอีกที) กราบไหว้เสร็จแล้วไปต่อครับ
"ท้าวเวสสุวรรณ" สิ่งที่ต้องมีทุกวัดเพื่อพิทักษ์สิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามา ท่านไม่ห้ามผมนะครับ เพราะผมเป็นคนดี >_<
ช่วงเวลาที่ผมเข้ามาเป็นเวลาฉันเพลพอดี มองไปที่ศาลาฉันเห็นญาติโยมเพียบ อาจเนื่องด้วยเป็นวันพระ(เล็ก)ด้วยมั๊งครับ กราบไหว้เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ถึงภาระกิจไปสำรวจจระเข้กันว่ามีป่ะ
นั่งล่อตรงลานแพกันเลย..มองซ้าย-มองขวา..ไม่มีสักตัว แม้แต่น้องเห้ จริงๆ แล้วไม่มีจระเข้แล้วครับ แต่ขอบอกเลยว่าร่มรื่นดีมาก พอลมพัดมาอาการเคลิ้มก่อตัวเลย ยังๆ ภาระกิจคือไปถวายสังฆทาน ตอนนี้แค่รอพระท่านลงจากศาลาก่อน แล้วผมจะบุกไปที่กุฏิ 555
*********************************************************************************************************************
ภาระกิจวัดนี้เสร็จสิ้นก้อไปวัดต่อไปตามลายแทง.."วัดบัวโรย" ซึ่งเป็นหนึ่งวัดราษฎร์มหานิกายบนเนื้อที่ 17 ไร่ ครั้งแรกที่ผมโฉบมาวัดนี้ตอนช่วงโควิด..ขอบอกแบบไม่อายฟ้าดิน คือ วิ่งผิดเส้นทาง แบบว่าวิ่งเลยเส้นทางกลับบ้าน คราวนี้ก้อเลยตั้งใจมาเลย อยากเห็นว่าวัดนี้เน้นอะไร พอตอนรถปุ๊บเปิดประตูปั๊บ..น้องลาบานูน เอ่ย น้องลาบาดอมาทักก่อนเลย รอบนี้ไปถวายสังฆทานก่อน ภาระกิจอื่นค่อยว่ากัน
เด่นๆ สำหรับวัดนี้คือสิ่งนี้ครับ "เจดีย์ที่เป็นพิพิธภัณฑ์" ให้เข้าชมฟรีครับ
แหระแล้วภาระกิจวันนี้สำเร็จตามเป้าหมาย..กลับบ้านไปรอลุ้นฝนได้ ขออนุโมทนาผลบุญครั้งนี้ไปยังสมาชิกพันทิปทุกๆ ท่านด้วยครับ สวัสดีครับ