รีวิว : Six Characters มายาพิศวง ..สาสน์จากครู ถึง คนทำสื่อและคนดูทุกคน

Six Characters มายาพิศวง (มล.พันธุ์เทวพน เทวกุล)
"นี่คือสาสน์จากครู ...ถึงคนทำสื่อรุ่นหลังและคนดูทุกคน"

ตั้งใจจะเขียนและลงเพจตั้งแต่เมื่อวาน แต่ได้รับข่าวช็อกในคืนวันพฤหัส ถึงการจากไปของพี่น้อย หรือที่คนทั่วไปเรียกติดปากว่าหม่อมน้อย ภาพความทรงจำเก่าๆ ย้อนกลับคืนมา ในวันที่เรียนจบใหม่ๆ ไปคลุกคลีตีโมงทำละครเวทีกับพี่น้อย ทำละครทีวี นั่นทำให้ได้เข้าใจในสิ่งที่สอนถึงความรัก ความศรัทธาในอาชีพทั้งการเป็นนักแสดง ผู้กำกับ การเขียนบท เพราะงานที่เราทำมันมีคุณค่า จงรักและซื่อสัตย์กับคนดู

สำหรับผม..พี่น้อย หรือหม่อมน้อย คือบุคคลที่ผมเรียกเต็มปากว่าเป็นครูของผมโดยแท้ (แม้ส่วนตัวพี่น้อยจะไม่อยากให้ใช้คำนี้ก็ตาม) เราซึมซับวิธีคิด การทำงานของท่าน ผ่านการพูดคุยที่มักสอดแทรกให้เราคิด วิเคราะห์ ในหลากหลายมุมมอง นั่นเป็นการสอนที่ดี และจดจำซึมซับมาใช้ในการทำงานและการเขียนจนทุกวันนี้ .. ใช่ครับ "เราต้องรัก ซื่อสัตย์ ศรัทธากับงานที่เราทำ ศรัทธากับคนดูของเรา"

Six Characters มายาพิศวง สำหรับผม ทุกๆ นาทีในหนัง นี่คือสาสน์จากครู ที่สื่อสารถึง คนทำงานสื่อรุ่นหลังๆ ทั้งคนทำหนัง ละคร ละครเวที นักแสดง รวมถึงสื่ออื่นๆ รวมไปถึงคนดูงานสื่อในทุกวันนี้ ...เหมือนท่านจะบอกว่า ทุกงาน ทุกตัวละคร มันมีแก่นแท้ มีความจริง มีจิตวิญญาณ ..อย่าทำอะไรแบบฉาบฉวย อย่าทรยศคนดูของเรา

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่น้อยหยิบงานวรรณกรรมชั้นดีจากตะวันตก (เป็นงานที่เด็กเรียนละคร เรียนวรรรณคดีอังกฤษ คุ้นชิน) มาทำเป็นหนังละคร ตั้งแต่เพลิงพิศวาส (จาก Desire Under the Elms ของ ยูจีน โอนีล) ,ฉันผู้ชายนะยะ (The Boys in the Band ของ มาร์ท ครอว์ลีย์) ,นางนวล (The Seagull ของ อันตอน เชฟคอฟ) ,ละครซอยปรารถนา 2500 (A Streetcar Named Desire ของ เทนเนสซี วิลเลียมส์) ..สำหรับ Six Charaters in Search of an Author คือการดัดแปลงจากงานชั้นครู ของลุยจิ ปิลันเดลโล ที่เด็กเรียนวรรณคดีอังกฤษคุ้นชิน เป็นงานที่พูดถึงความเป้นตัวตน ความเป็นมนุษย์ที่สอดแทรกผ่านงานละครเวทีได้อย่างแยบยล

Six Characters มายาพิศวง คืองานที่เป็นลายเซ็นของพี่น้อยแบบชัดเจนมาก มันมีความจิกกัด parody คนทำสื่อรุ่นหลัง จิกกัดตัวเอง ด้วยเรื่องราวการปรากฏตัวของ 6 ตัวละคร ที่โรงถ่ายแห่งหนึ่ง ตัวละครที่มีเรื่องราวชีวิตของแต่ละคน แต่โชคร้ายที่ผู้ประพันธ์เสียชีวิตไปก่อน ทำให้ตัวละครทั้ง 6 ต้องตามหาคนที่มาแต่งเรื่องราวของพวกเขาให้จบลง การมาของตัวละครทั้งหก สร้างความพิศวง งงงวย ของคนในกองถ่าย และในขณะเดียวกับ เรื่องราวชีวิตของทั้งหกตัวละคร กลับมาสะท้อนสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดนั่นคือ การเคารพ เข้าใจถึงแก่นแท้ทั้งในแง่ของการทำงานและการใช้ชีวิต

ถ้ามองในแง่คนดู Six Character มายาพิศวง อาจไม่ตอบโจทย์ตรงใจ เพราะหนังต้องใช้สมาธิ ทำความเข้าใจ ตีความ (แต่เอาจริงๆ ดูง่ายนะ และสนุกด้วย) ด้วยลีลาการเล่าแบบหนังซ้อนละครเวทีและซ้อนทับความเป็นหนังอีกที ในหลาย Layer ...หลายคนชอบพูดว่า หนังของหม่อมน้อย นักแสดงจะเล่นใหญ่เว่อวังรัชดาลัย ในเรื่องนี้ชัดเจนมาก โดยเฉพาะในพาร์ตที่เป็นเหมือนละครเวที ทุกตัวละครจะเล่นใหญ่ Overacting หมด แต่เป็นโอเวอร์แอ็กที่ได้ผล และสนุกมาก ..ในขณะที่พาร์ตของความเป็นหนัง สังเกตดีๆ โทนแอ็กติ้งของตัวละครจะปรับดาวน์ลงมาหมดเลย (แต่เชื่อว่ามีหลายคนติดเพราะบทสนทนาในเรื่องที่คล้ายกับงานเขียนมากกว่าบทพูดจริงๆ แต่พี่น้อยก็ฉลาดที่เล่าเรื่องไปในยุคอดีต พร้อมกับคารวะงานภาพยนตร์แบบคลาสลิกไปในตัว ทำให้ผมไม่ติดขัดใดๆ กับบทพูดในหนังแม้แต่น้อย)

ในแง่ของการแสดง ในศาสตร์ละครเวที เราได้เห็นการแสดงชั้นดีจากนักแสดงมืออาชีพที่หลายคนไม่เคยเล่นแบบนี้ เหมือนได้ปลดล็อกการแสดงไปอีกสเต๊ปหนึ่ง ทั้งแพนเค้ก เขมนิจ ที่โดดเด่นมาก (เข้าชิงรางวัลแน่ๆ ) แอฟ ทักษ์อร ที่เล่นดราม่าได้นิ่งและดีจริงๆ ทั้งหมดทั้งมวลเชื่อว่ามาจากการฝึกซ้อม ฝึกฝนอย่างหนัก (พี่น้อยแทบจะเป็นคนเดียวเลยมั้ง ที่ต้องเอานักแสดงมาฝึกซ้อมแบบยาวๆ เหมือนซ้อมละครเวที ไม่ใช่แค่คอร์สเตรียมตัวสั้นๆ ก่อนเปิดกล้องหนัง) การฝึกซ้อมนานๆ (นักแสดงต้องทุ่มเทไม่น้อย) ทำให้ทุกตัวละครเข้าถึงในความเป็นตัวละครนั้นๆ จริงๆ

ในแง่ของภาษาภาพยนตร์ แม้ตัวหนังเหมือนจะยกละครเวทีขึ้นจอใหญ่ (จริงๆ ฝรั่งก็ทำแบบนี้มาหลายเรื่องนะ) แต่ในแง่ภาษาภาพยนตร์ หม่อมยังเป็นผู้กำกับภาพยนต์ที่มีสไตล์ ใช้ภาษาภาพเล่าเรื่องได้อย่างมีศิลปะ บวกกับการได้พี่สอง สยุมภู มาเป็นตากล้องให้ ทำให้งานภาพงดงาม มีความเป็น Cinematic แบบหนัง และหนังโดดเด่นมากเรื่องการทำ Color Grading (อยากให้นักเรียนหนังและคนทำเทคนิคในหนังไปดูกันเยอะๆ จัง) สิ่งที่ชอบมากคือการเกรดดิ้งสีในเฟรมภาพเดียวกันที่มีทั้งภาพที่เป็นสีและขาวดำ พร้อมค่อยๆ ไล่ Shade สีตามการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตัวละครในเรื่อง นี่คืองานที่ผ่านการคิด การวางแผนอย่างดี ...นี่คืองานทิ้งทวนแบบทุ่มพลังของครูในการทำหนัง ทำละคร เพราะหนังเรื่องนี้ รวมทุกศาสตร์ของสื่อไว้ด้วยกัน ..เป็นชิ้นงานสุดท้ายของหม่อมน้อย ที่งดงาม หมดจดจริงๆ

ถ้ามองในแง่คนดู ...ตอนดูจบ ผมก็ไม่แน่ใจว่าคนดูจะชอบไหม เพราะหนังมีความเฉพาะตัวสูงมาก แต่เชื่อว่าคนทำหนัง ทำสื่อ ดูแล้วจะอิน จะชอบมาก (จริงๆ หนังหลังๆ ของพี่น้อยสำหรับผม ก็มีทั้งชอบและไม่ชอบนะ บางเรื่องก็ดูประดักประเดิด อย่างจันดาราปัจฉิมบท ที่ไม่น่าจะทำแยกสองตอน หรือ แม่เบี้ย ที่ไม่ชอบเลย) ...Six Characters อาจเป็นหนังที่เข้าข่าย ถ้าไม่ชอบ ก็เกลียดไปเลยก็ได้

สุดท้าย...ในมุมของคนดูหนัง อยากขอบคุณหม่อมน้อย ที่ตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา หม่อมได้สร้างคุณูปการ สร้างคุณค่าของงานศิลปะผ่านภาพยนตร์ ละครทีวี ละครเวที ให้กับคนดู และเชื่อว่าสมบัติที่หม่อมสร้างขึ้น จะเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับคนรุ่นหลังๆ โดยเฉพาะนักเรียนหนังและคนทำงานสื่อบันเทิง ...ในมุมส่วนตัว ขอบคุณในความเป็นครู พี่น้อยเป็นคนที่ผมเรียกว่า ครู ได้อย่างเต็มปาก ทุกสิ่งที่ได้ซึมซับจากพี่น้อย ได้นำมาปรับใช้ในการทำงาน การใช้ชีวิต (แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ) เราต้องมีศรัทธากับงานที่เราทำ นั่นจะเป็นสิ่งที่ผมสานต่อ และคงอยู่ต่อไปครับ

ขอกราบลาครู ด้วยความอาลัยและรักยิ่งครับ

ฝากติดตามเพจ 
https://www.facebook.com/urrahoei/

#SixCharacters #มายาพิศวง
#เอ้อระเหยลอยลม

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่