เตือน !!! ถ้าตาย !!! บัตรเครดิตธนาคารนี้ปิดยากมาก

สมัครเข้ามาครั้งแรกนะคะ  ไม่แน่ใจเข้ามาโพสต์ถูกช่องทางหรือเปล่าค่ะ
 
!!!  หากคุณคิดจะทำบัตรเครดิตกับธนาคารใด โปรดอ่านให้ดีนะคะ !!!
 
หลังสามีเสียชีวิต 1 วัน ดิฉันเข้าไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ธนาคารสีม่วงแจ้งว่าสามีเสียชีวิตต้องการจะปิดยอดค้างชำระบัตรเครดิต (เพราะทราบว่าถ้าชำระเลยกำหนดจะถูกปรับ)  เจ้าหน้าที่ (จนท.) ธนาคารโทรไป call center เพื่อสอบถามข้อมูลให้      จนท.call center ให้ส่งเอกสารทาง mail โดยแนบใบมรณะบัตร บัตรปชช.ของผู้เสียชีวิต และบัตรปชช.ผู้แจ้ง กลับมาทาง mail ของธนาคาร
 
หลังจากวางสาย   ดิฉันขอชำระยอดค้างบัตรเครดิตในรอบบิลนี้ จนท.ธนาคารเปิดดูข้อมูลในระบบพบว่าถูกล็อคไม่สามารถเข้าดูยอดค้างได้  เลยไม่สามารถชำระยอดที่ค้างในรอบบิลนี้ได้  (ดิฉันก็งงมากค่ะ  เรามาชำระเงินให้กลับชำระไม่ได้  จริงๆ แล้วยังไม่ควรติดต่อธนาคารเลยค่ะ  ควรรอบิลเรียกเก็บแล้วมาชำระจะดีกว่า  แต่กรณีของดิฉันไม่ทราบรอบบิล ไม่รู้ว่าจะเลยกำหนดชำระหรือยัง จึงรีบมาติดต่อธนาคารหลังสามีเสียได้ 1 วัน)
 
หลังจากส่งเอกสารต่างๆ เรียบร้อยแล้ว จนท. แจ้งว่า จะมี จนท.ที่รับผิดชอบด้านนี้ติดต่อกลับมาภายใน 3 วันทำการ     ระหว่างนี้ดิฉันยังยุ่งอยู่กับพิธีงานศพ สภาพจิตใจที่ย่ำแย่  มีลูกเล็กที่ต้องดู จนลืมเรื่องบัตรเครดิตธนาคารไปเลยค่ะ   จวบจนเวลาผ่านไป 19 วัน ก็ยังไม่มี จนท.ท่านใดโทรกลับมาติดต่อเลย (ระหว่างนี้มีบิลบัตรเครดิตธนาคารสีม่วงของสามีส่งมา เลยรีบนำไปชำระ)  จึงได้ติดต่อกลับว่ายังไม่มี จนท.คนใดติดต่อกลับมาเลยนะคะ จากนั้นไม่นานก็มี จนท.โทรมาว่าภายในอีก 3 วันทำการจะมี จนท.ที่รับผิดชอบเรื่องนี้โทรมาตามเบอร์ที่เราให้ไว้
 
ผ่านมาเป็นอาทิตย์ มี จนท.จากบริษัทเดอะคอลเลกเตอร์ โทรมาที่โทรศัพท์สามีที่เสียชีวิต ว่าต้องการปิดยอดค้างใช่ไหมค่ะ ให้ส่งเอกสารบัตรปชช.ของเราพร้อมเซ็นกำกับว่า เรายินยอมใช้หนี้แทนสามีที่เสียชีวิต พร้อมใบมรณะบัตรส่งมาให้บริษัทด้วย  ดิฉันเลยถามยอดค้างชำระที่จะปิดบัญชีบัตรเครดิตของสามี
 
จนท.บริษัทแจ้งว่ามียอดค้างชำระทั้งสิ้น 10,000 บาท ให้ส่งเอกสารมาก่อนแล้วทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการต่อไปให้  ดิฉันเลยขอถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นว่ามีอะไรบ้าง  ทาง จนท.บริษัทบอกว่าหากเราไม่มั่นใจก็ให้ไปติดต่อที่เคาร์เตอร์ธนาคารสีม่วงได้   (เราแค่อยากทราบรายละเอียดของยอดค้างชำระว่ามีอะไรบ้าง เป็นการใช้จริงหรือเปล่า)    จนท.บรษัทแจ้งว่าเขาไม่สามารถดูรายละเอียดได้ดูได้แต่ยอดค้างชำระ    ให้ add line หัวหน้าของเขาเพื่อให้เราไปสอบถามข้อมูลต่ออีกที   ดิฉันก็ add line ทักหัวหน้าไปในอีกวัน  หัวหน้าตอบกลับมาว่าให้ติดต่อมาใหม่พรุ่งนี้ (เป็นวันอาทิตย์วันหยุด เข้าใจได้ค่ะ)  จนผ่านมาถึงวันพุธก็ไม่มีใครทักมาดิฉันเลยเขียนทักหัวหน้าไปอีกครั้ง สรุปว่าเขาจะให้ลูกน้องติดต่อกลับมาหาดิฉันอีกครั้ง 
 
จนท.บริษัทเดอะคอลเลกเตอร์โทรกลับมาแต่ก็ตอบเหมือนเดิมให้ส่งเอกสารมา หรือถ้าไม่มั่นใจก็ไปติดต่อที่สาขาธนาคารได้
 
เอาจริงๆ นะคะ ดิฉันไม่มั่นใจจนท.บริษัทเดอะคอลเลกเตอร์ที่โทรมา เพราะไม่ได้โทรมาที่เบอร์ที่ดิฉันให้ไว้ กลับโทรเข้าโทรศัพท์สามีที่เสียชีวิต  ดิฉันก็กลัวจะเป็นพวกมิจจฉาชีพ  เลยไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ธนาคารสีม่วงอีกครั้งขอชำระยอดที่ค้างของบัตรเครดิต  จนท.เปิดข้อมูลพบว่าถูกล็อคโดยระบบว่า เสียชีวิต เข้าดูใดๆ ไม่ได้  จนท.เลยติดต่อไปที่คอลเซ็นเตอร์เพื่อถามยอดค้างชำระและรายละเอียดที่เกิดจากใช้บัตร  แต่จนท.คอลเซ็นเตอร์ไม่แจ้งกับจนท. จะขอคุยกับดิฉัน  พอคุยกับดิฉันก็ไม่แจ้งค่ะ บอกแต่ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านนี้โทรมาหาภายใน 3 วันทำการ (ดิฉันก็เลยเล่าให้ฟังว่าได้ติดต่อกลับไปแล้วและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ จนท.คอลเซ็นเตอร์ฟัง...............ดิฉันถามว่าจะใช่ จนท.บริษัทเดอะคอลเลกเตอร์อีกหรือเปล่าที่โทรมา  เพราะถ้าใช่ก็จะไม่ได้คำตอบว่ายอดที่ค้างชำระเกิดจากอะไร)  จนท.คอลเซ็นเตอร์แจ้งว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบด้านพัฒนาสินเชื่อของธนาคารโทรมา  ดิฉันบอกว่าดิฉันไม่ไหวแล้วนะคะนี้ผ่านมา 1 เดือนกับ 3 วันแล้ว ดิฉันเอาเงินมาให้นะคะ มาปิดยอดแทนคนตายนะคะ ผ่านมาตั้งนานยังทำอะไรไม่ได้เลย เสียเวลามากกกกกกกกกก  เสียใจอยู่นะคะสามีตายนะคะ  มีลูกเล็กที่ต้องดูแลนะคะ   ยังต้องมาวุ่นวายกับระบบธนาคารสีม่วงที่หัวหน้าองค์กรวางระบบได้แย่มากกกกอีกเหรอค่ะ
 
อีกสักพักก็มี จนท.โทรมาคุย สรุปว่าจะส่งต่อให้ จนท.ที่รับผิดชอบด้านนี้โทรมาอีกที  แหละก็เป็น จนท.จากบริษัทเดอะคอลเลกเตอร์คนเดิมค่ะ  แจ้งว่าได้ไปดูยอดค้างชำระล่าสุดแล้วคงค้างที่ 7,306.45 บาท   อ้าว! ยอดไม่เหมือนเดิมอีกค่ะ  (คุณจะบอกยอดค้างเท่าไหร่ก็ได้ใช่ไหมค่ะ)   ขอทราบรายละเอียดได้ไหม  เหมือนเดิมค่ะ จนท.บริษัทเดอะคอลเลกเตอร์บอกว่าจะต้องรายงานไปที่หัวหน้าของเขา (ท่ี่ดิฉันติดต่อผ่านไลน์ไป ก็ไม่เห็นจะทำอะไร) เพื่อให้หัวหน้าส่งต่อเรื่องไปยังสำนักงานใหญ่ของธนาคารสีม่วงเพื่อขออนุมัติการดูรายละเอียดการค้างชำระของผู้เสียชีวิต ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนนะคะ  แต่ถ้าปิดยอดตอนนี้ก็จะเป็นยอดที่แจ้งเลยค่ะ   ....คุณผู้อ่านเข้าใจอารมณ์ดิฉันไหมค่ะว่าตอนนี้ดิฉันรู้สึกอย่างไร....
 
 
สามีที่เสียชีวิตมีบัตรเครดิต 2 ใบจากธนาคารกสิกรอีกใบ (ขอเอ่ยชื่อธนาคารเลยนะคะ เพราะประทับใจมากกกก)  ดิฉันติดต่อขอปิดบัตรเครดิตโดยโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร  จนท.คอลเซ็นเตอร์แจ้งว่าให้ไปติดต่อที่สาขาโดยนำสำเนาใบมรณะบัตรไปด้วย แต่ทั้งนี้ัในเบ่ื้องต้นบัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตได้ถูกระงับไว้ให้แล้ว     จากนั้นดิฉันก็ไปติดต่อที่สาขาธ.กสิกร  จนท.แจ้งว่าไม่มียอดค้างชำระใดๆ  บัตรเครดิตมียอดคะแนนสะสมจากบัตรคงเหลือ และมีการชำระเงินเกิน จะทำการเปลี่ยนคะแนนสะสมและเงินที่ชำระเกินให้เข้าบัญชีของสามีให้ เป็นอันเรียบร้อยของบัตรเครดิตค่ะ  จนท.ยังแนะนำว่าหากมีคำสั่งศาลให้ใครเป็นผู้จัดการมรดก ค่อยมาทำเรื่องที่ธนาคารอีกครั้งเพื่อมารับเงินที่อยู่ในบัญชีของสามีที่เสียชีวิตค่ะ ......ประทับใจมากกกกกกกค่ะ สุดยอดธนาคารในดวงใจเลยค่ะ  ติดต่อไม่ถึง 1 ชั่วโมง เสร็จทุกอย่าง..................แนะนำเลยนะคะ  ทำบัตรเครดิตกับธนาคารกสิกรรับรองถ้าผู้ถือบัตรตาย ญาติคนใกล้ชิดจะไม่ลำบากติดต่อเอกสารใดๆ ค่ะ.....
 
 
 
สรุปธนาคารสีม่วงนะคะ    ผ่านมา 1 เดือนกับอีก 3 วัน ยังไม่สามารถปิดยอดบัตรเครดิตของธนาคารสีม่วงได้เลยนะคะ  ไม่ทราบรายละเอียดของการใช้บัตรของสามีที่เสียชีวิตว่าใช่ยอดที่ใช้จริงหรือไม่ (ทำไมแจ้งยอด 2 ครั้งไม่เท่ากันค่ะ มีลับลมคมในอะไรค่ะ  ทำให้ยิ่งต้องทราบเลยนะคะว่ายอดค้างเกิดจากอะไร)  ทราบแต่ยอดที่ต้องจ่าย
 
ดิฉันไม่โอเคเลยนะคะ ขอสอบถามผู้รู้นะคะ
1. ทางธนาคารสีม่วงจะแจ้งยอดมาอย่างเดียวโดยไม่บอกรายละเอียดการใช้บัตรของผู้ตายได้เหรอค่ะ   
2. หากชำระเงินเกินกำหนด  ดิฉันจะถูกเสียค่าปรับไหมค่ะ
3. ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
บทสรุปผู้บริหาร  (ก็อปปี้ให้ ผบห. คุณดูก็ได้นะถ้าไม่ค่อยมีเวลา)

สรุปปัญหาทั้งหมดเกิดจาก พอเจ้าของบัตรเสียชีวิต จขกท. จึงรีบแจ้งธนาคารทันทีตามหน้าที่

พอ จนท. ธนาคารทราบเรื่องก็เปลี่ยนสถานะเจ้าของบัญชีเป็นเสียชีวิต

ระบบจึงล็อคบัญชีทันที ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าดูยอดค้างอะไรได้

แถมยังส่งต่องานเรียกเก็บไปให้เอ้าท์ซอร์สที่มีแค่ตัวเลขยอดค้างชำระ

ซ้ำร้าย ทุกครั้งที่ติดต่อธนาคาร จนท. ไม่มีการติดต่อกลับมา

ต้องตามทวงถามเองทุกครั้งจนเวลาล่วงเลยมาถึง 1 เดือน



จุดบอดของกระบวนการนี้คือเอ้าท์ซอร์สสามารถแจ้งยอดเองได้ตามใจชอบและไม่สามารถตรวจสอบได้

ในเคสนี้คือแจ้งยอด 2 ครั้งไม่ตรงกัน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการทุจริตเกิดขึ้น

เอ้าท์ซอร์สสามารถโยนปัญหาได้โดยแจ้งให้ลูกค้าไปถามจากเค้าเตอร์ธนาคารเอาเอง

ซึ่งเค้าเตอร์ธนาคารไม่มีข้อมูลให้ดูอยู่แล้ว เพราะเคสเสียชีวิตธุรกรรมน่าจะโดนล็อคหมด

รวมกระทั่งการเรียกดูยอดค้างชำระ ซึ่งอาจจะต้องใช้สิทธิ์ของ จนท. ระดับสูงขึ้นไปเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 3
ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งแพนิค ใส่ความใครใดๆ อย่าเพิ่งตื่นเต้นมาก เข้าใจว่าคุณสูญเสีย ... เสียใจด้วย
แต่มันไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก
1. การสอบถามยอดค้างชำระ สอบถามจาก call center ได้ โดยการเอาข้อมูลบัตรเครดิต เตรียมบัตรประชาชนสามีไว้ให้พร้อม เพื่อกดรหัส (มีบัตรของสามีใช่มั้ย) สอบถามธรรมดา จะง่าย ยิ่งบอกว่าสามีตาย ระบบจะยิ่งยุ่งยาก เพราะระบบเค้ายิ่งตรวจสอบอีกหลายรอบ กว่าจะยืนยันตัวตนคุณว่าเกี่ยวข้องกับเจ้าของบัตรจริงๆ ไม่ใช่มิจฉาชีพ
2. App ธนาคารในมือถือสามี ไม่มีหรือ หรือเข้าไม่ได้
3. รอใบแจ้งหนี้แล้วจ่าย ก็ยังทันเวลาอยู่ หรือว่าไม่รู้ว่าใบแจ้งนี้จะมาทางไหน

อย่าเพิ่งโวยวายคนอื่น ตั้งสติ ใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำทีละเรื่อง แล้วคุณจะรู้ว่า ไม่มีใครเค้าอยากโกงคุณหรอก  ... ตั้งสติใหม่ ขอให้ทุกอย่างเรียบร้อยไปด้วยดี
ความคิดเห็นที่ 20
สรุปคือ คนจะเอาเงินไปใช้หนี้ให้ แต่ ธนาคารซึ่งรวยมากแล้ว ไม่อยากรับ ไม่มีความพยายามที่จะให้ลูกค้าชำระเงิน การโยนงานไปให้บริษัทฯนอก เพื่อให้ลูกค้าต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทำแบบนี้ทำไม ในเมื่อลูกค้าไม่ได้ผิดนัดชำระ และ ต้องการจะชำระเงิน แต่พนักงานดันโยนงานไปให้บริษัทฯ เร่งรัดหนี้สิน
ความคิดเห็นที่ 16
จากที่ได้อ่านผู้เข้ามาตอบกระทู้  ขอขอบคุณจากใจนะคะที่พวกคุณตั้งใจพิมพ์อธิบายมาให้ดิฉันอ่าน

* สามีดิฉันไม่มีแอปค่ะ
* แว๊บแรกของดิฉันที่คิดได้ในตอนนั้น คือ ต้องรีบติดต่อเคลียร์หนี้ให้หมดค่ะ และควรแจ้งให้เจ้าหนี้ทราบว่าผู้ถือบัตรเสียชีวิต ทางธนาคารจะได้รีบ
   เคลียร์บัญชีค้างชำระ ดิฉันจะได้ทราบยอดหนี้ทั้งหมดและวางแผนชำระหนี้  เมื่อจบภาระหนี้แล้วดิฉันจะได้มีเวลาไปคิดเรื่องทำมาหากินเลี้ยงลูก
   บ้างค่ะ
* ดิฉันก็เป็นคุณป้าที่ไม่ค่อยทันเทคโนโลยีค่ะ กลัวว่าหากไม่ปิดบัตรเครดิต แล้วอยู่ๆ เกิดมียอดค่าใช้จ่ายขึ้นมา ดิฉันต้องมานั่งเสียเวลาทำมาหากิน
   เพื่อไปตามสืบยอดที่เกิดขึ้นอีกค่ะ
* ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะออกมาโวยวาย ใส่ความใดๆ กับทางธนาคารสีม่วงเลยนะคะ  ทุกอย่างคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
   ดิฉันยังแจ้งกับจนท.ว่า ดิฉันไม่ได้ต่อว่าคุณนะคะ  ดิฉันเข้าใจคุณค่ะว่าคุณทำตามหน้าที่ แต่ช่วยนำเทปบันทึกเสียงที่อัดไว้ขณะคุณตอบคำถาม
   ดิฉัน เอาไปให้ผู้บริหารของธนาคารทราบได้ไหมค่ะว่า ระบบการทำงานแบบนี้ไม่โอเคเลยค่ะ

   ดิฉันต้องขอโทษหากผู้ที่เข้ามาอ่านเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารสีม่วง หรือบุคคลอื่นๆ ที่อ่านแล้วไม่พอใจ  ดิฉันไม่มีเจตนาจะต่อว่าเจ้าหน้าที่เลยนะคะ
มีแต่แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าดิฉันเข้าใจว่าคุณทำตามหน้าที่ ขอให้จนท.สะท้อนปัญหาไปถึงผู้บริหารว่า "คนที่มาชำระเงินแทนผู้ตาย แค่ต้องการอยากทราบรายละเอียดยอดค้างชำระว่าเกิดจากการใช้จ่ายอะไร เป็นยอดที่ไม่ได้เมคขึ้นมาใช่ไหม " ขอทำงานเร็วๆ กว่านี้ได้ไหมเท่านั้นเองค่ะ

   ตอนนี้ดิฉันไม่รู้ว่าหลังจากนี้ใบแจ้งหนี้จะยังส่งมาหรือไม่ (ไม่อยากโทรติดต่อใดๆ กับใครแล้วค่ะ เหนื่อยมากกกก อยากเอาเวลาไปคิดทำมาหากินเลี้ยงลูกแล้วค่ะ)
  
   ขอสอบถามผู้รู้นะคะ
   1. มีใบแจ้งหนี้ส่งมา --> ดิฉันจะไปชำระให้สามีค่ะ (เพราะมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายว่าเกิดจากอะไร)
   2. หากไม่มีใบแจ้งหนี้ส่งมา
       2.1 ควรทำอย่างไรต่อไปค่ะ
       2.2 หากมีดอกเบี้ยที่ผิดนัดชำระ จะต้องเสียไหมค่ะ

   ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ช่วยมาให้ความกระจ่างด้วยนะคะ
ความคิดเห็นที่ 12
ผมเห็นมาหลายครั้งแล้ว  จนท สถาบันการเงินหลายๆที่ มีความรู้มาก  แต่ไม่ค่อยมีจินตนาการเลย เอาตามระเบียบที่วางไว้เป๊ะๆ ไม่สนไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นกลัวมีปัญหากับคะแนน KPI

ในกรณีนี้ ถ้ามีจินตนาการที่ดีกว่านี้   จนท ควรจะสังเกตุเห็นว่า จขกท เพิ่งสูญเสียสมาชิกในครอบครัว เขาก็รีบประสานงานติดต่อหน่วยงานรัฐ(เขต/อำเภอ) และรีบประสานงาน สถาบันการเงิน และ/หรือ บริษัทอื่น(ถ้ามี) เพื่อที่จะดำเนินอะไรที่มีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อที่จะเคลียร์ภาระที่คงค้างกันให้เสร็จสิ้น  (ตามที่อ่านมาแจ้ง 1 วัน หลังจากสามีเสียชีวิต........แสดงให้เห็นเจตนาของความรับผิดชอบ)

จนท ธนาคาร ก็ทำตามระเบียบการที่ธนาคารตั้งไว้  โดยระเบียบที่กำหนดไว้ก็เป็นระเบียบที่เคร่งครัดที่ใช้กับเหตุที่เกิดทุกสถานการณ์  ไม่ว่าญาติผู้สูญเสียจะรีบติดต่อเข้ามา(ภายใน 1 วัน) หรือ ญาติผู้สูญเสีย(กรณีอื่น) จะติดต่อเข้ามาช้าหรือไม่ติดต่อปล่อยทิ้งไป ทางธนาคารก็ทำตามระเบียบเดียวกัน ล๊อคข้อมูลลูกค้าส่งบัญชีลูกค้าไปยังเอาท์ซอร์ท ปัดความเสี่ยงของตัวธนาคารออกไปเสีย

ถ้าจนท มีจินตนาการมากกว่านี้หน่อย จนทควรจะประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันทีตามเรื่องเลย  จขกท แจ้ง ว่า 1 เดือน กับ 3 วันแล้วยังปิดยอดไม่ได้   จนท ธนาคารควรจะรีบ ประสาน supervisor on duty ให้ตามเรื่องให้ลูกค้าเลย แล้วควรจะเป็นฝ่ายติดต่อกลับหาลูกค้าเอง รีบช่วยดำเนินการให้เขา ไม่ใช่โยนไปโยนมา ให้ลูกค้าเขาตามเรื่องเอง แล้วก็ไม่มีความคืบหน้า  พวกคุณสามารถใช้ช่องทางหลังบ้านประสานเรื่องได้ดีและเร็วกว่าลูกค้า ก็น่าจะเป็นฝ่ายรีบดำเนินการเองเลย ตามเองเลย ถ้าบัญชีถูกขายไปยังเอ้าท์ซอร์ซก็ใช้ช่องทางหลังบ้านตามดูและเอายอดพร้อมรายละเอียดมา ประสานกลับหาลูกค้า ลูกค้าได้ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดเขาก็ดำเนินชำระปิดบัญชี ก็จบกันไป ได้ความรู้สึกดีๆกับธนาคารกลับคืนมา

ตอนนี้ธนาคารก็สูญเสียลูกค้าไปอีกคน สูญเสียไปหนึ่งคนอาจจะไม่มากแต่สูญเสียก็คือเสียหาย   1 คนที่สูญหายวันนี้อาจจะเพิ่มเป็น 10 เป็นร้อยได้ในวันข้างหน้า

ส่วนเจ้าของกระทู้
ก็ขอแสดงความเสียใจ ต่อการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวด้วยครับ
ในส่วนที่ยังไม่สามารถดำเนินการปิดบัญชีกับทางธนาคารได้นั้น ขอเห็นใจและเป็นกำลังใจให้สามารถรีบดำเนินการปิดยอดปิดบัตรอะไรก็แล้วแต่ให้เสร็จสิ้นภายในเร็ววัน จะได้ไม่ต้องมานั่งห่วงอะไรภายหลัง

ถ้าเป็นผมนะ มีลูกหนี้มาจะชำระเงิน ผมจะรีบดำเนินการให้ทันทีเลยไม่รีรอไม่โยกเย้อะไรไม่ต้องให้ใครรอการติดต่อกลับ เรื่องนี้มันดีแค่ไหนแล้ว
หรือชอบแบบต้องไปตามเอากับลูกหนี้ที่เพิกเฉยไม่สนใจ ตามไปตามมาสุดท้ายก็เป็นหนีสูญ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่