พึ่งทำงานได้2ปี 1เดือนแต่รู้สึกเครียดกับแผนเกษียณทุกวันเราคิดมากไปไหมคะ

เราทำงานรับราชการค่ะ เงินเดือนก็พออยู่ได้ ไม่มากไม่น้อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนที่ลาออกไปทำเอกชนถือว่าน้อยมากๆถึงมากที่สุดเลยค่ะ เราไม่รับจ๊อบทำงานเสริมด้วย เงินที่ได้คือเงินเดือนกับเบี้ยเลี้ยงแค่นั้น

เราใช้เงินเก็บ2ปีของเราซื้อบ้านเพื่อปล่อยเช่าไปหมดแล้ว ตอนนี้ไม่เหลือเงินเก็บเลย กำลังจะเริ่มเก็บเงินใหม่ +อาจจะต้องกู้เงินมารีโนเวทบ้านพ่อกับแม่อีกก้อนหนึ่ง พอคิดไปคิดมาก็เริ่มเครียดทำไมการจะเก็บเงินมันยากจัง เห็นเพื่อนที่ทำเอกชนเขาชีวิตดีไปเที่ยวต่างประเทศทุกเดือนแล้วก็ท้อใจ

ส่วนตัวเราคิดว่าคงจะโสดไม่มีลูกมีหลานตลอดไป อายุราชการเหลืออีก 33ปี แผนเกษียณที่คิดว่าทำสำเร็จแน่ๆคือเงินกบข. 5ล้าน เงินเก็บ6ล้าน บำนาญประมาณ35000 บ้านคงอยู่บ้านเก่าพ่อแม่ต่อไปไม่ซื้อใหม่ คิดๆดูแล้วก็น่าจะพออยู่พอกินได้หลังเกษียณ แต่ก็กลัวค่าเงินมันจะลดจนเงินมันไม่พอใช้ ความเครียดเรื่องที่ว่าเกษียณไปจะอยู่ได้ไหมคุณภาพชีวิตจะเป็นยังไงวนอยู่ในหัวทำยังไงก็สลัดไม่หลุดสักที ไปคุยกับใครเขาก็บอกเราคิดมากไป ให้เลิกคิด แต่ทำยังไงก็เลิกคิดไม่ได้ ควรจะจัดการตัวเองยังไงดีคะ

ปล.ยอมรับว่าที่เครียดเพราะส่วนหนึ่งเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนกับน้องที่ออกไปทำเอกชนหรือรับจ๊อบเอกชนเพิ่มด้วยค่ะเพราะพวกเขารายได้เยอะกว่าเรา2-3เท่าเป็นอย่างต่ำเลย แต่โดยส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบวิชาชีพที่ทำอยู่เท่าไหร่ค่ะ เลยไม่คิดจะไปทำงานวิชาชีพนี้เพิ่ม แค่รับราชการก็เต็มกลืนแล้ว บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าตอนนั้นที่เรียนเครียดๆลาออกสอบชิงทุนไปอยู่ต่างประเทศเหมือนอดีตเพื่อนร่วมคณะชีวิตก็คงดีกว่านี้😓
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
คุณครับ  ฟังเรื่องของผมนะครับเผื่อจะสบายใจขึ้น

ผมทำงานเป็นอาจารย์ในคณะแพทย์  นอกเหนืองานสอนก็ต้องทำงานบริการด้วย ในสาขาที่ขาดแคลน  เงินเดือนคงที่ไปหกปีครึ่งจากการไปศึกษาต่อ  ไม่ทำตำแหน่งวิชาการ ถูกกดดันเหมือนกัน  แต่ไม่สนใจเท่าไร เพราะสาขาของผมต้องการคนทำงานบริการเฉพาะ  ไม่ทำเอกชน รายได้มาจากเงินเดือนและเงินเพิ่มพิเศษตามระเบียบราชการ  จนกระทั่งเกษียณตัวเองออกมา  ได้เงินปิดหนี้บ้าน  บำนาญแค่สองหมื่นกว่า  มีเงินปันผลที่ทยอยลงทุนระหว่างทำงานอีกแค่ประมาณเเฉลี่ยดือนละหมื่นกว่าๆ  อยู่คนเดียวก็สบายดี  ได้อ่านหนังสือ ดูหนังดูทีวี  ไม่ชอบไปเที่ยวไหนเพราะใช้ชีวิตต่างประเทศมาแล้ว ไม่มีเวลาเอาตัวไปเปรียบเทียบกับใคร  หาความตื่นเต้นทางอารมณ์จากหนัง ละคร และ pantip  และทะเลาะกับสุนัขที่เลี้ยงไว้หลายๆตัว  โรคประจำตัวก็จัดการเองขี้เกียจไปโรงพยาบาล  ยอมซื้อยากินเองไม่เบิกค่ารักษา  มีความสุขและพอใช้จ่าย  

ตอนนี้ห่วงอย่างเดียวคือถ้าเป็นอะไรไปแล้วบรรดาลูกๆของผมจะอยู่อย่างไร เลยต้องรักษาสุขภาพเอาไว้

ส่วนหนึ่งที่อยู่ได้ดี เพราะความต้องการของผมไม่เกินรายได้ที่รับด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่