เหตุการณ์เกิด 2 มิ.ย.65 รถเรา มิตซู x-pender รถเขา โตโยต้า vevo ชนกัน ประมาณ 20.00 น.
เราเป็นฝ่ายถูก เรียกประกันมาคุยกัน ของเราเป็น 2++ (ทุนประกัน 1 แสน) ของ เทเว....... ของเขาเป็นชั้น 1 ของไทยวิ........
เขาซื้อประกันผ่านโปรเกอร์ ณ วันที่เกิดเหตุการณ์ เลขประกันของระบบไทยวิ.......ยังไม่ออก
เราเลยเลือกที่จะซ่อมประกันของเรา แต่ก็ได้ไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ ว่าจะเรียกร้องสิ่งต่างๆภายหลัง
โดยให้ทางเซอร์เวย์ประกันช่วยดูสภาพรถให้ การซ่อมน่าจะอยู่ที่ 4-5 หมื่นบาท แต่ บังโคลนหน้า
มันติดซุ้มล้อ เลยเลือกที่จะให้ให้ทางประกันลากรถเข้าอู่ ใกล้บ้านให้
จากนั้น วันที่ 3 มิ.ย. ไปยื่นเอกสารที่อู่ รถยังมาไม่ถึง แต่ก็ได้โทรประสานตลอด เห็นว่าจะ จะมาช่วงบ่าย
ประสานอู่ทุกสัปดาห์ รายงานความคืบหน้า รื้อ และสั่งอะไหล่ (บ.เทเว.....ให้ทางอู่จัดการสั่งเอง) จนประมาณวันที่
21 มิ.ย. ทางอู่ประสานว่า เริ่มเกินทุนประกันแล้ว เลยประสานทาง บ.เทเว เพื่อดำเนินการยกเลิกการซ่อมกับประกัน
เราไป ใช้ ประกัน เขา เราก็เร่งดำเนินการ ไปยื่นวันที่ 23 มิ.ย. อนุมัติกลับมาประมาณ 27 มิ.ย. บ.ก็เอาเอกสารไปให้ทางอู่
ดำเนินการต่อ (เป็นอู่ในสัญญา ของทั้ง 2 บริษัท จึงให้ดำเนินการซ่อมต่อเนื่องเลย)
จนดำเนินการซ่อมเสร็จ ประมาณ 19 ส.ค.65
ทางอู่ ได้ ทำ ไปใบเข้าอู่เป็น 2 ใบ คือ ของเทเว เริ่มรับ 7/06 (เขาแจ้งว่า เนื่องจากช่วงนั้นเป็นวันหยุดยาว เลยนับวันรับรื้อซ่อม)
และของ ไทยวิวัฒน์ 4/7 รับรถ 19/08
หลังจากนั้นมีการจอดรถ ช่วงวันที่ 23-24 เนื่องจากงานไม่เรียบร้อย (กระโปรงหน้ารถไม่เข้ารูป)
ช่วงวันที่ 22 ส.ค. ได้มีการทำเอกสารเพื่อยื่นค่าขาดผลประโยชน์ โดยนับวันจอดรถจริง 77 วันๆละ 500 บาท 38,500 บาท และค่าเสื่อมราคารถ อีก 15,000 บาท ระบุ ความลำบาก และรถพึ่งอายุการใช้งาน 2 ปีกว่าๆ
ทางบริษัทติดต่อมา เป็น sms โดยให้ยื่นยัน
ครั้งแรก วันที่ 29.08 เสนอ มาที่ 10,000 บาท
ครั้งที่ 2 วันที่ 30.08 เสนอ มาที่ 15,000 บาท
ครั้งที่ 3 วันที่ 08.09 เสนอ มาที่ 15,000 บาท เช่นเดิม
วันนี้ 15 ก.ย. ได้มีเจ้าหนี้ที่โทรมาต่อรอง ว่าให้ได้ ที่สูงสุด 45 วันๆละ 500 บาท นับเฉพาะ ที่เป็นของไทยวิ..... เราเลยบอกว่า พี่จอดจริงอยู่ที่ 70 กว่าวัน ถ้าน้องต่อรอง พี่ก็ได้ แค่ 30,000 บาท เพราะช่วงนั้นพี่ก็ลำบากจริงๆ และไม่ได้ใช้รถจริงๆ เขาเลยแจ้งกลับมาว่า เดี๋ยวเขาจะเขียนชี้แจงส่งเข้า mail กลับมา
คำถามที่จะถามเพื่อนๆ ว่า สิ่งที่เราควรที่จะได้รับ/ตามเหตุสมควร มาตรฐาน แล้ว เราต้องได้เท่าไหร่คะ (เราพิจารณา ตามเหตุผล แล้ว วันละ 500 บาท ก็ตามมาตรฐาน ของ คปภ. แล้ว ส่วนจำนวนวัน เราก็พยายามคิดแทนแล้ว ว่า ถ้าทางบ.ไทยวิ...คิดว่า จะเอาเฉพาะช่วงเวลาเขา เลย ก็ไม่น่าจะถูก เพราะช่วงแรก ก็ต้องมีการื้อเครื่องเพื่อตรวจสอบ โน้น นี้ นั้น) 30,000 บาท มาก หรือ น้อยไปไหมคะ แล้วต่อไป ต้องไปไกล่เกลี่ย ต่อ ที่ คปภ. ใช่ไหมคะ
ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม เคส เราเป็นฝ่ายถูก เดิมซ่อมประกันเรา แต่เกินประกันเรา แล้วไปขอใช้ประกันเขา
เราเป็นฝ่ายถูก เรียกประกันมาคุยกัน ของเราเป็น 2++ (ทุนประกัน 1 แสน) ของ เทเว....... ของเขาเป็นชั้น 1 ของไทยวิ........
เขาซื้อประกันผ่านโปรเกอร์ ณ วันที่เกิดเหตุการณ์ เลขประกันของระบบไทยวิ.......ยังไม่ออก
เราเลยเลือกที่จะซ่อมประกันของเรา แต่ก็ได้ไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ ว่าจะเรียกร้องสิ่งต่างๆภายหลัง
โดยให้ทางเซอร์เวย์ประกันช่วยดูสภาพรถให้ การซ่อมน่าจะอยู่ที่ 4-5 หมื่นบาท แต่ บังโคลนหน้า
มันติดซุ้มล้อ เลยเลือกที่จะให้ให้ทางประกันลากรถเข้าอู่ ใกล้บ้านให้
จากนั้น วันที่ 3 มิ.ย. ไปยื่นเอกสารที่อู่ รถยังมาไม่ถึง แต่ก็ได้โทรประสานตลอด เห็นว่าจะ จะมาช่วงบ่าย
ประสานอู่ทุกสัปดาห์ รายงานความคืบหน้า รื้อ และสั่งอะไหล่ (บ.เทเว.....ให้ทางอู่จัดการสั่งเอง) จนประมาณวันที่
21 มิ.ย. ทางอู่ประสานว่า เริ่มเกินทุนประกันแล้ว เลยประสานทาง บ.เทเว เพื่อดำเนินการยกเลิกการซ่อมกับประกัน
เราไป ใช้ ประกัน เขา เราก็เร่งดำเนินการ ไปยื่นวันที่ 23 มิ.ย. อนุมัติกลับมาประมาณ 27 มิ.ย. บ.ก็เอาเอกสารไปให้ทางอู่
ดำเนินการต่อ (เป็นอู่ในสัญญา ของทั้ง 2 บริษัท จึงให้ดำเนินการซ่อมต่อเนื่องเลย)
จนดำเนินการซ่อมเสร็จ ประมาณ 19 ส.ค.65
ทางอู่ ได้ ทำ ไปใบเข้าอู่เป็น 2 ใบ คือ ของเทเว เริ่มรับ 7/06 (เขาแจ้งว่า เนื่องจากช่วงนั้นเป็นวันหยุดยาว เลยนับวันรับรื้อซ่อม)
และของ ไทยวิวัฒน์ 4/7 รับรถ 19/08
หลังจากนั้นมีการจอดรถ ช่วงวันที่ 23-24 เนื่องจากงานไม่เรียบร้อย (กระโปรงหน้ารถไม่เข้ารูป)
ช่วงวันที่ 22 ส.ค. ได้มีการทำเอกสารเพื่อยื่นค่าขาดผลประโยชน์ โดยนับวันจอดรถจริง 77 วันๆละ 500 บาท 38,500 บาท และค่าเสื่อมราคารถ อีก 15,000 บาท ระบุ ความลำบาก และรถพึ่งอายุการใช้งาน 2 ปีกว่าๆ
ทางบริษัทติดต่อมา เป็น sms โดยให้ยื่นยัน
ครั้งแรก วันที่ 29.08 เสนอ มาที่ 10,000 บาท
ครั้งที่ 2 วันที่ 30.08 เสนอ มาที่ 15,000 บาท
ครั้งที่ 3 วันที่ 08.09 เสนอ มาที่ 15,000 บาท เช่นเดิม
วันนี้ 15 ก.ย. ได้มีเจ้าหนี้ที่โทรมาต่อรอง ว่าให้ได้ ที่สูงสุด 45 วันๆละ 500 บาท นับเฉพาะ ที่เป็นของไทยวิ..... เราเลยบอกว่า พี่จอดจริงอยู่ที่ 70 กว่าวัน ถ้าน้องต่อรอง พี่ก็ได้ แค่ 30,000 บาท เพราะช่วงนั้นพี่ก็ลำบากจริงๆ และไม่ได้ใช้รถจริงๆ เขาเลยแจ้งกลับมาว่า เดี๋ยวเขาจะเขียนชี้แจงส่งเข้า mail กลับมา
คำถามที่จะถามเพื่อนๆ ว่า สิ่งที่เราควรที่จะได้รับ/ตามเหตุสมควร มาตรฐาน แล้ว เราต้องได้เท่าไหร่คะ (เราพิจารณา ตามเหตุผล แล้ว วันละ 500 บาท ก็ตามมาตรฐาน ของ คปภ. แล้ว ส่วนจำนวนวัน เราก็พยายามคิดแทนแล้ว ว่า ถ้าทางบ.ไทยวิ...คิดว่า จะเอาเฉพาะช่วงเวลาเขา เลย ก็ไม่น่าจะถูก เพราะช่วงแรก ก็ต้องมีการื้อเครื่องเพื่อตรวจสอบ โน้น นี้ นั้น) 30,000 บาท มาก หรือ น้อยไปไหมคะ แล้วต่อไป ต้องไปไกล่เกลี่ย ต่อ ที่ คปภ. ใช่ไหมคะ