เสียเพื่อน เพราะเรื่องเงินๆ เข้ามาอ่านช่วยให้คำปรึกษาหน่อยครับ🙏🏻🙏🏻

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปี 62 ผมย้ายที่ทำงาน แล้วไปเจอเพื่อนคนนึง บ้านอยู่อำเภอเดียวกัน เคยรู้จักกันแต่ไม่ได้สนิทกัน หลังมาทำงานที่เดียวกันได้1เดือน ผมต้องย้ายสาขา แต่ก่อนหน้านี้เค้ารู้ว่าผมมีบัตรเครดิตเลยทักมาขอยืมบัตรเครดิตผ่อนทองให้คนที่บ้าน 1 เส้น 10 เดือน ตอนนั้นไม่คิดอะไรมาก และนิสัยขี้เกรงใจ เลยตอบตกลง ก็รอวันที่หยุดงานพร้อมกันเพราะตอนนั้นอยู่กันคนละสาขาแล้ว เค้าก็มาให้ผมพาไปร้านทองเพื่อใช้บัตรผมรูดผ่อนทอง10 เดือน จากนั้นเค้าก็ผ่อนให้ทุกเดือน ตรงตลอด แต่พอเข้าเดือนที่8เค้าบอกว่าหากเส้นนี้ผ่อนเสร็จขอผ่อนอีกเส้น ตอนนั้นในใจก็เริ่มไม่โอเคแล้ว เพราะตลอดที่ผ่านมาก็ลุ้นตลอดว่าเค้าจะผ่อนให้ตรงมั้ย มันรู้สึกบัตรเราแต่เราไม่ได้เป็นเจ้าของ พอผ่อนทองเส้นแรกเสร็จเค้าก็ขอเส้นที่สองต่อเลยจริงๆ และขอให้ผมไปร้านทอง ไปรูดบัตรให้เลย โดยถ่ายรูปลายเส้นให้เค้าดูว่าจะเลือกลายไหน ผมก็ทำให้ แล้วบอกช่วยส่งไปรษณีก็ส่งให้อีก จากนั้นเค้าก็ผ่อนตรงมาตลอด แต่ความรู้สึกที่ว่าต้องลุ้นทุกเดือนว่าเค้าจะโอนตังค์มาให้มั้ย และบัตรมันเป็นของเรา แต่เรากลับไม่ได้ใช้เต็มที่ก็อยู่ในหัวตลอด แต่ยังติดที่รู้สึกเกรงใจ ซึ่งไม่รู้จะเกรงใจไปทำไม เพราะงานก็ทำคนละสาขา หลังจากนั้นผ่อนเส้นที่สองครบ 10 เดือน เว้นช่วง1-2เดือนเค้าก็ทักมาอีก รอบนี้ขอผ่อน 2 เส้น ให้เราถ่ายรูปลายที่ร้านทอง ส่งไปรษณีย์ไปให้เหมือนเดิม เราก็นิสัยเดิม เกรงใจพูดปฏิเสธไม่เป็น ก็ให้ไปอีก และก็ทุกใจเหมือนเดิมอีก จนเค้าผ่อนครบสองเส้นรอบนี้ เราคิดว่าคงจบแล้วแหละ แต่เปล่าเลย อีกสักพัก ทักมาจะขอบัตรไปผ่อนตู้เย็นให้ป้า ผมเลยรวบรวมความกล้าปฏิเสธไปว่า เด่วเราต้องเอาบัตรให้พี่ผ่อนของเหมือนกัน เค้าก็ตอบว่าไม่เป็นไร แต่หลังจากนั้นเค้าก็มีทักมายืมเงินประปราย ผมให้ยืมบ้าง ไม่ให้บ้างหากเค้ายืมหลายพัน หลังจากนั้นเค้าก็หายไปเกือบปีไม่ยืมบัตร ไม่ยืมเงิน คุยแชทกันปกติไม่มีปัญหา จนผมลาออกจากที่ทำงานกลับบ้านมาเปิดร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง เค้าก็ทักมาบ่อยๆ ว่าขอมาทำงานด้วย เป็นพนักงานในร้าน เพราะเค้าอยากกลับบ้าน จนสุดท้ายผมเปิดร้านก่อสร้างได้ประมาณครึ่งปี และมีพนักงานเดิมลาออก เค้าก็ทักมาพอดีว่าขอมาทำงานด้วย ผมเลยรับมาทำงานด้วยเป็นพนักงานในร้าน ซึ่งก็ให้เงินเดือนมากกว่าพนักงานคนอื่นๆที่เคยจ้างเพราะเห็นว่าเคยทำงานที่เดียวกัน และตอนอยู่ที่เดิม เค้าได้ 20k พอมาอยู่ด้วยผมเลยให้ 18k เลี้ยงข้าวเช้าและเที่ยงเริ่มมีปัญหาพอเค้าทำงานได้เดือนที่สองก็ขอเบิกล่วงหน้า แล้วให้หักตอนสิ้นเดือน จากนั้นเดือนต่อๆไปก็เหมือนเดิมเบิกอีกบางเดือนเบิกติดต่อกัน2วัน วันแรก3k วันที่สอง5k ผมก็ไม่ได้อะไรคิดว่าอย่าให้เบิกเกินเงินเดือนของเค้าละกันเดือนนั้นรวมเบิกล่วงหน้า2ครั้งเป็น 8k พอสิ้นเดือนเค้าขอให้ผมหัก 3k ก่อน ยังเหลืออีก5k แต่มามีปัญหาตรงที่ หลังจากเงินเดือนออกได้2วัน เค้าก็ขอเบิกอีก 5k ซึ่งผมก็เห้ยยย ทำไมเบิกเร็ว แต่คิดว่าคงมีเหตุจำเป็นเลยให้ไป แต่หลังจากนั้นวันเดียวเค้าก็ขอให้ผมช่วยซื้อไอโฟนให้ แล้วค่อยให้หักในเงินเดือน เดือนละ1000 ซึ่งถ้าทำแบบนั้นก็คงใช้เวลาเป็นปีและผมคิดว่าจากการที่เค้าเขิกล่วงหน้าบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ก็รวมเงินที่เบิกไป 10000แล้ว กว่าจะถึงสิ้นเดือนไม่รู้มีเบิกอีกหรือเปล่า ซึ่งเค้าคงมองว่าผมเคยทำงานที่เดียวกับเค้าคงช่วยเหลือเค้าทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมปฏิเสธ บอกว่าภาระเยอะ เงินต้องใช้หมุนซื้อของในร้านตลอด ไม่อยากให้เค้าต้องใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เบิกไปตลอด และผมไม่อยากต้องคอยหนักใจว่าจะมาเบิก มาขอให้ซื้อของให้แล้วผ่อนกับเราอีกมั้ย เลยปฏิเสธเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ผลคือเค้าไม่พอใจ และโพสต์ลงเฟสแนวเค้าจริงใจกับเรา แต่ไม่ได้รับความจริงใจกลับ พอมาทำงานก็ทำสีหน้าแย่ๆ ผมซื้อข้าวเล้ามาให้ปกติก็ทำเป็นไม่กินซึ่งผมก็เห้ยยย จริงๆตอนนี้เราอยู่ในฐานะเจ้านายเค้า ถ้าเค้าลาออก ผมก็โอเคและดีใจมาก แต่ถ้าไล่ออกตรงๆก็ดูใจร้ายอีก เพราะเราก็รู้สึกอึดอัดกับท่าทีที่เค้าแสดงออก และรู้สึกแย่ที่โพสต์ลงเฟสแนวนั้นทั้งๆที่ก่อนหน้าเราช่วยเหลือมาตลอด พอไม่ช่วยครั้งเดียวกลับทำเหมือนเราใจร้ายมาก เลยอยากปรึกษาว่าสิ่งที่เขาทำสมควรแล้วหรอ เพราะเรื่งเงินจริงๆทำให้คนต้องมีปัญหา ตอนผมจ่ายเงินเดือนก็จ่ายให้ตรง ให้ครบ ตลอด ที่เหลือก็น่าจะอยู่ที่ตัวเขาเองป่าว จะบริหารยังไง ช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ขอเบิกก็ให้แล้ว นี่มาขอให้ซื้อโทรศัพท์ให้แล้วค่อยผ่อนอีกมันไม่สมควรป่าว เลยอยากรู้ผมดูใจร้าย ไม่จริงใจ มากเลยหรอ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่