ระบายเรื่องการโดนญาติยืมเงินค่ะ

สวัสดีค่ะ เราเก็บเงินแสนประมาณสองปีด้วยเงินเดือนหมื่นห้าสำเร็จประมาณเมื่อต้นปีที่แล้วหลังจากนั้นเราเลยปล่อยสบายเรื่องเก็บเงินไปเพราะถือว่าถึงทาร์เก็ตแล้ว แต่ก็ยังเก็บอยู่ทุกๆเดือนนะคะ ก่อนหน้านี้เราโดนอายืมบ่อยเราก็ไม่ได้ให้ไปทุกครั้ง อามีจ่ายคืนบ้างสุดท้ายก็ได้คืนไม่ครบค่ะหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันนานก็ไม่ได้มีการติดต่อกันอีกค่ะ ซึ่งเงินจำนวนนี้เราก็ถือว่ายกไปจำได้ว่าพันสองพันประมาณนี้ค่ะ
พอช่วงปู่เสียเรากลัวทุกคนจะเดือดร้อนเลยบอกว่าจะช่วยออกเงินให้ เพราะอากับพ่อเราไม่ค่อยมีเงินเก็บค่ะ ตอนนั้นน่าจะเป็นตอนที่อารู้ว่าเรามีเงิน มีให้ช่วยออกค่าตั๋วให้ครอบครัวก่อนซึ่งมีการคืนเงินมาในรอบขามาค่ะ แต่ขากลับเรายังได้คืนไม่หมด หลังสรุปงานก็คือเราเงินหายไปเกือบๆหมื่นค่ะ ไม่รวมกับส่วนของอาเราเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเค้าเอาเงินซองประมาณเก้าพันไปใช้รวมกับหนี้ทั้งหมดก็ประมาณหมื่นสามค่ะ แต่เค้าก็พูดนะคะว่าเพื่อนเค้าซองหนัก เพื่อนเรากับพี่ทำงานเราไปแค่ไม่เยอะค่ะ แต่เราไม่สนใจค่ะ เพราะเราคิดว่าพ่อเค้าเสีย ทำไมถึงมาเทียบกับคนที่เป็นหลานล่ะคะ ถ้าไม่มีเราแล้วใครจะช่วยออกงานนี้ ผ่านไปคืนนึงอามาขอเงินจากเราอีกสองหมื่นค่ะ บอกว่าเอาเงินที่ทำงานไปจ่ายหมดแล้วถ้าไม่คืนจะมีปัญหา สรุปในงานที่ทำตัวมีเงินคือเอาเงินจากงานมาใช้แล้วขอเราทีหลังนี่เอง เราสุดจะทนมากเลยค่ะ เรื่องเอาซองไปใช้เราก็ตกใจแล้วยังมีเรื่องเอาเงินที่ทำงานไปใช้จนต้องมายืมเราอีก สุดท้ายก็ต้องให้ไปด้วยความจำใจ บอกว่าจะผ่อนเดือนละห้าพัน
หลังจากนั้นเค้ามีปัญหาอีกเรื่อยๆมาขอยืมเงินเราเราก็ไม่ได้ให้แล้วล่ะค่ะ แล้วเค้าก็พูดกับย่าเหมือนเราว่าขี้งก ไม่นึกถึงสมัยเด็กที่เค้าให้เราบ่อยๆ คือสมัยก่อนเค้ามีเงินค่ะ ใส่ทองเส้นใหญ่ ซื้อของให้เราเยอะ จ่ายค่าเน็ตให้อะไรอย่างนี้ แต่เรามองว่าเงินสามหมื่นที่ไม่คืนเราแล้วก็ไม่รู้จะได้คืนเมื่อไหร่มันก็มากเกินไปแล้ว (ตอนนี้สามเดือนแล้วยังไม่ได้คืนค่ะ) คนรวยใจดีหมดแหละค่ะ เรามีเงินเท่าเค้าตอนนั้นเราก็ให้ได้แต่เราก็ยังร่อแร่อยู่เลย ทุกวันพอเราเห็นบัญชีกลับไปถึงหลักหมื่นมันก็กลับมารู้สึกกดดันเหมือนตอนเก็บเงินครั้งก่อน เรากลับมาเครียดเพราะอยากให้เงินกลับมาเป็นหลักแสนเหมือนเดิม แต่ไม่มีใครนึกถึงเราจุดนี้ทุกคนมองว่าเราขี้งก ถ้ามองย้อนกลับไปเงินก้อนแรกที่หาได้มาจากที่ทำงานอีกที่ก็โดนยืมไปโดยที่เค้าบอกจะคืนเร็วๆนี้แต่เรายังไม่ได้เลยค่ะ หลังจากนั้นโทรศัพท์เราพัง อยากซื้อใหม่เพราะเพิ่งได้งานใหม่อีกที่ไม่มีโทรศัพท์มันทำงานลำบากค่ะ เรารอจนทำงานครบหนึ่งเดือนเพื่อซื้อโทรศัพท์ใหม่แต่ยังขาดอยู่หลักพัน ในตอนนั้นไม่มีใครสามารถให้เรายืมเราหรือแม้แต่ให้บัตรแม้แต่ให้บัตรเครดิตมาผ่อนเลยค่ะ เราเลยรู้ว่าตัวเองหัวเดียวกระเทียมลีบจริงๆ พอเราอยากสร้างตัวเค้าก็มาทวงบุญคุณ เราต้องให้เท่าไหร่คะถึงจะพอ ตอนนั้นเราก็ยังเด็กยังหาเงินไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าผู้ใหญ่ทำดีกับเด็กเพื่อที่วันหน้าจะได้ตอบแทนก็อย่าทำเลยดีกว่าค่ะ ไม่ได้ขอด้วยซ้ำ 
สรุปแล้วถ้าโดนทำดีตอนเด็ก เราเป็นต้องให้เงินเค้าคืนด้วยเหรอคะ จะยืมเงินเท่าไหร่ก็ต้องให้เหรอคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่