กินเจ ได้บุญหรือไม่?

กินเจ ได้บุญหรือไม่?

  ข้อความ "กินเจไม่ได้บุญอย่างที่คิด...กินเนื้อก็ไม่บาปอย่างที่เข้าใจ"!! กินเจที่คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจกันไม่ถูก!!"

  ตอบว่า การกินเจ กินแล้วได้บุญ แต่เป็นบุญเบื้องต้น

  คำว่า "บุญเบื้องต้น" นั้นหมายถึง ให้เราเกิดจิตสำนึก ในการที่จะดำเนินต่อไป

  ข้อความ "การกินเจ จริงๆไม่ได้บุญอธิบาย คือ เราไม่กินข้าวขาหมู แล้วคิด(จินตนาการ) ว่า หมูจะไม่ถูกฆ่า เปรียบได้กับเรานั่งอยู่บ้านเฉยๆ แล้วคิด (จินตนาการ) ว่า เราไปช่วยสอนหนังสือคนอนาถา บุญที่เราไปสอนหนังสือคนอนาถานั้น ไม่มี ไม่เกิด เพราะเรา นึกๆ คิดๆ ไปเองไม่ได้ทำ ไม่ได้กระทำจริง"

  อธิบายว่า การกินเนื้อสัตว์ เป็นการทำบาป แต่เป็นเบื้องต้นแห่งการทำบาปต่อไป

  เรากินเจ ไม่กินเนื้อสัตว์ เราถือว่าเป็นการแผ่เมตตา

  ตกลงว่า การไม่ฆ่าสัตว์เป็นการแผ่เมตตาไหม? แต่ถ้าการแผ่เมตตาไม่มีจริงแล้ว พระสงฆ์ทั้งหลายจะสอนให้ประชาชนแผ่เมตตาทำไม?

  การกินเจก็เป็นการแผ่เมตตาอย่างหนึ่ง ถ้าหากว่าเราแผ่เมตตาจิตเราก็เป็นบุญ จิตเราก็จะสบาย 

การกินเจเป็นจุดเริ่มต้นที่จะไม่ทำรุนแรงต่อไป

  แล้วเราจะไปปฏิเสธการกินเจทั้งหมดได้อย่างไร ก็ไม่ได้ เราจะปฏิเสธความจริงไม่ได้ 

  การนึกคิดก็จริง แต่การนึกคิดนี่เป็นมโนกรรมใช่ไหม?

  การคิดทาง "มโน" นี่ถือเป็นกรรมไหม? 

  แล้วเราแผ่เมตตานี้ไม่ใช่การมโนเหรอ? เราก็ต้องแผ่เมตตาด้วยมโน แล้วจะบอกว่าไม่ได้บุญ

การกินเนื้อสัตว์ เป็นบาป

เพราะว่า มีตัว "ฆ่า" ขึ้นมาแล้ว 

  แต่ว่าเราไม่ได้ฆ่า แต่เราไปสมรู้ร่วมคิดฆ่า ถ้าเราไม่กิน แล้วใครจะมาฆ่าล่ะ ใครจะมาขาย แต่จะบาปหนา หรือบาปเบาก็ว่ากันไป 

อันนี้เป็นจุดสตาร์ทแห่งคำว่า "บาป" 

อันนั้นเป็นจุดสตาร์ทแห่งคำว่า "บุญ" 

  อันนี้ก็แล้วแต่ว่าจะไปในทางไหน ก็เพราะว่าเป็นการแผ่เหมือนกัน เพราะว่าการกินเจ แผ่เมตตาทางสายบุญ แต่การกินเนื้อสัตว์ก็เป็นการแผ่ทางบาป มีเจตนาหมด แต่เป็นบุญเบื้องต้น และเป็นบาปเบื้องต้น
  
  ข้อความ "การรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นบุญหรือไม่ ?

  การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำอะไร เป็นบุญหรือไม่เป็นบุญนั้น ต้องอาศัยกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่าด้วย บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง คือ

  ๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
  ๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
  ๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
  ๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
  ๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือขวนขวายในกิจการงานต่างๆ
  ๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
  ๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
  ๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม
  ๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม
  ๑๐.ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความคิดเห็นของตนให้ตรง

  เมื่อเทียบเคียงกับบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ วิธี แล้ว ไม่พบว่าการรับประทานอาหารมังสวิรัติ คือ รับประทานแต่พืชผักเป็นวิธีทำบุญข้อใดเลย จึงไม่นับว่าเป็นวิธีทำบุญในพระพุทธศาสนา ลองคิดดูว่าถ้าการกินพืช เช่น ผัก หญ้า ได้บุญ แล้วสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ก็ต้องได้บุญมากกว่ามนุษย์ เพราะสัตว์พวกนี้กินพืชตลอดชีวิตไม่กินเนื้อสัตว์เลย"

  อธิบายว่า นี่แหละ เขายึดติดตำราอีกแล้ว แต่ไม่เข้าใจในตำรา

  บุญกิริยาวัตถุข้อที่ ๒ บอกว่า สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล การรักษาศีล ในศีลมีไหมว่า ห้ามฆ่าสัตว์ แล้วการรักษาศีล แล้วตรงไหนที่ไม่ได้บุญ เราไม่ได้ฆ่าสัตว์ทำไมไม่ได้บุญ เรามัวแต่ไปจำแต่ตัวหนังสือ ก็ในเมื่อเรากินเจ ไม่ได้ฆ่าสัตว์เราก็ได้บุญสิ ก็เพราะว่าเราปฏิบัติในศีลอยู่แล้ว แล้วทำไมถึงไม่ได้บุญ

  ถ้าเราบอกว่าผู้รักษาศีล ไม่ได้บุญแล้วเราจะไปรักษาศีลกันทำไม

  ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง ข้อไหนไม่ชัดเจนเท่ากับ ข้อที่ ๒ คือ สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล 

  แม้แต่ศีล ๕ ข้อที่ ๑ ก็คือ ปาณาติปาตา เวรมณี ห้ามฆ่าสัตว์ แค่ข้อนี้ก็อยู่แล้ว เข้าได้กับการกินเจ

  การละเว้นจากการฆ่าสัตว์แล้วบอกว่าไม่ได้บุญ แล้วเราจะรักษาศีล ๕ (เบญจศีล) กันทำไม? เราเอาศีล ๕ ไปทิ้งไว้ที่ไหน 

  ขอตอบว่า 

ก็ในเมื่อเรากำลังบำเพ็ญศีลอยู่

แล้วเราจะไม่ได้บุญได้อย่างไร? 

บุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ ข้อ ไม่ชัดเจนเท่ากับข้อที่ ๒ 

คือ สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่