คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02B7gpPaYPmP7RDFuXtLXpCcNHw8gBfcmGXngnSZAw5cwwcfeNLhyacp9mpTjjbWcZl
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 7 ก.ย. 2565)
รวม 142,931,484 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 7 กันยายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 19,832 โดส
เข็มที่ 1 : 2,799 ราย
เข็มที่ 2 : 4,452 ราย
เข็มที่ 3 : 12,581 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,276,736 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,753,293 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,901,455 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0xcCpRFqYcG3gGDZ6JG59xAj2vCY6Yh4EmfNV2WW8s7A7PgzjQfv2VzobaHLhmbHkl
เดือนสุดท้าย Bye Covid 19
ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อขอแจ้งเปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเต็มรูปแบบเป็นเดือนสุดท้าย
โดยจะให้บริการถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 นี้เท่านั้น
เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 walk-in ได้เลยครับ
ส่วนเข็มกระตุ้น(booster doses ตั้งแต่เข็มที่ 3 เป็นต้นไป)
มีให้บริการทั้งแบบ walk-in และจองคิวล่วงหน้าผ่านค่ายมือถือทั้ง 4 ค่าย
เข้ารับบริการได้ที่ ประตู 2 เวลา 09.00-16.00 น. ทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) เปิดตลอดทั้งเดือนกันยา
* การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีความจำเป็นเพื่อคงระดับการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (กลุ่ม 608) และกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ขวบ
** กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าการฉีดเข็มกระตุ้นตั้งแต่เข็มที่ 3 ขึ้นไปไว้ที่ร้อยละ 60-70 ของประชากร แต่ขณะนี้ยังฉีดได้ประมาณ 50% จึงจำเป็นต้องบูสเตอร์วัคซีนให้มากขึ้นกว่านี้ ศูนย์ฯ จึงเปิดให้บริการประชาชน เพื่อมาฉีดวัคซีนกระตุ้นในช่วงนี้จนถึงวันที่ปิดศูนย์ฯ
*** แต่หากมีสถานการณ์ที่จำเป็นต้องเร่งฉีดอีกครั้ง ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อได้เตรียมการตามแผน “ปิดแต่พร้อมเปิด” ไว้แล้ว โดยสามารถจะเปิดศูนย์ฯ เพื่อให้บริการใหม่ได้ภายใน 1 วัน (1 Day Reactivate Plan)
ที่มา : CVC กลางบางซื่อ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0W6CUP5uUNrrf3rdtWcCAi6iYoffvmdWDeCPPCKeHfquWMmtypETZsD7e6kogEvHEl
สธ. เตรียมจัดหาไฟเซอร์ฝาแดง 3 ล้านโดส ฉีดกลุ่มเด็กเล็ก และทำแผนกระจายวัคซีน ทยอยส่งมอบ ต.ค. 65
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมลงนามสัญญาจัดหาวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์) ฝาสีแดง จำนวน 3 ล้านโดส สำหรับฉีดเด็กอายุ 6 เดือนถึงอายุน้อยกว่า 5 ปี ระหว่างกรมควบคุมโรค และ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และอินโดไชน่า เริ่มทยอยส่งมอบให้ไทยได้ตั้งแต่ ต.ค. 65 เป็นต้นไป ซึ่งนับว่าเร็วเป็นพิเศษเนื่องจากกรมควบคุมโรค มีสัญญาการสั่งซื้อที่ได้รับการอนุมัติจากครม.อยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มชนิดของวัคซีนที่มีการผลิตเพื่อฉีดเด็กอายุ 6 เดือนถึงอายุน้อยกว่า 5 ปีโดยเฉพาะ ทั้งนี้ กลุ่มเด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิดสูง เนื่องจากเป็นวัยที่ยังไม่สามารถดูแลป้องกันตนเองได้ การที่เด็กได้รับวัคซีนจะช่วยลดโอกาสของการเจ็บป่วยและลดการแพร่เชื้อไปยังผู้สูงอายุในครอบครัวอีกด้วย
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0khERQydUpExT2rjchnugMmNhS1CwHHjVRXkzzVat3kze8F4kdWHUJtbPYtV8JVNTl
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565 จำนวน 19 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid035WttTd4VN3takjyNok7hoAMkwGY6igW4oQt35W4phZ7RYL3cTcuExd5MAgYvnWNAl
ปรับโควิด เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง เริ่ม 1 ต.ค. 65
ย้ำ !! กลุ่มเสี่ยงรีบมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ป้องกันป่วยหนัก เสียชีวิต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ว่า วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นช่วงที่มีการปรับโรคโควิด 19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ยืนยันว่าการดำเนินงานต่างๆ จะไม่มีรอยต่อและไม่มีผลกระทบต่อการบริการประชาชน ระบบการดูแลต่างๆ มีความพร้อม อย่างไรก็ตาม ขอย้ำให้กลุ่มเสี่ยง 608 ยังต้องมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เนื่องจากขณะนี้ผู้เสียชีวิตจากโควิดยังเป็นกลุ่มนี้เกือบ 100% รวมทั้งยังแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องไปในพื้นที่เสี่ยงหรือร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยง
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0SNwnsdKgZhWCYE24CKu6bsECECBnSoLn24yZasQKCFTr4fhE4tmxYAMuWHuhXrNCl
.เกียรติคุณ นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณบดี คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนในงานเสวนาวิชาการ เรื่อง ประสิทธิผลของวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น เข็ม 3 และ 4 จากการใช้จริงในประเทศไทย และอัปเดตข้อมูลสำหรับวัคซีนรุ่นใหม่ ดังนี้
“ที่สำคัญวัคซีนเข็ม 3 และเข็ม 4 ทุกสูตรผสมที่ใช้ในประเทศไทย ช่วยลดอาการรุนแรงที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรือการเสียชีวิตได้สูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคร่วม สิ่งที่เป็นโจทย์ท้าทายสำหรับประเทศไทย ณ วันนี้ คือ คนที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม อยากให้มาช่วยฉีดกระตุ้นเข็ม 3
ส่วนผู้ที่ได้รับ 3 เข็มไปแล้วครบเกิน 4 เดือน ก็ให้มาฉีดเข็ม 4 เพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตไว้ให้ได้มากที่สุด ”
ที่มา : สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0e867Rfc2oaW6Z1DnidU9T4ExE6aC4havYkcF7kdRLuEmErrJtn7Tn7xX6iQt9ncpl
ติดโควิดแล้วมีอาการไอ เจ็บคอ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อละลายและขับเสมหะ การดื่มน้ำขิงใส่มะนาวหรือน้ำผึ้งก็ช่วยลดอาการได้ หลีกเลี่ยงอาหารระคายคอ ของทอด ของมันและกินยาแก้ไอตามคำแนะนำแพทย์ หากเจ็บคอร่วมให้กินยาแก้เจ็บคอ หรือยาสมุนไพร
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02eaJFq5qnBScqUm36Vka4tnBjx4eiAawZNshiwWJdeAmw7kZyt2ooeuC75TJWXLWkl&id=100068069971811
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02B7gpPaYPmP7RDFuXtLXpCcNHw8gBfcmGXngnSZAw5cwwcfeNLhyacp9mpTjjbWcZl
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 7 ก.ย. 2565)
รวม 142,931,484 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 7 กันยายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 19,832 โดส
เข็มที่ 1 : 2,799 ราย
เข็มที่ 2 : 4,452 ราย
เข็มที่ 3 : 12,581 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,276,736 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,753,293 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,901,455 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0xcCpRFqYcG3gGDZ6JG59xAj2vCY6Yh4EmfNV2WW8s7A7PgzjQfv2VzobaHLhmbHkl
เดือนสุดท้าย Bye Covid 19
ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อขอแจ้งเปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเต็มรูปแบบเป็นเดือนสุดท้าย
โดยจะให้บริการถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 นี้เท่านั้น
เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 walk-in ได้เลยครับ
ส่วนเข็มกระตุ้น(booster doses ตั้งแต่เข็มที่ 3 เป็นต้นไป)
มีให้บริการทั้งแบบ walk-in และจองคิวล่วงหน้าผ่านค่ายมือถือทั้ง 4 ค่าย
เข้ารับบริการได้ที่ ประตู 2 เวลา 09.00-16.00 น. ทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) เปิดตลอดทั้งเดือนกันยา
* การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีความจำเป็นเพื่อคงระดับการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (กลุ่ม 608) และกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ขวบ
** กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าการฉีดเข็มกระตุ้นตั้งแต่เข็มที่ 3 ขึ้นไปไว้ที่ร้อยละ 60-70 ของประชากร แต่ขณะนี้ยังฉีดได้ประมาณ 50% จึงจำเป็นต้องบูสเตอร์วัคซีนให้มากขึ้นกว่านี้ ศูนย์ฯ จึงเปิดให้บริการประชาชน เพื่อมาฉีดวัคซีนกระตุ้นในช่วงนี้จนถึงวันที่ปิดศูนย์ฯ
*** แต่หากมีสถานการณ์ที่จำเป็นต้องเร่งฉีดอีกครั้ง ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อได้เตรียมการตามแผน “ปิดแต่พร้อมเปิด” ไว้แล้ว โดยสามารถจะเปิดศูนย์ฯ เพื่อให้บริการใหม่ได้ภายใน 1 วัน (1 Day Reactivate Plan)
ที่มา : CVC กลางบางซื่อ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0W6CUP5uUNrrf3rdtWcCAi6iYoffvmdWDeCPPCKeHfquWMmtypETZsD7e6kogEvHEl
สธ. เตรียมจัดหาไฟเซอร์ฝาแดง 3 ล้านโดส ฉีดกลุ่มเด็กเล็ก และทำแผนกระจายวัคซีน ทยอยส่งมอบ ต.ค. 65
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมลงนามสัญญาจัดหาวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์) ฝาสีแดง จำนวน 3 ล้านโดส สำหรับฉีดเด็กอายุ 6 เดือนถึงอายุน้อยกว่า 5 ปี ระหว่างกรมควบคุมโรค และ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และอินโดไชน่า เริ่มทยอยส่งมอบให้ไทยได้ตั้งแต่ ต.ค. 65 เป็นต้นไป ซึ่งนับว่าเร็วเป็นพิเศษเนื่องจากกรมควบคุมโรค มีสัญญาการสั่งซื้อที่ได้รับการอนุมัติจากครม.อยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มชนิดของวัคซีนที่มีการผลิตเพื่อฉีดเด็กอายุ 6 เดือนถึงอายุน้อยกว่า 5 ปีโดยเฉพาะ ทั้งนี้ กลุ่มเด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิดสูง เนื่องจากเป็นวัยที่ยังไม่สามารถดูแลป้องกันตนเองได้ การที่เด็กได้รับวัคซีนจะช่วยลดโอกาสของการเจ็บป่วยและลดการแพร่เชื้อไปยังผู้สูงอายุในครอบครัวอีกด้วย
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0khERQydUpExT2rjchnugMmNhS1CwHHjVRXkzzVat3kze8F4kdWHUJtbPYtV8JVNTl
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565 จำนวน 19 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid035WttTd4VN3takjyNok7hoAMkwGY6igW4oQt35W4phZ7RYL3cTcuExd5MAgYvnWNAl
ปรับโควิด เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง เริ่ม 1 ต.ค. 65
ย้ำ !! กลุ่มเสี่ยงรีบมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ป้องกันป่วยหนัก เสียชีวิต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ว่า วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นช่วงที่มีการปรับโรคโควิด 19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ยืนยันว่าการดำเนินงานต่างๆ จะไม่มีรอยต่อและไม่มีผลกระทบต่อการบริการประชาชน ระบบการดูแลต่างๆ มีความพร้อม อย่างไรก็ตาม ขอย้ำให้กลุ่มเสี่ยง 608 ยังต้องมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เนื่องจากขณะนี้ผู้เสียชีวิตจากโควิดยังเป็นกลุ่มนี้เกือบ 100% รวมทั้งยังแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องไปในพื้นที่เสี่ยงหรือร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยง
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0SNwnsdKgZhWCYE24CKu6bsECECBnSoLn24yZasQKCFTr4fhE4tmxYAMuWHuhXrNCl
.เกียรติคุณ นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณบดี คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนในงานเสวนาวิชาการ เรื่อง ประสิทธิผลของวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น เข็ม 3 และ 4 จากการใช้จริงในประเทศไทย และอัปเดตข้อมูลสำหรับวัคซีนรุ่นใหม่ ดังนี้
“ที่สำคัญวัคซีนเข็ม 3 และเข็ม 4 ทุกสูตรผสมที่ใช้ในประเทศไทย ช่วยลดอาการรุนแรงที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรือการเสียชีวิตได้สูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคร่วม สิ่งที่เป็นโจทย์ท้าทายสำหรับประเทศไทย ณ วันนี้ คือ คนที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม อยากให้มาช่วยฉีดกระตุ้นเข็ม 3
ส่วนผู้ที่ได้รับ 3 เข็มไปแล้วครบเกิน 4 เดือน ก็ให้มาฉีดเข็ม 4 เพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตไว้ให้ได้มากที่สุด ”
ที่มา : สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0e867Rfc2oaW6Z1DnidU9T4ExE6aC4havYkcF7kdRLuEmErrJtn7Tn7xX6iQt9ncpl
ติดโควิดแล้วมีอาการไอ เจ็บคอ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อละลายและขับเสมหะ การดื่มน้ำขิงใส่มะนาวหรือน้ำผึ้งก็ช่วยลดอาการได้ หลีกเลี่ยงอาหารระคายคอ ของทอด ของมันและกินยาแก้ไอตามคำแนะนำแพทย์ หากเจ็บคอร่วมให้กินยาแก้เจ็บคอ หรือยาสมุนไพร
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02eaJFq5qnBScqUm36Vka4tnBjx4eiAawZNshiwWJdeAmw7kZyt2ooeuC75TJWXLWkl&id=100068069971811
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭🧡มาลาริน🧡🇹🇭8ก.ย.65โควิดไทยที่29โลก/ป่วย1,587คน หาย1,969คน เสียชีวิต19คน/ลงนามซื้อไฟเซอร์สำหรับเด็ก6เดือน-5ขวบ
https://www.bangkokbiznews.com/health/public-health/1025509
ลงนามจัดซื้อแล้ว 3 ล้านโด๊ส วัคซีนไฟเซอร์ เด็ก 6 เดือน - 5 ปี ส่งมอบล็อตแรก ต.ค.
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลงนามสัญญากับไฟเซอร์แล้ว เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด 19 ของไฟเซอร์ฝาจุกสีม่วงแดงสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน - น้อยกว่า 5 ปี จำนวน 3 ล้านโดส โดยวัคซีนมีปริมาณโดสละ 0.2 มิลลิลิตร เท่ากับ 3 ไมโครกรัม รวมทั้งสิ้น 3 เข็มต่อคน หลังจากฉีดเข็มที่ 1 จะเว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์ แล้วฉีดเข็มที่ 2 จากนั้นเว้นระยะอีก 8 สัปดาห์ จึงจะฉีดเข็มที่ 3 ซึ่งมีแผนการกระจายวัคซีนไปทุกจังหวัด เมื่อได้รับการส่งมอบวัคซีนล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดสในเดือน ต.ค.นี้
"วัคซีนสามารถป้องกันโควิดได้สูงร้อยละ 80.3 ซึ่งเด็กเล็กในวัยนี้เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิดสูงเนื่องจากยังไม่สามารถดูแลป้องกันตนเอง การที่เด็กได้รับวัคซีนจะช่วยลดโอกาสของการเจ็บป่วยและลดการแพร่เชื้อไปยังผู้สูงอายุในครอบครัวอีกด้วย โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไทย อนุมัติขึ้นทะเบียนฉีดเด็กอายุ 6 เดือนถึงอายุน้อยกว่า 5 ปี เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2565” " นพ.โอภาส กล่าว
https://siamrath.co.th/n/380830
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ...