1.พ.ค.61 : หลานชายฝาแฝดได้ซื้อโทรศัพท์แบบพ่วงค่าบริการ ใช้บริการ ชำระยอดปกติครบตามสัญญา
พ.ย.62-ม.ค.63 : หลายชายค้างค่างวด 3 งวด (งวดละ 8xx )ทรูระงับการใช้งาน 

ธ.ค. 63 : มีจดหมายแจ้งให้ไปชำระค่าบริการ แฝดพี่ยอดประมาณ 11,xxx บาท ส่วนแฝดน้องจำไม่ได้(เพราะไม่โดนฟ้องจึงไม่ขอยกมาเล่า)หลานได้เล่าให้ฟัง เราแนะนำหลานให้ไปติดต่อที่ศูนย์

18 ธ.ค. 63 : หลานทั้งสองไปติดต่อที่ศูนย์ให้บริการทรูเซลทรัลพระราม 2 เพรเป็นศูนย์ใหญ่ เพื่อตรวจสอบยอดค้างชำระ พร้อมทั้งบอกหลานว่าให้แจ้งปิดการใช้บริการไปเลย และน้าจะเป็นคนโอนเงินไปให้ในส่วนที่ค้าง หลานทั้งสองดำเนินการตามที่น้าบอก เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก็พบว่ามีการใช้งานจริงแค่ 3 เดือนคือ พย.62- ม.ค 63 เป็นเงิน 2,469 บาท ส่วนหลานอีกคนก็ สองพันกว่าบาทเช่นกัน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าส่วนยอดที่เหลือไม่ได้มีการใช้งานจริงไม่ต้องชำระ ดังนั้นเราจึงโอนเงินใฟ้หลานชำระและแจ้งปิดบริการทันที เจ้าหน้าที่ได้ขอบัตรประชาชนทั้งสองคนเข้าไปคีย์ข้อมูลในระบบและแจ้งว่าได้ทำการปิดบริการให้แล้วเรียบร้อยแล้ว แล้วทำไม ถึงมีหมายศาลส่งมาฟ้องให้ชำระส่วนที่ไม่ได้ใช้อีกแถมมีเรียกเก็บค่าดอกเบี้ยของปี 64 และ 65 ด้วย และเราก็ได้ประสานงานไปยังทนาย เข้าใจว่าเป็น บ.รับโอนหนี้ ซึ่งพูดจาดี บอกจะให้การช่วยเหลือ ให้ส่งเอกสารหลักฐานมา ซึ่งเราก็ได้จัดส่งให้ทางไลน์แต่ไม่ยอมอ่าน (หมายศาลมาเมื่อวันที่ 4 ก.ย.65เราก็แอดไลน์และส่งข้อมูลให้เลย) วันที่ 5-6 ก.ย.เราโทรไปถามก็บอกว่าอยู่ข้างนอก เดี๋ยวจะกลับไปตรวจสอบให้ แต่เราร้อนใจ เพราะมีกำหนดขึ้นศาลวันที่ 4 ตุลาคมนี้ และคิดว่าเราไม่ควรมาเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ เรามีโอกาสได้คุยกับทนาย ดูทรงเหมือนจะประวิงเวลาให้หลานเราไปขึ้นศาลให้ได้ เป็นแบบนี้ เราจะกล้าใช้บริการทรูต่อไปได้อย่างไร สงสัยต้องให้พี่สาวและหลานยกเลิกใช้เนต และโทรศัพท์ที่ยังใช้บริการอยู่แน่นอน หลานชายยังเป็นนักศึกษา ยังไม่ทันจะเรียนจบก็มีเรื่องจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันแล้วเหรอคะ ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ประชาชนอย่างเราจะทำยังไงได้บ้างคะ 😥