ชวนไปฟินถิ่นน่าน ไปนอนฮ้างกลางนา

เพี้ยนฮัลโหล 

เมื่อไหร่จะเข้าหน้าหนาวสักทีหนอ? แต่หน้าฝนก็ไม่ใช่ปัญหาถ้าเราจะเที่ยว 
++ นกอีก๋อยได้มีโอกาสกลับไปเยือนน่านอีกหน ถ้าจำไม่ผิดก็ 6 รอบละ ถือเป็นจังหวัดที่ไปบ่อยมากๆ อีกจังหวัดหนึ่งก็ว่าได้ ++ 

+++ แต่การไปครั้งนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความรู้สึกมันมีทั้งสุข (ที่ได้เที่ยว) และทุกข์ในเวลาเดียวกัน (น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 16 ปี).. นกอีก๋อยได้แต่ภาวนาให้หลังวิกฤติน้ำท่วมในหลายๆ อำเภอของจังหวัดน่านคลี่คลายลง จะมีการเร่งฟื้นฟูบ้านเรือนและสภาพแวดล้อมให้กลับมาสวยงามดังเดิมในไม่ช้า +++

 
++ จากการติดตามพยากรณ์อากาศก่อนการเดินทางล่วงหน้า 1 อาทิตย์ ทำให้เกิดความลังเลว่าจะไปหรือไม่ไปดี รอบนี้จึงจองที่พักซะใกล้วันเดินทางเอามากๆ...++
 
เพี้ยนหืมเพี้ยนหืมเพี้ยนหืม
 
++ ทำไมต้องน่าน? นอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยวทางภาคเหนืออันดับต้นๆ ที่คนนิยมเดินทางไปพักผ่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดยาว น่านยังเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพชวนว้าวหลายจุด แวดล้อมด้วยแม่น้ำ ภูเขา และทุ่งข้าวเขียวขจี ++  
  
/// สำหรับแพลนการเดินทางรอบนี้คือ 3 วัน 2 คืน โดยแต่เดิมตั้งใจว่าคืนแรกจะพาพ่อแม่ไปนอนสปันหรือไม่ก็บ่อเกลือ เพราะเช็ครีวิวจากอินเตอร์เน็ตแล้วธรรมชาติอลังวังเว่อร์มาก โดยเฉพาะวิวทะเลหมอกปุกปุยที่ลอยเลียบเขาสูงที่สลับเรียงราย..ฝันเลยว่าจะได้เห็นวิวแบบนั้นบ้าง กับอีกคืนหนึ่งตั้งใจว่าจะนอนในตัวเมืองน่าน พาแม่ทำบุญไหว้พระสัก 9 วัด กับนั่งกินขันโตกอาหารพื้นเมืองที่ข่วงหน้าวัดภูมินทร์ที่เป็นไฮไลท์ แบบว่าให้จับจ่ายเลือกชิมอาหารสไตล์คนเมืองกันแบบจุใจไปเลย ///

เพี้ยนมโน
 
++ แต่ ๆ ๆ สรุปแล้วเราตกลงกันว่าจะไม่ไปสปันหรือบ่อเกลืออย่างที่แพลนไว้ เพราะติดปัญหาเรื่องพายุที่กำลังจะเข้ากับเส้นทางที่หลายคนออกมาเตือนว่าช่วงนี้อันตรายจริงๆ ทั้งถนนลื่น ดินสไลด์ และน้ำป่า ++  

^^^ เมื่อต้องเปลี่ยนแผน ก็ต้องมานั่งคุยกันใหม่ เอาเป็นว่าคืนแรกเปลี่ยนไปนอนที่ปัว ดังนั้นเลยต้องรีบหาข้อมูลจากกูเกิ้ลโทรไปจองกับโรงแรมโดยตรง ซึ่งถือว่าเราได้ที่พักที่โอเคมากๆ ทั้งสองที่คือ “ฮ้างนาตาจันทร์” อำเภอปัว กับ “คุ้มเมืองมินทร์” อำเภอเมืองน่าน (สำหรับคนที่มองหาที่พักที่วิวสวยแต่ราคาไม่แรง ที่จอดรถสะดวก ลองตามนกอีก๋อยไปพักได้นะ) ^^^
เพี้ยนปักหมุด
 
++ อย่างที่บอก..การเดินทางช่วงพายุเข้าต้องยอมรับความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ไหนจะเรื่องความสะดวกขึ้น-ลงรถ (ขณะฝนตก) การเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือแม้กระทั่งเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน แต่ก็ถือว่าเป็นทริปที่ตอบโจทย์เรื่องหนึ่งคือไม่โหดเกินไปสำหรับสูงวัย เพราะแทบไม่ต้องเดินให้เหนื่อยมาก แถมมีเวลาได้ผ่อนคลายอิริยาบถอยู่ตลอดเวลา..อิอิ ไปตามดูกันเลยจ้า ++
 /// ออกเดินทาง 11 สิงหาคม 2565 -- พิษณุโลก – ปัว ///
++ เริ่มเดินทางเวลา 06.22 น. (เอารถพ่อไปเพราะรถพ่อติดแก๊ส ประหยัดสุดๆ ค่าแก๊สประมาณ 1,500 บาทตลอดทริป แถมยังเหลือวิ่งได้อีกหลายวันเลย) จากพิษณุโลกไปปัว ใช้เวลาประมาณ 6 ถึง 7 ชั่วโมง อันนี้คือรวมเวลาเข้าห้องน้ำ แวะยืดแข้งเหยียดขา กับหาของกินระหว่างทาง การพักไปขับไปไม่ต้องกดดันเรื่องเวลาทำให้ไม่เพลียจนเกินไป และยังทำให้โชเฟอร์ได้พักสายตาอีกด้วย ++
 
^^^ เมื่อเข้าสู่เขตจังหวัดน่าน (อำเภอเวียงสา) ฝนเริ่มตก วันแรกไม่ได้มีการเตรียมว่าจะไปเที่ยวที่ไหนอยู่แล้ว แค่พาพ่อกับแม่ไปให้ถึงที่หมายแล้วพักกันให้เต็มที่ก็พอ ^^^ 

 ++ เราถึงอำเภอปัวราวบ่ายสามโมง ท้องฟ้าขมุกขมัวประกอบกับฝนเริ่มตกแรงขึ้น อากาศเย็นลงรวดเร็วแต่ก็ไม่ได้ถึงกับหนาวมาก และท้องพวกเราก็เริ่มร้องกันแล้ว 555 เลยมองหาร้านข้างทาง กินอะไรกันก่อนเข้าที่พัก ^^^
 
เพี้ยนกินมาม่า
++ ต้องเรียกว่าเป็นเมืองแห่งข้าวซอยเลยก็ว่าได้..ตลอดทางเห็นจะมีก็แต่ร้านขายข้าวซอยทั้งนั้น ครบครันทั้งเนื้อ หมู ไก่ ให้เลือกตามชอบใจ แล้วเราก็มาถึงร้านข้าวซอยร้านนี้ซึ่งถือว่าเป็นร้านแรกๆ แบบว่าไม่คิดว่าหลังจากขับต่อไปอีกเราจะเจอร้านข้าวซอยอีกเป็นสิบๆ ร้านงัย555 ++ 
 /// และนี่คือข้าวซอยที่นกอีก๋อยชอบมากๆ ตั้งแต่เคยกินข้าวซอยมา เหตุผลคือน้ำซุปกลมกล่อม หอม รสชาติไม่มันไม่เลี่ยนอย่างที่เคยกิน เนื้อตุ๋นเน้นๆ เปื่อยนุ่ม ลูกชิ้นอร่อย เสิร์ฟมาในชามขนาดใหญ่แต่ปริมาณไม่ได้ล้นเหลือจนจุกเกินไป จึงขอยกให้เป็นร้านข้าวซอยติดดาวของนกอีก๋อยไปเลย..///
/// ตบท้ายด้วยของหวานที่บังเอิญเจอระหว่างทาง และกำลังฮิตในตอนนี้ โรตีสายไหม “สายมั้ยล่า..ต้องถามน้องลิซ่า“ ///
 
++ อิ่มพอประมาณไม่มากไม่น้อย ขึ้นรถปุ๊บก็เช็ค GPS บนมือถือสักหน่อย กะว่าจะไปนอนชิลผึ่งพุงที่ฮ้างนาตาจันทร์ ซึ่งต้องขับต่อไปอีกราว 10 กิโลเท่านั้น ++
เพี้ยนออกทริป
 
/// และแล้วก็มาถึง ฮ้างนาตาจันทร์ (ฝนยังตกต่อเนื่อง) สวรรค์บนดินของนักท่องเที่ยวแท้เทียว เจ้าหน้าที่ที่รอต้อนรับชี้ให้เราขับรถไปจอดตรงลานหญ้าด้านหน้ารีสอร์ท หลังจากแจ้งชื่อและจำนวนห้องที่จองมา เจ้าของ (ซึ่งก็คือพนักงานนั่นเอง) ก็บอกว่ากุญแจเสียบเอาไว้ที่หน้าประตูห้องแล้ว เราเลือกนอนห้องไหนก็ได้ เพราะตอนไปถึงก็มีแค่ครอบครัวเรา และน่าจะมีแค่เรา 4 คน เท่านั้นในวันนี้ ///
 
++ นี่จ้าาา..บ้านพักสำหรับคืนนี้ เราเลือกบ้านหลังกลางคือหลัง 2 และ 3 กระท่อมขนาดกะทัดรัดที่มีเทอเรสให้ออกมานั่งรับลมเย็นๆ ชมบรรยากาศทุ่งนา ป่า เขา กันตลอด 24 ชั่วโมง การออกแบบที่พักคือเรียบง่าย และพื้นที่ของรีสอร์ทคือมีความเป็นส่วนตัวสูงไม่ปะปนกับที่พักของเจ้าอื่น แนะนำเลยจ้าสำหรับคนที่ชอบพักในพื้นที่ที่ทำให้รู้สึกสงบกาย และสบายใจ ++ 
^^^ มาเดินสำรวจรอบๆ รีสอร์ทกันบ้าง การจัดสรรเนื้อที่แบบแยกโซนที่พักกับทุ่งนาออกจากกันช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าเหมือนได้มานอนที่ฮ้างนาจริงๆ เพราะมองออกไปนอกก็จะเห็นทุ่งข้าวเขียวขจีทั่วบริเวณ แถมยังมีทำเลอยู่ด้านหน้าภูเขาที่เขียวชอุ่มอีกต่างหาก กับยิ่งฝนตกตลอดวันแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ คือเรียกว่าเป็นการมาชาร์จพลังให้กับชีวิตจริง ๆ ^^^
 
/// แต่สำหรับคนที่ชอบห้องพักขนาดใหญ่ที่นี่อาจไม่ตอบโจทย์ เพราะบ้านพักแต่ละหลังจัดว่ากะทัดรัดจริงๆ มีเตียงนอนซึ่งก็จะกินพื้นที่ในห้องเกือบจะครึ่งห้อง แต่ก็มีตู้เย็น ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น ผ้าขนหนู สบู่ ครีมอาบน้ำ น้ำดื่ม 2 ขวดตามมาตรฐานการบริการทั่วไป นกอีก๋อยให้คะแนนที่พัก 8/10 ซึ่งถ้าห้องใหญ่กว่านี้อีกหน่อยจะดีมากเลย แต่ว่าน้ำที่นี่แรงดีสมกับที่มีการรีวิวต่อๆ กันมา///
/// นั่งพักนอนพักจนหายเพลียก็ได้เวลาสั่งอาหารเย็นมากิน ฝนไม่เป็นใจให้ออกไปท่องเที่ยวเอาซะเลย อาหารที่สั่งมีปากเป็ดทอด เมี่ยงปลาทับทิม (อร่อยมากก๋อยแนะนำ) ผัดฉ่ากบ (หนักเครื่องไปนิส) และต้มจืดสาหร่าย (ไม่ได้ถ่ายภาพ) แบบว่าจานใหญ่ทั้งนั้น รสชาติอร่อยโอเคเลยล่ะ เบ็ดเสร็จจ่ายไป 600 บาท สำหรับ 4 คน (ข้าว 1 โถใหญ่ กินไม่หมดอีกต่างหาก) อิ่มกันถ้วนหน้าในราคามิตรภาพจ้า ///
  
/// หลังมื้อค่ำน่ะเหรอ ก็นั่งชมฝนตกกันเพลินๆ ไปสิจ๊ะ ใครใคร่นอน “นอน” ใครใคร่นั่ง “นั่ง” ใครใคร่ถ่ายรูป “ถ่าย” ใช้เวลา ณ จุดๆ นี้ยาวไปจนเช้า ฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืนเนื่องจากพายุมู่หลานเข้าไทย และยิ่งตกหนักขึ้นเมื่อเข้าช่วงดึก ที่นี่ล่ะมากันทั้งฝนทั้งลม...หนาวมากลุย /// 
ผ่านคืนแรกแล้ว..แบบว่าลมนี่พัดตึง ตึง ตึง ท้างงงงงคืน เพี้ยนไม่อยากจะเล่า
++ ก่อน Check out กินมื้อเช้าที่ร้านอาหารของรีสอร์ท (ราคารวมในค่าที่พัก) ที่นี่เค้าจะเสริร์ฟข้าวต้ม+ไข่ต้ม นอกจากนี้ก็ยังมีชาและกาแฟด้วยนะ ++
-- ตอนหน้าจะพาไปไหว้พระขอพรที่วัดศรีมงคล (วัดก๋ง) กันจ้า --
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่