คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 1 กันยายน 2565 เวลา 12.30 น.
https://www.facebook.com/informationcovid19/videos/643257560347434/ (มีคลิป)
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 1 กันยายน 2565
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid027LwCHHQorDTKXk7s2aghAQhorsL48pAZbJBaGewGFYkPaBEZx7wSV8j7vCdPUfRyl
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 31 ส.ค. 2565)
รวม 142,748,351 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 31 สิงหาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 35,960 โดส
เข็มที่ 1 : 4,959 ราย
เข็มที่ 2 : 8,910 ราย
เข็มที่ 3 : 22,091 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,256,487 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,718,743 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,773,121 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0fL65TDzZVVJRGbNmbg9F8mtg2pZWGyGqqbbUGPSvhXuCajskSfCb4XTPsFMj3Gmtl
สธ. กังวล กลุ่ม 608 เสี่ยงเสียชีวิตเพราะติดโควิด
แนะ ฉีดเข็มกระตุ้น ด่วน! สร้างภูมิคุ้มกันต่อเนื่อง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่าจากการรายงานยอดผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่าพัน ในรอบหลายเดือน ถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้น แต่หากจะให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ ตัวเลขผู้ป่วยหนักที่ใส่ท่อช่วยหายใจต้องไม่เพิ่มและควรจะลดลง ผู้เสียชีวิตก็ต้องลดลง ที่น่าห่วงเพราะผู้เสียชีวิตเกือบ 100% ยังเป็นกลุ่ม 608 ดังนั้นจึงต้องเร่งรณรงค์ให้กลุ่ม 608 นี้ ออกมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่ควรให้กลุ่ม 608 มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0ZPXk93SiKuyXQgowKwPrUFxhU5mH8e77wwcvf7Y4NYFxAzUKMH6XTFxPovHwmtV5l
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 จำนวน 25 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0L1hfG4AfMH2W9pYxaAm7dtB8DVCVfDFq4ydpP32qzfVSP458q5784njdD8ajgRPQl
คกก.สุขภาพจิตแห่งชาติ เตรียมตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานฯ 76 จังหวัด ดำเนินงาน 6 ประเด็น
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มีการผลักดันให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานเพื่อบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยสุขภาพจิตระดับจังหวัดครบทั้ง 76 จังหวัด ดำเนินงาน 6 ประเด็น ได้แก่ 1.สร้างเสริมความเข้มแข็งทางใจ 2.ลดอัตราการฆ่าตัวตาย 3.ดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง (SMI-V) 4.ดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากสถานการณ์โควิด 19 5.ดูแลผู้ป่วย Long COVID-19 และ 6.ติดตามและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยจิตเวชเนื่องจากสารเสพติด ถือเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ภาคส่วนต่างๆ บูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตของทุกกลุ่มวัยในชุมชน นอกจากนี้ ยังมีความก้าวหน้าเรื่องการดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาและมหาวิทยาลัย รวมถึงสร้างมาตรฐานการให้บริการด้านจิตวิทยาการปรึกษาด้วย
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0rc3BgoM2a7vtUnimLYd4SMHEhqJA3fUTs2SXh7MrAxxGjZDqMHLcN9dL9NCFwLgkl
ศบค.ชี้แจง ประสิทธิผลวัคซีนโควิด จากการใช้จริง เดือน พ.ค. - ก.ค. 65 (ช่วงการระบาดสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5)
● เข็ม 2 ป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 60 %
ป้องกันเสียชีวิตได้ 72 %
● เข็ม 3 ป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 83 %
ป้องกันเสียชีวิตได้ 93 %
● เข็ม 4 ป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ 100 %
วัคซีนไม่ป้องกันการติดเชื้อ แต่การฉีดวัคซีน 3 เข็มขึ้นไป ช่วยป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตในระดับสูงได้อย่างน้อย 6 เดือน
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid06Aa47dr47wq49GCyPRgcXkzQq3hbJq1kiKQv7ziihuE6MgnS8us4vnDnUYNPzWGcl
เริ่มแล้ววันนี้! ผู้ป่วยโควิด-19 รับ “ยาต้านไวรัส” ได้ที่ร้านขายยา ย้ำจ่ายตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น เตือนประชาชนอย่าซื้อทานเอง เสี่ยงใช้ยาผิดวิธี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. ย้ำผู้ประกอบการร้านขายยาทุกแห่ง จ่ายยาต้านไวรัสโควิด-19 ทั้งฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ หรือแพกซ์โลวิด ให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ได้ เฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยมีใบสั่งแพทย์มาแสดงต่อเภสัชกรเท่านั้น เนื่องจากยาต้านไวรัสไม่ใช่ยาสามัญทั่วไป ต้องควบคุมการใช้และไม่จำเป็นที่ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนจะต้องทานยาต้านไวรัส โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยการใช้ยาให้เหมาะกับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย
พร้อมกำชับสำนักงานอาหารและยา และสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ติดตามการบันทึกข้อมูลการจ่ายยาต้านไวรัสของร้านขายยาและตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ การเพิ่มช่องทางจ่ายยาโควิด-19 ที่ร้านขายยาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 65 เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน ขอประชาชนอย่าหาซื้อยารับประทานเองโดยไม่มีแพทย์แนะนำ เพราะมีความเสี่ยงอาจได้ยาปลอม และใช้ยาไม่สอดคล้องกับอาการ
อ่านเพิ่มเติม คลิก >> https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/58687
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/pfbid02MEaWfbjLGf8TkBUHuZBq8BgDuiMkJBmuhzwB9pZNis27LWf8wAuqYyTKtpnqbrBZl
สปสช.เผย ผู้ป่วยโควิด รักษาด้วยการแพทย์ทางไกลผ่าน 3 แอปฯ กว่า 9 พันครั้ง รับยาที่ร้าน 5.5 หมื่นครั้ง
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า สปสช.ได้ร่วมกับผู้ให้บริการระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ทั้ง บริษัท กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแอปฯ Good Doctor Technology และ ทรู เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาแอปฯ MorDee (หมอดี) และบริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด ผู้ให้บริการแอปฯ Clicknic (คลิกนิก) เพื่อให้การดูแลและรักษาผู้ป่วยโควิด-19
จากการให้บริการที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา จนถึง 30 ส.ค. 65 มีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับบริการสะสม เป็นจำนวน 9,043 ครั้ง หรือเฉลี่ย 177.3 ครั้ง/วัน ในจำนวนนี้เป็นการเข้ารับบริการกับแอปฯ Good Doctor เริ่มบริการ 11 ก.ค. จำนวน 4,942 ครั้ง / รับบริการกับแอปฯ MorDee เริ่มบริการ 13 ก.ค. จำนวน 1,950 ครั้ง และรับบริการกับแอปฯ Clicknic เริ่มบริการ 28 ก.ค. จำนวน 2,151 ครั้ง ในส่วนของ สปสช. ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ที่ผ่านมาประชาชนเข้ารับบริการรวม 64,115 ราย
ผู้สนใจ สอบถามเพิ่มเติมที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02zUyMsYFuSNK3QTZeXETbKSDNSWBLgaYVr8yMVLedfvmLctQKqM1U73FC46vuq6YZl
กทม. กำชับ!! Delivery ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด อย่างเคร่งครัด ป้องกันการแพร่ระบาดและติดเชื้อ
ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตดูแลและให้คำแนะนำผู้ประกอบการ Delivery ในพื้นที่ รวมทั้งพูดคุยกับชุมชนให้เข้าใจถึงมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลที่ยังต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะมีการประสานไปยังผู้ประกอบการ Delivery ของแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ทราบแนวทางปฏิบัติ และกำชับพนักงานขนส่งอาหารซึ่งเป็นผู้สัมผัสผู้คนจำนวนมาก ให้รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลโดยเคร่งครัด
หากสำนักงานเขตลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการ หรือสำนักอนามัยที่ร่วมตรวจในเรื่องของสาธารณสุข ขอให้เน้นย้ำผู้ประกอบการถึงเรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้น ให้เป็นมาตรการเชิงรุกไปในตัว ในส่วนของการจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อในชุมชน ซึ่งได้มีการดำเนินการให้คำแนะนำมาเป็นระยะๆ
รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนมีการแยกขยะติดเชื้อและหน้ากากอนามัยออกจากขยะทั่วไป เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ที่มา : กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/NBT2HDTV/posts/pfbid02yPxXzbmwmPZumiGsSBAyJhPycb4bTxhhJzfcC5zTdWxEgc4JsGYYd3rT1y3qmkcCl
https://www.facebook.com/informationcovid19/videos/643257560347434/ (มีคลิป)
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 1 กันยายน 2565
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid027LwCHHQorDTKXk7s2aghAQhorsL48pAZbJBaGewGFYkPaBEZx7wSV8j7vCdPUfRyl
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 31 ส.ค. 2565)
รวม 142,748,351 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 31 สิงหาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 35,960 โดส
เข็มที่ 1 : 4,959 ราย
เข็มที่ 2 : 8,910 ราย
เข็มที่ 3 : 22,091 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,256,487 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,718,743 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 31,773,121 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0fL65TDzZVVJRGbNmbg9F8mtg2pZWGyGqqbbUGPSvhXuCajskSfCb4XTPsFMj3Gmtl
สธ. กังวล กลุ่ม 608 เสี่ยงเสียชีวิตเพราะติดโควิด
แนะ ฉีดเข็มกระตุ้น ด่วน! สร้างภูมิคุ้มกันต่อเนื่อง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่าจากการรายงานยอดผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่าพัน ในรอบหลายเดือน ถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้น แต่หากจะให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ ตัวเลขผู้ป่วยหนักที่ใส่ท่อช่วยหายใจต้องไม่เพิ่มและควรจะลดลง ผู้เสียชีวิตก็ต้องลดลง ที่น่าห่วงเพราะผู้เสียชีวิตเกือบ 100% ยังเป็นกลุ่ม 608 ดังนั้นจึงต้องเร่งรณรงค์ให้กลุ่ม 608 นี้ ออกมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่ควรให้กลุ่ม 608 มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0ZPXk93SiKuyXQgowKwPrUFxhU5mH8e77wwcvf7Y4NYFxAzUKMH6XTFxPovHwmtV5l
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 จำนวน 25 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0L1hfG4AfMH2W9pYxaAm7dtB8DVCVfDFq4ydpP32qzfVSP458q5784njdD8ajgRPQl
คกก.สุขภาพจิตแห่งชาติ เตรียมตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานฯ 76 จังหวัด ดำเนินงาน 6 ประเด็น
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มีการผลักดันให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานเพื่อบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยสุขภาพจิตระดับจังหวัดครบทั้ง 76 จังหวัด ดำเนินงาน 6 ประเด็น ได้แก่ 1.สร้างเสริมความเข้มแข็งทางใจ 2.ลดอัตราการฆ่าตัวตาย 3.ดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง (SMI-V) 4.ดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยงจากสถานการณ์โควิด 19 5.ดูแลผู้ป่วย Long COVID-19 และ 6.ติดตามและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยจิตเวชเนื่องจากสารเสพติด ถือเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ภาคส่วนต่างๆ บูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตของทุกกลุ่มวัยในชุมชน นอกจากนี้ ยังมีความก้าวหน้าเรื่องการดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาและมหาวิทยาลัย รวมถึงสร้างมาตรฐานการให้บริการด้านจิตวิทยาการปรึกษาด้วย
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0rc3BgoM2a7vtUnimLYd4SMHEhqJA3fUTs2SXh7MrAxxGjZDqMHLcN9dL9NCFwLgkl
ศบค.ชี้แจง ประสิทธิผลวัคซีนโควิด จากการใช้จริง เดือน พ.ค. - ก.ค. 65 (ช่วงการระบาดสายพันธุ์ย่อย BA.4/BA.5)
● เข็ม 2 ป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 60 %
ป้องกันเสียชีวิตได้ 72 %
● เข็ม 3 ป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 83 %
ป้องกันเสียชีวิตได้ 93 %
● เข็ม 4 ป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ 100 %
วัคซีนไม่ป้องกันการติดเชื้อ แต่การฉีดวัคซีน 3 เข็มขึ้นไป ช่วยป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตในระดับสูงได้อย่างน้อย 6 เดือน
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid06Aa47dr47wq49GCyPRgcXkzQq3hbJq1kiKQv7ziihuE6MgnS8us4vnDnUYNPzWGcl
เริ่มแล้ววันนี้! ผู้ป่วยโควิด-19 รับ “ยาต้านไวรัส” ได้ที่ร้านขายยา ย้ำจ่ายตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น เตือนประชาชนอย่าซื้อทานเอง เสี่ยงใช้ยาผิดวิธี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. ย้ำผู้ประกอบการร้านขายยาทุกแห่ง จ่ายยาต้านไวรัสโควิด-19 ทั้งฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ หรือแพกซ์โลวิด ให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ได้ เฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยมีใบสั่งแพทย์มาแสดงต่อเภสัชกรเท่านั้น เนื่องจากยาต้านไวรัสไม่ใช่ยาสามัญทั่วไป ต้องควบคุมการใช้และไม่จำเป็นที่ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนจะต้องทานยาต้านไวรัส โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยการใช้ยาให้เหมาะกับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย
พร้อมกำชับสำนักงานอาหารและยา และสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ติดตามการบันทึกข้อมูลการจ่ายยาต้านไวรัสของร้านขายยาและตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ การเพิ่มช่องทางจ่ายยาโควิด-19 ที่ร้านขายยาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 65 เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน ขอประชาชนอย่าหาซื้อยารับประทานเองโดยไม่มีแพทย์แนะนำ เพราะมีความเสี่ยงอาจได้ยาปลอม และใช้ยาไม่สอดคล้องกับอาการ
อ่านเพิ่มเติม คลิก >> https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/58687
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/pfbid02MEaWfbjLGf8TkBUHuZBq8BgDuiMkJBmuhzwB9pZNis27LWf8wAuqYyTKtpnqbrBZl
สปสช.เผย ผู้ป่วยโควิด รักษาด้วยการแพทย์ทางไกลผ่าน 3 แอปฯ กว่า 9 พันครั้ง รับยาที่ร้าน 5.5 หมื่นครั้ง
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า สปสช.ได้ร่วมกับผู้ให้บริการระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ทั้ง บริษัท กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแอปฯ Good Doctor Technology และ ทรู เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาแอปฯ MorDee (หมอดี) และบริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด ผู้ให้บริการแอปฯ Clicknic (คลิกนิก) เพื่อให้การดูแลและรักษาผู้ป่วยโควิด-19
จากการให้บริการที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา จนถึง 30 ส.ค. 65 มีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับบริการสะสม เป็นจำนวน 9,043 ครั้ง หรือเฉลี่ย 177.3 ครั้ง/วัน ในจำนวนนี้เป็นการเข้ารับบริการกับแอปฯ Good Doctor เริ่มบริการ 11 ก.ค. จำนวน 4,942 ครั้ง / รับบริการกับแอปฯ MorDee เริ่มบริการ 13 ก.ค. จำนวน 1,950 ครั้ง และรับบริการกับแอปฯ Clicknic เริ่มบริการ 28 ก.ค. จำนวน 2,151 ครั้ง ในส่วนของ สปสช. ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ที่ผ่านมาประชาชนเข้ารับบริการรวม 64,115 ราย
ผู้สนใจ สอบถามเพิ่มเติมที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02zUyMsYFuSNK3QTZeXETbKSDNSWBLgaYVr8yMVLedfvmLctQKqM1U73FC46vuq6YZl
กทม. กำชับ!! Delivery ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด อย่างเคร่งครัด ป้องกันการแพร่ระบาดและติดเชื้อ
ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตดูแลและให้คำแนะนำผู้ประกอบการ Delivery ในพื้นที่ รวมทั้งพูดคุยกับชุมชนให้เข้าใจถึงมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลที่ยังต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะมีการประสานไปยังผู้ประกอบการ Delivery ของแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ทราบแนวทางปฏิบัติ และกำชับพนักงานขนส่งอาหารซึ่งเป็นผู้สัมผัสผู้คนจำนวนมาก ให้รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลโดยเคร่งครัด
หากสำนักงานเขตลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการ หรือสำนักอนามัยที่ร่วมตรวจในเรื่องของสาธารณสุข ขอให้เน้นย้ำผู้ประกอบการถึงเรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้น ให้เป็นมาตรการเชิงรุกไปในตัว ในส่วนของการจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อในชุมชน ซึ่งได้มีการดำเนินการให้คำแนะนำมาเป็นระยะๆ
รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนมีการแยกขยะติดเชื้อและหน้ากากอนามัยออกจากขยะทั่วไป เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ที่มา : กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/NBT2HDTV/posts/pfbid02yPxXzbmwmPZumiGsSBAyJhPycb4bTxhhJzfcC5zTdWxEgc4JsGYYd3rT1y3qmkcCl
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭🧡มาลาริน🧡🇹🇭1ก.ย.ไทยอันดับ29โลก/ป่วย2,004คน หาย1,743คน เสียชีวิต25คน/เริ่มวันนี้ให้ร้านขายยาได้/เข็ม4 กันได้100%
https://www.bangkokbiznews.com/health/public-health/1024146
เริ่มวันนี้!! อย.ไฟเขียวผู้นำเข้ายาต้านโควิด ขายให้ "ร้านยา" ได้ ปชช.ซื้อต้องมีใบสั่งแพทย์
มีผลแล้ววันนี้ อย.ออกประกาศให้ผู้นำเข้ายาต้านโควิด กระจายยาได้ถึงร้านขายยา ย้ำเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้ปิดกั้นการเข้าถึง ส่วนการไปซื้อยาต้านโควิดร้านยาต้องมีใบสั่งจากแพทย์ ติดตามเหมือนยาสเตียรอยด์
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า อย.ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 25 ส.ค. มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ก.ย. ให้ผู้ได้รับอนุญาตนำเข้ายาต้านไวรัสโควิด 19 ชนิดรับประทาน สามารถกระจายยาดังกล่าวให้กับสถานพยาบาลของรัฐ เอกชน คลินิกเวชกรรมและร้านขายยาที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องโดยมีเภสัชกรประจำร้าน อย่างไรก็ตาม ยาต้านไวรัสโควิด 19 เป็นยาควบคุมพิเศษ จะมีระบบติดตามการกระจายยาเหมือนยาควบคุมพิเศษอื่นๆ เช่น ยาสเตียรอยด์
“ย้ำว่า ร้านยาจะขายยาต้านไวรัสโควิดให้ผู้ที่มาซื้อได้ ผ่านใบสั่งยาจากแพทย์ ขณะนี้ได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้ได้รับอนุญาตนำเข้ายากระจายยาไปยัง รพ.รัฐและเอกชนแล้ว เช่น องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ส่วนร้านยายังเป็นช่วงเริ่มต้นอยู่ และการขายให้ร้านยาก็เป็นสิทธิของผู้ได้รับอนุญาตที่จะไปทำตลาดได้” นพ.ไพศาลกล่าว
นพ.ไพศาลกล่าวว่า ยืนยันการดำเนินการของ อย.ในการอนุญาตให้นำเข้ายาและกระจายมาถึงร้านขายยา เป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้ปิดกั้นการเข้าถึงยาแต่อย่างใด ทั้งนี้ การใช้ยาต้านไวรัสมีความเฉพาะสูง การจะจ่ายยาจึงต้องอาศัยดุลยพินิจของแพทย์ตามการวินิจฉัยโรค ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องได้รับยาต้านไวรัส เป็นไปตามหลักการใช้ยาอย่างสมเหตุผล การเข้าถึงยาในตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหา ปัจจุบันรัฐบาลจ่ายยาให้ทุกคนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ขอให้เข้ารับบริการตามสิทธิสุขภาพของตนเอง
https://mgronline.com/qol/detail/9650000084033
ศบค.ยันฉีดวัคซีน 4 เข็มป้องกันป่วยหนัก-เสียชีวิต 100%
ไทยติดเชื้อในระบบ 2 พันราย ตาย 25 ราย เป็นกลุ่ม 608 ทั้งหมด เผยประสิทธิผลวัคซีน พบสี่เข็มป้องกันป่วยหนัก-เสียชีวิต 100%
01 ก.ย.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,004 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,996 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,996 ราย มาจากเรือนจำ 7 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 1,743 ราย อยู่ระหว่างรักษา 15,990 ราย อาการหนัก 736 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 355 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 25 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 12 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 24 ราย มีโรคเรื้อรัง 1 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,652,923 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,604,605 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 32,328 ราย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทั่วโลกยังมีแนวโน้มติดเชื้อเพิ่มขึ้นระลอกเล็กๆ ส่วนตัวเลขเสียชีวิตยังทรงตัว เช่นเดียวกับสถานการณ์ในประเทศไทยที่ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นระลอกเล็กๆ ทั่วประเทศ แต่ป่วยหนักและเสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง ทำให้อัตราครองเตียงและปริมาณการใช้ยาต่อวันลดลง
พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายหลัก ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็มสามแล้ว 6,437,305 โดส คิดเป็น 50.7% ส่วนเด็กที่มีอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็มสองแล้ว 2,425,430 โดส คิดเป็น 47.1%
ทั้งนี้ สำนักงานสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยข้อมูลประสิทธิผลของวัคซีนจากการใช้จริงระหว่างเดือน พ.ค.2565-ก.ค.2565 ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.4 BA.5 พบว่า....👇
ผู้ที่ฉีดวัคซีนสองเข็มป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจได้ 60% และป้องกันเสียชีวิตได้ 72%
ผู้ที่ฉีดสามเข็ม ป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจได้ 83% และป้องกันเสียชีวิตได้ 93%
และผู้ที่มีฉีดสี่เข็ม ป้องกันปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ 100%
ขอยืนยันว่าการฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ แต่การฉีดวัคซีนวัคซีนสามเข็มขึ้นไปหวังผลให้ช่วยป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตได้อย่างน้อย 6 เดือน อย่างไรก็ตาม สำหรับวัคซีนในเด็กเล็กอายุ 6 เดือน และก่อน 5 ปี ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ฝาแดง คาดว่าจะเข้ามาในช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้
พญ.สุมนี กล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือน ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น เนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่เชื้อได้ง่าย ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงได้รักษาฟรีตามสิทธิที่ตัวเองมี ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม ในรูปแบบเจอ แจก จบ กรณีมีอาการหนักวิกฤติยังใช้สิทธิยูเซปที่ใดก็ได้เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่โรคประจำถิ่นหากตรวจเอทีเคเป็นผลบวกให้โทรศัพท์ไปที่เบอร์ 1330 กลุ่มประชาชนทั่วไปให้กด 14 กลุ่ม 608 กด 18 แต่ถ้าอาการหนักให้โทรศัพท์ไปที่เบอร์ 1669 กด 2 ซึ่งเป็นศูนย์เอราวัณจะรับผิดชอบนำส่งทุกที่
https://www.thaipost.net/covid-19-news/212367/
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ.....