คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิดเด็กอายุ 6 เดือน - 18 ปี ฟรี!
กรมการแพทย์ โดย สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดให้ผู้ปกครองลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด19 สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน - 18 ปี สามารถลงทะเบียนด้วยการสแกน QR Code ตามภาพ โดยให้บริการวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี ช่วงบ่าย ส่วนวันศุกร์ให้บริการทั้งช่วงเช้าและบ่าย (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)
สำหรับชนิดวัคซีนโควิด-19 ที่ให้บริการประกอบด้วย
1. วัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีแดง สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี ควรฉีด 3 เข็ม ฉีดเข็มแรกและเข็มสอง ห่างกัน 1 เดือน เข็มสาม ห่างจากเข็มสอง 2 เดือน
2. วัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีส้ม สำหรับเด็กอายุ 5 ปี ถึง 11 ปี ฉีดเข็มแรกและเข็มสองห่างกัน 2 เดือน เข็มสาม (เข็มกระตุ้น) 1 ครั้ง ห่างจากเข็มสอง 3-6 เดือน
3. วัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีม่วง สำหรับเด็กอายุ 12 ปี ถึง 17 ปี ฉีดเข็มแรกและเข็มสองห่างกัน 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เข็มสาม 1 ครั้ง ห่างจากเข็มสอง 4- 6 เดือน กรณีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ตามประกาศกระทรวงสารารณสุข
ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โทร.1415
https://web.facebook.com/Rachadaspoke/posts/pfbid02h5NTQ3BFVWV1NjSaJ6iN1uaB6TkiYr4tvDcVm19sV6EmzeLnM9Gh4HAabwsP8qYvl
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิดเด็กอายุ 6 เดือน - 18 ปี ฟรี!
กรมการแพทย์ โดย สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดให้ผู้ปกครองลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด19 สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน - 18 ปี สามารถลงทะเบียนด้วยการสแกน QR Code ตามภาพ โดยให้บริการวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี ช่วงบ่าย ส่วนวันศุกร์ให้บริการทั้งช่วงเช้าและบ่าย (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)
สำหรับชนิดวัคซีนโควิด-19 ที่ให้บริการประกอบด้วย
1. วัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีแดง สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี ควรฉีด 3 เข็ม ฉีดเข็มแรกและเข็มสอง ห่างกัน 1 เดือน เข็มสาม ห่างจากเข็มสอง 2 เดือน
2. วัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีส้ม สำหรับเด็กอายุ 5 ปี ถึง 11 ปี ฉีดเข็มแรกและเข็มสองห่างกัน 2 เดือน เข็มสาม (เข็มกระตุ้น) 1 ครั้ง ห่างจากเข็มสอง 3-6 เดือน
3. วัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีม่วง สำหรับเด็กอายุ 12 ปี ถึง 17 ปี ฉีดเข็มแรกและเข็มสองห่างกัน 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เข็มสาม 1 ครั้ง ห่างจากเข็มสอง 4- 6 เดือน กรณีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ตามประกาศกระทรวงสารารณสุข
ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โทร.1415
https://web.facebook.com/Rachadaspoke/posts/pfbid02h5NTQ3BFVWV1NjSaJ6iN1uaB6TkiYr4tvDcVm19sV6EmzeLnM9Gh4HAabwsP8qYvl
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭❤️มาลาริน❤️🇹🇭สถาบันสุขภาพเด็ก เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด อายุ 6 เดือน-18 ปี/สธ.ยันติด "โควิด"ซ้ำ ไม่ได้ทำป่วยหนัก
เช็กรายละเอียด สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน-18 ปี
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 มีรายงานว่า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โพสต์ข้อความว่า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดให้บริการ ลงทะเบียน ฉีดวัคซีนโควิด-19 อายุ 6 เดือน-18 ปี
- วัคซีนฝาสีแดง สำหรับอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี ควรฉีด 3 เข็ม ฉีดเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกัน 1 เดือน เข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 ระยะเวลา 2 เดือน
- วัคซีนฝาสีส้ม สำหรับอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกัน 2 เดือน เข็มที่ 3 (เข็มกระตุ้น) 1 ครั้ง ห่างจากเข็มที่ 2 ระยะเวลา 3-6 เดือน
- วัคซีนฝาสีม่วง สำหรับอายุ 12-17 ปี ฉีดเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกัน 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 ระยะเวลา 4-6 เดือน
สำหรับ ผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดลงทะเบียนด้วยการสแกน QR Code โดยให้บริการฉีดวัคซีนในวันจันทร์-พฤหัสบดี ช่วงบ่าย ส่วนวันศุกร์เปิดให้บริการช่วงเช้า-บ่าย (ที่ไม่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1415
https://www.thairath.co.th/news/society/2557888
สธ.ยันติด "โควิด" ซ้ำ ไม่ได้ทำป่วยหนัก-ดับเพิ่ม แนะรีบฉีด "วัคซีน" ก่อนแพร่สูงปลายปี ช่วยลดเสี่ยง
ปลัด สธ.โต้ติดเชื้อ "โควิด" ซ้ำทำป่วยหนัก-ตายเพิ่มขึ้น แจงหากมีภูมิแล้วทั้งติดเชื้อหรือวัคซีน ช่วยลดอาการรุนแรงและตายได้ ระบุเสียชีวิตจากโควิดยังเป็นกลุ่มไม่รับวัคซีนหรือไม่รับเข็มกระตุ้น แนะกลุ่มเสี่ยงรีบฉีดเพิ่มก่อนระบาดอีกรอบช่วงปลายปี
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีข่าวติดเชื้อโควิด 19 ซ้ำ เสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า และป่วยหนักมากกว่าเดิม 3 เท่า ว่า.....👇
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 แล้วสามารถติดเชื้อซ้ำได้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่เกิดจากการติดเชื้อ หรือภูมิคุ้มกันจากวัคซีนโควิด 19 สามารถลดลงได้เมื่อระยะเวลาผ่านไป ดังนั้น การป้องกันการติดเชื้อที่ดี คือ ปฏิบัติมาตรการป้องกันส่วนบุคคล โดยเฉพาะการสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ หรือมีผู้คนรวมตัวกันจำนวนมาก ล้างมือบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโอกาสติดเชื้อซ้ำ แต่เมื่อร่างกายเคยมีภูมิคุ้มกันแล้วจะช่วยลดความรุนแรงของโรค เห็นได้จากการที่ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนโควิด 19 ไปแล้วกว่า 143 ล้านโดส และตั้งแต่การฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมมากขึ้นสถานการณ์ความรุนแรงของโรคโควิด 19 ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนปรับลดจากโรคติดต่ออันตรายมาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังได้
“จากข้อมูลสถานการณ์พบว่า ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยอาการหนัก 329 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ 4.6% ถือว่าลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปรับเข้าสู่โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งขณะนั้นมีผู้ป่วยอาการหนัก 466 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากโควิดในสัปดาห์ที่ 45 (วันที่ 6-12 พ.ย.2565) มี 42 ราย เป็นกลุ่ม 608 ทั้งหมด และปัจจัยสำคัญคือ ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบเข็มกระตุ้น รวมถึงรับเข็มกระตุ้นเกิน 3 เดือน” นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ได้ ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว ประกอบกับประชาชนเริ่มผ่อนคลายการสวมหน้ากาก มีกิจกรรมรวมตัวจำนวนมากเนื่องจากเข้าใกล้เทศกาลช่วงปลายปี ทำให้ผู้คนมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางคนอาจจะติดเชื้อซ้ำได้ ดังนั้น ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนเลยขอให้รีบมารับวัคซีนโดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง หรือหากรับวัคซีนเข็มล่าสุดนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป ก็ขอให้มารับเข็มกระตุ้นได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น และปลอดภัยจากโควิดมากขึ้น
https://mgronline.com/qol/detail/9650000110150
ติดตามข่าวโควิดกันต่อนะคะ.....