AIS ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาให้ผู้บริโภคอย่างเต็มที่จริงรึป่าว

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประสบปัญหาการใช้อินเทอร์เน็ต มีการโทรเข้าไปแจ้งที่ศูนย์หลายครั้ง และทำตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่แนะนำ แต่ก็ยังเจอปัญญาเดิมอีก จนเจ้าหน้าที่ได้ส่งเคสให้ทีมวิศวกรช่วยตรวจสอบ และแจ้งกลับว่า ที่เราใช้บริการอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยได้ เนื่องจากระแวกบ้าน มีผู้ใช้บริการเครือข่ายของค่ายนี่เยอะ ทำให้สัญญาแย่งกัน เราเลยใช้งานไม่ค่อยได้ คำถามแรกคือ วิธีการแก้คืออะไร เจ้าหน้าที่ไม่มีคำตอบ เราเลยตัดสินใจต้องย้ายค่าย เพราะกระทบต่อการทำงานค่อนข้างมาก

ตัดสินใจไปย้ายค่าย ทั้งมือถือ และเน็ตบ้าน กลับพบเครื่องแจ็คพ็อตกว่า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถทำการย้ายได้ เนื่องจากมีการค้างชำระ อีกเบอร์ภายใต้ บัตรประชาชนชื่อเราอยู่ คำถามต่อมาคือ เบอร์อะไร เบอร์ของใคร เพราะเรามีแค่ 2 เบอร์เท่านั้นที่ใช้ภายใต้เครือข่ายนี้ ตรวจสอบไปมาจึงรู้ว่า เป็นการเปิดเบอร์มงคล ออนไลน์ และค้างชำระ จนทางข่ายต้องระงับไป เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ให้เราไปแจ้งความ นำเอกสารมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการตรวจสอบ ถ้าพบว่าเราโดนแอบอ้าง ทางข่ายจะทำการยกเว้นค่าบริการในส่วนที่ชำระให้

เราก็ดำเนินส่งเอกสาร พร้อมใบแจ้งความต่างๆ หลังจากนั้น ประมาณ 1 เดือนโทรสอบถามไปยัง call center ถึงความคืบหน้า เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องใช้เวลาตรวจสอบ แต่จะไม่เกิน 90 วัน วันนี้เราโทรกลับไปยัง call center อีกครั้ง เนื่องจากครบกำหนด 90 วัน และไม่ได้รับการติดต่อ อัพเดตความคืบหน้าใดๆ
Call center ได้ส่งเรื่องประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่อง ให้ติดต่อกลับ

เย็นวันนั้น จนท ติดต่อกลับและแจ้งว่าเคสเราโดน reject เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่า มีการส่งเอกสารที่เป็นรูปถ่ายคู่บัตรประชาชนเข้าไป 
เลยเกิดเป็นคำถามตามมาว่า
1. ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิจารณาจากหลักฐานแค่นี้ ทำไมถึงให้เราไปขอเอกสารจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาขอตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะ เจ้าหน้าประจำสาขาเป็นคนแจ้งเราตั้งแต่แรกว่ามีเอกสารพวกนี้ใช้ในการเปิดเบอร์ จะให้เราไปเสียเวลาดำเนินการขอเอกสาร ทำไม ถ้าตัดสินจากหลักฐานแค่นี้
2. 90 วันที่ใช้ในการพิจารณา เจ้าหน้าพิจารณาตรวจสอบจากหลักฐานอะไรหรอ เพราะดูเหมือนกับว่า 90 วันที่เรารอมา ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าจากวันแรกเลย
3.เราถามเจ้าหน้าที่ว่าตรวจสอบจากหลักฐานจากแค่ถ่ายรูปคู่บัตรประชาชนอย่างเดียวเลยหรอ เพราะเราเคยทำโทรศัพหายและในนั้นมีภาพถ่ายเอกสารที่เราถ่ายเพื่อทำธุรกรรมอื่นอยู่ในแกลอรี่  และหลักฐานอื่นๆ เช่นไฟล์เสียงที่ทุกครั้งเวลาโทรเข้าศูนย์ แล้วอัดเสียงไว้ ได้มีการตรวจสอบไหม เจ้าหน้าที่ตอบกลับเราว่า เป็นการเปิดผ่านเฟสบุ๊ค
4.เรายิ่งสงสัยไปมากกว่าเดิมว่า เดียวนี่การเปิดเบอร์มันทำได้ง่ายขนาดนี้เลยหรอ แค่ส่งเอกสาร พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผ่านแชทเฟสบุ๊ค ไม่ต้องมีการยืนยันตน ไม่ต้องมีการเสียบบัตรประชาชนยืนยันตัวทุกครั้ง เช่นเดียวกับที่ดำเนินการที่เซเว่น  หรือสาขา ทุกอย่างสามารถดำเนินการเสร็จได้ง่ายๆ เพียงแค่มีรูปถ่ายบัตรประชาชน ส่งเอกสารแล้วจบ โดยไม่ต้องสนทนาหรือยืนยันตัวใดๆ กับเจ้าหน้าที่เลย
5.เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลแต่ละครั้ง ก็ให้แตกต่างกันไปทุกครั้ง ครั้งแรกที่สาขาบอกเป็นทำการเปิดที่สาขาปิ่นเกล้า เราขอดูภาพถ่ายยืนยันตัว เพราะเวลาทำการเปิดเบอร์ เจ้าหน้าที่จะต้องขอถ่ายรูปทุกครั้ง เจ้าหน้าไม่ได้ให้เราดู บอกว่าต้องไปขอใบแจ้งความมาก่อน เพื่อทำการตรวจสอบ ครั้งที่สองเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นการเปิดออนไลน์ แต่เจ้าหน้าที่ประจำสาขาปิ่นเกล้าดำเนินการ เราขอฟังไฟล์เสียงที่อัด หรือให้ตรวจสอบจากตรงนั้น เจ้าหน้าที่รับเรื่องบอกใช้เวลา 90 วัน ล่าสุดข้อมูลที่ได้รับ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นการเปิดออนไลน์ ผ่านแชทเฟสบุ๊ค เจ้าหน้าที่สาขาปิ่นเกล้าทำให้ เลยไม่มีคลิปเสียงให้ตรวจสอบ

เราเริ่มสงสัยในการทำงานเรื่องการพิจารณาคดี ในการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมของทาง Ais ว่าเจ้าหน้าที่มีวิธีการในการตรวจสอบเรื่องนี้ยังไง เวลาผ่านมาแล้ว 92 วัน ข้อมูลที่ได้ยังคงเหมือนวันแรกที่เราส่งเรื่องขอดำเนินการทุกอย่าง ผ่านมา 92 วันเราไม่เห็นความคืบหน้าหรือข้อมูลตรงไหนแตกต่างจากวันแรกเลย นอกเหนือจาก เปิดบริการผ่านแชทเฟสบุ๊ค เราถาม จนท ต่อว่าได้มีการตรวจสอบไปที่แอคเค้าที่ขอเปิดเบอร์เข้าไหม จนท บอกไม่มี เดี๋ยวจะประสานให้สาขาตรวจสอบเพิ่ม แล้ว 92 วันที่ผ่านมา คุณตรวจสอบอะไร ได้ตรวจสอบหรือดำเนินการบ้างไหม เพราะฟังดูจากข้อมูลที่ได้ เหมือนเคสเราไม่ได้รับการดูแลใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่