กลับมาอีกครั้งกับค่าย HUAWEI ในครั้งนี้เปิดตัวเจ้า HUAWEI MateBook X Pro รุ่นใหม่ล่าสุดมาได้อย่างน่าประทับใจมาก เพราะพัฒนาขึ้นในทุกๆจุด ไม่ว่าจะเป็นสเปกหน้าจอ ประสิทธิภาพการใช้งาน ลงตัวตอบโจทย์รวดเร็วกว่ารุ่นก่อนๆมาก เหมาะกับทุกๆสายอาชีพจริงๆ อีกทั้งยังคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆเมื่อเทียบกับคุณประโยชน์ที่เราจะได้ การออกแบบดีไซน์ก็แปลกใหม่สะดุดตา วัสดุเกรดพรีเมียม แข็งแรงทนทานใช้งานได้แบบไม่ต้องเป็นกังวลเลย หลายๆคนคงอยากจะทราบกันแล้วว่าในรุ่นนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง มีฟีเจอร์ไหนเพิ่มมาให้ต้องบ้าง เราไปอ่านรีวิวพร้อมๆกันได้เลย



HUAWEI MateBook X PRO มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel® CoreTM i7-1260P และการ์ดจอ Intel® Iris® Xe Graphics ที่ให้ RAM 16GB LPDDR5 ROM 1TB NVMe PCIe® SSD รองรับการใช้งานสบายๆ หน้าจอแบบ LTPS Touchscreen ขนาด 14.2 นิ้ว ความละเอียดสวยคมชัด ค่ารีเฟรชเรท 90Hz ให้ค่าความสว่าง 500 nits รวมไปถึงฟีเจอร์ป้องกันแสงสีฟ้าก็ยังคงมีมาให้ พอร์ตเชื่อมต่อในรุ่นนี้ให้มาอย่างครบครัน รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ รองรับเครือข่าย Wi-Fi IEEE 802.11a/b/g/n/ac/ax, 2.4GHz/5GHz, 2×2 MIMO และ Bluetooth 5.2 ในส่วนของแบตเตอรี่ให้มามากถึง 60Wh รองรับการชาร์จไวแบบ SuperCharge 65W ด้วยนะ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆอีกมากมายมาให้ใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม



UNBOX

- ตัวเครื่อง HUAWEI MATEBOOK X PRO
- Adapter mini USB-C 65W
- สายชาร์จไฟ USB-C
- สาย Adapter HUAWEI USB-C OTG
- คู่มือการใช้งานพร้อมบัตรรับประกัน







DESIGN

การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้มีความสวยโดดเด่นแปลกตามากๆ มาพร้อมกับ Ink Blue หรือสีฟ้าอ่อนๆ ดูหรูหราดูแพงละมุมตามากๆ ใช้วัสดุแมกนีเซียม อัลลอยด์ ที่มีความแข็งแรงทนทานน้ำหนักเบา พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบาย มีการเคลือบผิวแบบ Micro-arc oxidation ในลักษณะพื้นผิวด้าน ป้องกันลายนิ้วมือ รอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี แถมการเคลือบแบบนี้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนะ ทั้งดูดีสวยและรักษ์โลกอีกด้วย เนื้อสัมผัสเนียนไม่มีที่ติ น่าสัมผัสสุดๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือการสลักชื่อค่ายไว้ตรงกลางของฝากหลังด้วยสีเงินที่ตัดกับสีตัวเครื่องได้อย่างโดดเด่นลงตัว





ทางด้านข้างของตัวเครื่องทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อที่ใส่เรียงมาให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและเป็นระเบียบเรียบร้อยมากๆ และจะเห็นได้ว่าตัวเครื่องมีความบางมากๆ ประหยัดพื้นที่ในการเก็บใช้งานได้เป็นอย่างดีเลยแหละ



ในส่วนของฐานเครื่องนั้นจะเป็นพื้นผิวโล่งๆโชว์เนื้อสัมผัสที่ละมุมมือ มีฐานนูนที่ไว้สำหรับรองเครื่องทั้ง 4 มุมมาให้ใช้งาน เพื่อให้ตัวเครื่องไม่แนบติดกับพื้นจนไม่มีรูระบายความร้อน ในส่วนที่ทางค่ายใส่ใจได้ถูกจุดจริงๆ





คีย์บอร์ดในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับสีดำสนิท โดดเด่นตัดกับสีเครื่องได้อย่างลงตัวมากๆเลย มองยังไงก็เข้ากัน อีกทั้งตัวอักษรของคีย์บอร์ดนั้นเป็นสีขาว จึงช่วยให้เราสามารถใช้งานได้ง่าย มองได้อย่างชัดเจน ระยะการจัดวางต่างๆลงตัว สำหรับใครที่ใช้งานค่ายนี้บ่อยๆแล้วนั้นไม่ต้องปรับอะไรเลย ใช้งานง่ายเช่นเดิม ในส่วนของ TouchPad มีขนาดกำลังพอดีมือ ใช้งานได้ลื่นไหลตามนิ้วได้ดี สุดท้ายเลยคือปุ่ม Power ที่อยู่ในมุมขวาของคีย์บอร์ดโดนปุ่ม Power ในรุ่นนี้สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานได้ด้วยนะ เป็นอะไรที่สวยครบจบแล้วก็ปังสุดๆ



ทางด้านของกล้องหน้าในรุ่นนี้จะถูกฝังเอาไว้ในบริเวณขอบจอด้านบนแบบเนียนๆ ไม่มีติ่งหยดลงมาให้รกหน้าจอเลย



SCREEN 

หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอ LTPS Touchscreen ขนาดใหญ่จุใจอยู่ที่ 14.2 นิ้ว ความละเอียด 3120×2080 พิกเซลเลย อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 92.5% และมีอัตราส่วนภาพ 3:2 มาพร้อมกับค่ารีเฟรชเรท 90Hz หน้าจอสวยคมชัดทุกมิติอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีมุมมองหน้าจอ 178 องศา มาพร้อมกับอัตราส่วนความคมชัด 1500:1 สีสวยคมชัดแม่นยำ เสมือนจริงมากๆ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมไหนๆก็สนุกเต็มที่ เพลิดเพลินอย่างแน่นอน ให้ประสบการณ์ภาพเต็มรูปแบบ เก็บครบทุกรายละเอียดภาพ รองรับต่อการใช้งานตัดต่อ ออกแบบกราฟิกได้ชิลๆ ให้ค่าความสว่างมาถึง 500 nits จากการทดสอบใช้งานนอกอาคารนอกสถานที่แล้วนั้น สามารถสู้แสงได้ดี เก็บรายละเอียดได้คมชัดทุกจุด เรียกได้ว่าใช้งานนอกสถานที่แบบไม่มีปัญหาอะไรเลย แล้วที่ขาดไม่ได้เลยคือฟีเจอร์ถนอมสายตาที่ยังคงมีมาให้เช่นเดิม ภาพรวมของหน้าจอในรุ่นนี้ออกแบบมาได้ดีมาก ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างลงตัว





SPEC

- Intel® CoreTM i7-1260P
- การ์ดจอ Intel® Iris® Xe Graphics
- RAM : 16GB LPDDR5
- ROM : 1TB NVMe PCIe® SSD
- หน้าจอ LTPS Touchscreen ขนาด 14.2 นิ้ว (3120×2080), อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 92.5%, อัตราส่วนภาพ 3:2, ค่ารีเฟรชเรท 90Hz, มุมมองหน้าจอ 178 องศา, ความสว่าง 500 nits, อัตราส่วนความคมชัด 1500:1, P3 wide color gamut
- กล้อง 720P FHD
- เซนเซอร์ Light Sensor, fingerprint sensor, Hall sensor, pressure sensor
- ขนาดตัวเครื่อง 310 มม. × 221 มม. x 15.6 มม.; น้ำหนักประมาณ 1.26 กิโลกรัม
- พอร์ตการเชื่อมต่อ Thunderbolt 4 x 2, All-Purpose USB-C x 2, รู 3.5 มม.
- รองรับเครือข่าย Wi-Fi: IEEE 802.11a/b/g/n/ac/ax, 2.4GHz/5GHz, 2×2 MIMO, Bluetooth 5.2
- แบตเตอรี่ 60Wh รองรับการชาร์จไวแบบ SuperCharge 65W
- ลำโพง x 6 / ดิจิทัลไมโครโฟน x 4
- รองรับ HUAWEI Free Touch 8 ท่าทางการสัมผัส
- Color : Ink Blue



PERFORMANCE 

ทางด้านของการใช้งานในรุ่นนี้จะใช้งานโปรเซสเซอร์ Intel® CoreTM i7-1260P ที่มาพร้อมกับ RAM 16GB LPDDR5 ROM 1TB NVMe PCIe® SSD ช่วยให้ทำงานได้อย่างราบรื่น ยกระดับการใช้งานให้มีคุณภาพ แน่นอนเลยว่าใช้งานอย่างหนักหน่วงแค่ไหนก็ไม่มีปัญหามากวนใจ และรุ่นนี้จะใช้งานการ์ดจอในตัว Intel® Iris® Xe Graphics รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายมากๆ หน่วยความจำต่างๆให้มาเยอะจุใจ งานโหดแค่ไหนก็เอาอยู่ ไม่ว่าจะเรนเดอร์ไฟล์ใหญ่ๆ กราฟิก ตัดต่อ ออกแบบ เจ้าตัวนี้ก็ไม่มีหวั่นเพราะมาพร้อมกับสเปกประสิทธิภาพการใช้งานที่เร็วแรงโหดโดนใจกว่าเดิม



3D MARK 

ทางด้านของการทดสอบคะแนนในรุ่นนี้สามารถทำคะแนนไปได้สูงในระดับนึงเลยนะ โดยในตัว Time Spy Score ทำคะแนนอยู่ที่ 1734 คะแนน ตามมาด้วย Night Raid Score ทำคะแนนไปสูงถึง 10718 คะแนน ถือว่าคะแนนอยู่ในระดับที่ดีมากๆเลย สุดท้ายในตัว Fire Strike Score ทำคะแนนไปได้ 3092 คะแนน ภาพรวมคะแนนทำออกมาในระดับที่น่าประทับใจอยู่นะ และแน่นอนว่าการทดสอบการใช้งานนั้นยังคงทดสอบในสภาพอากาศที่ปกติเช่นเดิม ผลที่ได้มาก็เป็นที่น่าพึงพอใจอยู่เป็นอย่างมากรองรับการใช้งานได้ชิลๆ



CINEBENCH R15-20-23

ทางด้านของการทดสอบตัวนี้คะแนนจะวัดที่ CPU ล้วนๆเลย โดยสามารถทำคะแนนไปได้ 1215 cb และทำไปได้ 99.92 fps คะแนนออกมาสูงกว่ารุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัดเลย ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 2757 cb คะแนนดีเลยนะ น่าประทับใจมาก และสุดท้ายในตัว R23 ทำคะแนนไปได้ 6917 pts ในแง่การประมวลผลของ CPU ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 3423 ส่วนเขียนที่ 1332 คะแนน เรียกได้ว่าการอ่านเขียนนั้นไวทันใจ ทั้งด้านของ CPU การใช้งานต่างๆทำออกมาได้ดี ตอบสนองทันใจ ไม่อืดไม่ค้าง รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลายเลยแหละ



FEATURE 

ทางด้านของฟีเจอร์ที่มีมาให้ในรุ่นนี้เรียกได้เลยว่าเราต้องได้ใช้งานจริงอย่างคุ้มค่าแน่นอน เพราะทางค่ายออกแบบพัฒนามาให้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Super Device การเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน Gadget ต่างๆ ที่เชื่อมต่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว หรือ HUAWEI PC Manager ที่มีมาให้ใช้งาน ตามมาด้วยฟีเจอร์ Performance mode ที่เพียงกด Fn+P ก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้นถึง 30% ฟีเจอร์ Refresh rate switchover ฟีเจอร์ Display management จะเป็นในส่วนของกาคควบคุมหน้าจอให้เป็นไปในรูปแบบที่เราต้องการ สามารถปรับได้ตามใจชอบเลยนะ ฟีเจอร์ HUAWEI one-key recovery ที่เพียงกด F10 ก็สามารถใช้งานได้แล้ว และฟีเจอร์สุดท้าย HUAWEI Free Touch ที่เป็นฟีเจอร์น้องใหม่ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำสมัยที่สามารถคอนโทรลแล็ปท็อปผ่าน TouchPad ได้ด้วย 8 ท่าทาง







MATEBOOK X SMARTPHONE 

ในส่วนของการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน บอกได้เลยว่าหลายๆคนนั้นใช้งานเป็นประจำกันอยู่แล้ว เพราะสะดวกสบายต่อการทำงาน โยกย้ายไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาได้มากขึ้น ไม่ต้องเสียบสายอะไรให้ยุ่งยากเสียเวลาเลย อีกทั้งยังสามารถควบคุมการทำงานด้วยในรูปแบบที่ว่าจะมีการแจ้งเตือนเด้ง หรือมีข้อมูลไหนเด้งขึ้นมา เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหยิบสลับเพื่อจะเข้าไปดู เรียกได้ว่าฟีเจอร์นี้ยังคงจำเป็นมากๆต่อการใช้งาน เพราะสะดวกรวดเร็ว เชื่อมต่อง่าย อำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ในการใช้งานในยุคปัจจุบันสุดๆ เพราะแค่มี HUAWEI MateBook X Pro กับสมาร์ตโฟนคู่ใจก็สามารถโยกย้ายไฟล์ รูปภาพ วิดีโอ ผ่านกันไปมาได้ง่าย รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องพกอะไรเยอะแยะเลย



WORKING 

ทางด้านของการทำงานประสิทธิภาพต่างๆออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆเยอะ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของชิปประมวลผล CPU ความจุหน่วยความจำ พัฒนาได้ดีขึ้นตอบโจทย์ทุกการใช้งานมากขึ้น ในรุ่นนี้ใช้งาน Intel® CoreTM i7-1260P RAM 16GB LPDDR5  ROM 1TB NVMe PCIe® SSD มาพร้อมกับการ์ดจอในตัวอย่าง Intel® Iris® Xe Graphics  เรียกได้ว่าใช้งานได้สบายทุกไลฟ์สไตล์ของจริง รองรับการทำงานได้อย่างหลากหลาย ภาพรวมไม่ติดปัญหาอะไรให้น่าเป็นกังวลเลย ความไหลลื่นเร็วแรงยังคงทำมาได้น่าประทับใจ ทางค่ายใส่ใจทุกรายละเอียดของเครื่องมากๆ แน่นอนว่าใครได้เป็นเจ้าของต้องหลงรักเหมือนแอด