HUAWEI เปิดตัวรุ่นใหม่มานั้นก็คือ HUAWEI MateBook D15 new ที่มาพร้อมกับการพัฒนาที่โหดขึ้นเทพขึ้น ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์ Super Device ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลของอุปกรณ์เสริมอื่นๆ การเชื่อมต่อที่เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น พร้อมดีไซน์สุดพรีเมียมสีสันดูดีมีราคา ถือว่าการกลับมาในครั้งนี้น่าสนใจมากๆ และยิ่งด้วยรุ่นนี้มีความบางพิเศษจึงทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่การใช้งานบนหน้าจอให้เราได้จุใจกันอีกด้วย สเปกดีราคาโดนใจ พกพาไปไหนก็ง่ายสบาย เพราะมีน้ำหนักเพียงแค้ 1.56 กิโลกรัมเท่านั้น แต่ก็ให้แบตเตอรี่มาไม่น้อยหน้านะ ในเรื่องของหน้าจอก็โหดในระดับนึงเลย สู้แสงได้ดีไม่มีปัญหา รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบและหลากหลายสถานการณ์ จึงทำให้รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสุดๆ ในการตัดสินใจซื้อ เมื่อเทียบกับราคาแล้วก็ต้องร้องว้าวกับความคุ้มค่า





HUAWEI MateBook D15 new มาพร้อมกับ หน้าจอ IPS ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 Full HD อัตราส่วนภาพ 16:9  มีมุมมองหน้าจอ 178 องศา แสดงความสว่างได้ 250 nits สามารถแสดงสีสันได้อย่างคมชัดและละเอียดมาก พร้อมชิปประมวลผล Intel® CoreTM i5-1135G7 ตัวโหด การ์ดจอ Intel® Iris® Xe Graphics RAM 8GB DDR4 ROM NVMeTM PCIe® SSD และ 256GB/512GB NVMeTM PCIe® SSD รองรับการใช้งานได้อย่างเหลือๆเลยแหละ อีกทั้งยังมีกล้อง HD recessed camera 720P แบบที่ซ่อนในแป้นพิมพ์มาให้เราได้ใช้งานด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ระบบเซนเซอร์สแกนนิ้วบนปุ่ม power button และ Hall Sensor ที่เอื้อต่อการใช้งานแบบขั้นสุด พอร์ตการเชื่อมต่อก็ให้มาอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น USB-A 2.0, 2 USB-C, 1 HDMI และ 1 ช่องเสียบหูฟัง 3.5มม. มาพร้อมกับลำโพงคู่และไมโครโฟนคู่อีกด้วย แบตเตอรี่ขนาดจุใจถึง 42Wh รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home เรียกได้ว่าสเปกการใช้งานพัฒนาขึ้นมาได้ดีมากๆ ตอบโจทย์ในทุกๆการใช้งานได้อย่างลงตัว

ราคาที่เปิดตัวมาในรุ่นนี้นั้นอยู่ที่ 24,990 บาท (8+512GB) และ 22,990 บาท (8+256GB) 



UNBOX

- ตัวเครื่อง
- adapter HUAWEI USB-C 65W
- สายชาร์จ Charger Cable USB-C
- คู่มือการใช้งาน



DESIGN

การออกแบบดีไซน์นั้นตัวเครื่องมาพร้อมกับดีไซน์โฉบเฉี่ยวบางเบา เน้นไปในเรื่องของการพกพามากกว่า ใช้วัสดุอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง คงทนแต่น้ำหนักเบาด้วยน้ำหนักเพียง 1.56 กก. เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานในทุกสถานที่ มาพร้อมกับระบบเสียงกระหึ่มถึงใจ เสพความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะดูภาพยนตร์หรือเล่นเกมส์ ทำกิจกรรมไหนๆ ก็เอาอยู่ได้แบบสบายๆ  มาพร้อมกับสี Mystic Silver ที่ดูดีมีสเน่ห์มากๆ เป็นสีเทาที่พอมาอยู่กับรุ่นนี้แล้วลงตัวสุดๆ ตัดกับสีแป้นพิมพ์ที่มีสีดำแล้วเข้ากันมาก ที่สำคัญเลยคือสีนี้สามารถปกปิดรอยนิ้วมือขณะใช้งานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งหน้าจอยังใหญ่จุใจถึง 15.6 นิ้ว มีความบางของหน้าจอที่บางพิเศษทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่หน้าจอได้มากขึ้นด้วย



ขอบของหน้าจอมีความบางมาก จะมีเพียงด้านล่างที่มีของหน้าจอที่ใหญ่กว่าขอบด้านอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มากกว่าเดิมมากเลยนะ พร้อมกับสลักชื่อ HUAWEI ไว้ตรงกลางด้วยตัวอักษรสีขาวที่โดดเด่น



ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นในส่วนของแถบระบายความร้อนที่เป็ยแถวยาว มีระบบระบายความร้อนอย่างดีใช้พัดลมเพียงแค่ตัวเดียว จากการใช้งานแล้วนั้นสามารถควบคุมเสียงการทำงานได้เบามากๆ ถ้าไม่ตั้งใจฟังจะไม่ได้ยินเลย



ด้านหลังของหน้าจอนั้นจะเป็นพื้นผิวสีเนียนเรียบ ดูวาวตา พร้อมกับสลักชื่อค่าย HUAWEI เด่นๆเช่นเคย ทำให้ดูเรียบๆแต่ดูดึงดูดสายตามากเป็นพิเศษ



แป้นพิมพ์ที่มาในรุ่นนี้นั้นจะเป็นสีดำสนิทและใช้ตัวอักษรสีขาว ทำให้ตัดกับสีของตัวเครื่องแต่ยังคงสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อม Touch Pad ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เพลิดเพลิน และในส่วนของขอบหน้าจอในส่วนข้างนั้นมีความหนาอยู่ในระดับนึงแต่ก็ยังเป็นขนาดที่กำลังเหมาะสม ไม่ใหญ่จนเกินไปนะ





ปุ่มเปิด/ปิดที่มาพร้อมระบบอ่านลายนิ้วมือ “Fingerprint Power Button” ช่วยให้เจ้าของเครื่องสามารถเปิดใช้งานเครื่องแล็ปท็อปได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์รหัสปลดล็อกเครื่องให้เสียเวลา



SPEC

- Intel® CoreTM i5-1135G7
- การ์ดจอ Intel® Iris® Xe Graphics
- RAM : 8GB DDR4
- ROM : NVMeTM PCIe® SSD และ 256GB/512GB NVMeTM PCIe® SSD
- หน้าจอ IPS ขนาด 15.6 นิ้ว Full HD, อัตราส่วนภาพ 16:9, มุมมองหน้าจอ 178 องศา, ความสว่าง 250 nits
- ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home
- ลำโพงคู่และไมโครโฟนคู่
- กล้อง HD recessed camera 720P แบบซ่อนในแป้นพิมพ์
- เซนเซอร์สแกนนิ้วบนปุ่ม power button และ Hall Sensor
- ขนาดตัวเครื่อง 357.8 มม. × 229.9 มม. x 16.9 มม.; น้ำหนักประมาณ 1.56 กิโลกรัม
- พอร์ตการเชื่อมต่อ USB-A 2.0 x 2 USB-C x 1 HDMI x 1 ช่องเสียบหูฟัง 3.5มม.
- รองรับเครือข่าย Wi-Fi: IEEE 802.11a/b/g/n/ac/ax, 2.4GHz/5GHz, 2×2 MIMO, Bluetooth 5.1
- แบตเตอรี่ 42Wh
- Color : Mystic Silver



PERFORMANCE 

ในรุ่นนี้จะใช้งาน โปรเซสเซอร์ Intel® CoreTM i5-1135G7 RAM 8GB DDR4 ROM NVMeTM PCIe® SSD และ 256GB/512GB NVMeTM PCIe® SSD และรุ่นนี้จะมาด้วยการ์ดจอในตัว Intel® Iris® Xe Graphics รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายเลยแหละ รองรับ Windows 11 Home เช่นเดิม ถือว่าเรื่องสเปกรองรับการใช้งานระดับกลางไปสูงได้สบายไม่ติดปัญหาอะไรเลย





PCMARK คะแนนทำได้ 4581 คะแนน ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเสมือนกับทำงานจริงๆ เรียกว่าคะแนนก็สูงอยู่พอสมควรเลยนะ สามารถรองรับการทำงานทั่วไปสบายๆไม่ติดปัญหา ทางด้านความร้อนนั้น CPU และ GPU ยังคงทำได้ดี สำหรับการทดสอบนี้ใช้ในสภาพอากาศปกติ



3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Wild Life Extreme / Night Raid / Wild Life ถือว่าทำคะแนนได้ดีจนน่าประทับใจเลย คะแนนในส่วนของ Wild Life Extreme ตัวนี้ทำได้  3174 คะแนนอาจจะยังไม่สูงมากนัก แต่ยังพอรับได้อยู่ในการใช้งาน ส่วนเรื่องคะแนน Night Raid  นั้นทำไปได้ 15436 คะแนน ถือว่าดีเอาเรื่องได้เลย และในตัว Wild Life นั้นทำไปได้ 11147 คะแนน ในเรื่องของการทดสอบการใช้งานนั้นแน่นอนว่ายังคงทดสอบในสภาพอากาศที่ปกติเช่นเดิม และผลที่ได้มาก็เป็นที่น่าพึงพอใจอยู่เป็นอย่างมาก สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายได้แบบชิลๆสบายๆเลยแหละ



CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 646 และทำไปได้  89.68 FPS ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดีอยู่ และในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1278 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 2491 ส่วนเขียนที่ 1890 คะแนน จากทดลองใช้งานจริงแล้วนั้น ถือว่าการอ่านเขียนนั้นไวและสามารถใช้งานได้ดีจริงๆ อีกทั้งครั้งนี้ยังให้มา 512GB เช่นเดิมเลย เรียกได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานมากและความเร็วความจุนั้นสบายๆ ทางค่ายพัฒนามาให้ได้ดีขึ้น เป็นอีกค่ายที่น่าไว้วางใจในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งาน ในรุ่นนี้แอดถือว่าตอบโจทย์





HUAWEI SUPER DEVICE 

HUAWEI MateBook D 15 รองรับการใช้งานฟีเจอร์ HUAWEI Super Device ใน Control Panel ของแล็ปท็อป พร้อมอินเทอร์เฟซ “ลากเพื่อเชื่อมต่อ” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงรูปภาพและไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต รวมทั้งเชื่อมต่อหน้าจอแบบไร้สายได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ยกระดับการทำงานให้ลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถทำงานข้ามไปมาระหว่างดีไวซ์ได้อย่างง่ายดาย เป็นการยกหน้าจอมือถือขึ้นไปบนคอมเหมาะสำหรับคนที่ใช้ ECOSYSTEM แบบครบๆเลยครับ ตอนนี้ทาง Huawei ก็ได้ทำออกมาเช่นกันแต่พัฒนาขึ้นให้กับ Huawei Super Device ด้วยกันเองทำให้เราไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาก็สามารถใช้งานมือถือบนหน้าจอคอมของเราได้เลย ดูแจ้งเตือนเข้าไลน์หรือจะเป็นการย้ายไฟล์ ลากไปมาได้เลยว่าจะเป็นรูป หรือ วิดีโอไฟล์งานทุกอย่างนั้นสามารถทำได้ทั้งหมด และในรุ่นนี้มีการพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมเข้ามา อีกทั้งฟีเจอร์ในการ Video Call MeeTime ก็ทำได้ผ่านคอมพิวเตอร์แล้วและสามารถรับสายอะไรและใช้งานลำโพงของตัวคอมพิวเตอร์ถือว่าดีมากๆ





เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนของหัวเว่ย สามารถเปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันมือถือจากบนจอแล็ปท็อปได้ถึง 3 แอปพลิเคชันพร้อมกัน เข้าถึงและรับส่งไฟล์ต่างๆ ที่บันทึกไว้บนสมาร์ตโฟนจากแล็ปท็อปด้วยการลากและวาง รวมถึงสามารถแก้ไขไฟล์ที่อยู่บนสมาร์ตโฟนผ่าน HUAWEI MateBook ได้ โดยทุกการเปลี่ยนแปลงจะถูกบันทึกไปยังสมาร์ตโฟนโดยอัตโนมัติ พร้อมให้แชร์ไฟล์ต่อได้ทันที



เชื่อมต่อกับ HUAWEI MatePad โดยเลือกโหมดการเชื่อมต่อได้ถึง 3 โหมด คือ Mirror Mode ที่หน้าจอของแล็ปท็อปจะแสดงภาพหน้าจอเดียวกันบนแท็บเล็ต, Extend Mode ที่ใช้แท็บเล็ตเป็นหน้าจอที่ 2 แสดงเนื้อหาที่แตกต่างกัน และ Collaboration Mode ที่ช่วยให้สามารถจัดการไฟล์บนแท็บเล็ตจากแล็ปท็อปได้โดยตรง



เมื่อเปิด Mirror Mode หน้าจอแล็ปท็อปของคุณจะถูกแสดงขึ้นบนหน้าจอแท็บเล็ตที่สามารถพร้อมใช้ในการเขียนได้ทันที ไม่ว่าคุณจะเขียนหรือวาดรูปบนแท็บเล็ตด้วย M-Pencil จะแสดงผลทันทีไปยังหน้าจอแล็ปท็อปของคุณ นี่คือตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานการออกแบบอย่างมืออาชีพ เป็นการทำหน้าจอให้เหมือนกัน สั่งงานได้ทั้งหมดเลยนั้นเองครับ



เมื่อเปิด Extend Mode สามารถลาก แอปฯ/หน้าต่าง บนแล็ปท็อปสู่แท็บเล็ตได้ทันที ขณะประชุมหน้าจอหนึ่ง คุณสามารถเช็กไฟล์หรือแก้ไขงานในอีกหน้าจอไปพร้อมกัน ตอบสนองการทำงานอันหลากหลายได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับการต่อจอที่ 2 ในคอมพิวเตอร์ต่างๆ และสามารถโยนไปมาได้ในแอปต่างๆด้วยเช่นกัน