ต้องขอเกริ่นก่อนนะคะว่าแม่เราพึ่งคบกับคน ๆ นี้ได้ปีกว่าก่อนจะพามาเจอครอบครัวค่ะ แม่บอกว่าเขาเป็นคนดีตั้งใจทำงาน ช่วงนั้นคือเราอยู่บ้านที่เชียงใหม่ ไม่ได้สนใจอะไรเขามากค่ะจนเราต้องย้ายมาอยู่โคราชเพราะแม่มาเปิดร้านอาหารกับเขาที่นี่เขาก็เริ่มทำตัวแปลก ๆ ค่ะ
ตอนที่มาแรก ๆ ยังไม่รู้จักใครเท่าไหร่เลยเช่าบ้านนอนด้วยกัน 3 คน พ่อเลี้ยง แม่ แล้วก็เรา มันจะมีช่วงนึงที่แม่ไปอาบน้ำ เขาก็เริ่มจับหน้าอกเรา เอามือเราไปจับอันนั้นของเขา เรารู้สึกแย่มาก เราบอกแม่แล้วแม่ก็ไปถามเขาตรง ๆ เลยค่ะ เขาก็ตอบมาว่าไม่ได้ทำ เราละเมอหรือเปล่า คิดไปเองหรือเปล่าค่ะ
เราเลยแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว รู้สึกปลอดภัยกว่าในช่วงแรก ๆ แต่ก็ยังเจอกับเขาที่ร้านบ่อย เพราะเราไปช่วยแม่เปิดร้านค่ะ ช่วงนั้นดีขึ้นมาหน่อย เขาไม่มาจับเนื้อต้องตัวเราแล้วเราเลยรู้สึกสบายขึ้นค่ะ
จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อนแม่กับเขามาหาเราที่ห้องค่ะ ด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามเรายอมให้แม่กับเขาเข้าห้องค่ะ ตอนนั้นยังไม่มีอะไรแต่พอผ่านไปวัน - สองวัน เขาก็มาที่ห้องเราอีกค่ะ อ้างว่าจะยืมใช้คอมพิวเตอร์หน่อย เพราะเขาต้องทำงาน เราก็ให้เขายืมค่ะ อันนี้คือเราเห็นหน้างานว่าตอนนี้เขาทำงานตรงนี้ จริง ๆ เข้าใจว่ามันจำเป็น เราไม่ได้สนใจเขาแล้วออกไปข้างนอกค่ะ
พอกลับห้องมาห้องเราเหมือนโดนค้นค่ะ ของที่อยู่ในกล่อง / ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ มันไม่อยู่สภาพเดิมค่ะ
เรารู้สึกเอะใจแปลก ๆ แล้ว แต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานว่าเขาทำ หลังจากนั้นมันก็เริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ เขาเริ่มถามกิจวัตรประจำวันในห้องของเราค่ะ
เหมือนเขารับรู้ว่าเราทำอะไรบ้าง คำถามประมาณว่า เสื้อตัวนี้เมื่อคืนหลังอาบน้ำก็ใส่ไม่ใช่หรอ / เสื้อผ้ากองไว้ตรงมุมห้องซักบ้างนะ / แต่งหน้าไปไหน / เดินทำอะไรในห้องทั้งคืน
ประมาณนี้ค่ะ เราก็นึกว่าเขาถามเล่น ๆ แต่พอนานเข้าก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา คิดว่าเขาติดดล้องไว้ในห้อง จนเราค้นไปค้นมาก็เจอจริง ๆ ค่ะ เป็นกล้องจิ๋ว อันนิดเดียว ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นจริง ๆ
ตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัยมากค่ะ คำถามคือนอกจากต้องมีสติแล้วต้องทำยังไงต่อ กล้องนั้นเราทุบทิ้งไปแล้วเพราะกลัวมาก เราไม่รู้ว่ามันจะมีตรงมุมอื่นอีกไหม
หรือมันเป็นเรื่องปกติของคนที่นี่คะ เราลองปรึกษาหลาย ๆ คนแล้ว บางคนก็บอกเคยเจอหนักกว่านี้อีก ออกข่าวเยอะแยะ
สิ่งที่เราอยากรู้คือเราต้องทำยังไงดี จะย้ายห้องก็ไม่ได้เพราะติดสัญญาอยู่🥲
อีกอย่างเราไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นด้วยค่ะ
พ่อเลี้ยงติดกล้องไว้ในห้องนอนเรา ผิดปกติไหม? แล้วควรทำยังไงดี?
ตอนที่มาแรก ๆ ยังไม่รู้จักใครเท่าไหร่เลยเช่าบ้านนอนด้วยกัน 3 คน พ่อเลี้ยง แม่ แล้วก็เรา มันจะมีช่วงนึงที่แม่ไปอาบน้ำ เขาก็เริ่มจับหน้าอกเรา เอามือเราไปจับอันนั้นของเขา เรารู้สึกแย่มาก เราบอกแม่แล้วแม่ก็ไปถามเขาตรง ๆ เลยค่ะ เขาก็ตอบมาว่าไม่ได้ทำ เราละเมอหรือเปล่า คิดไปเองหรือเปล่าค่ะ
เราเลยแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว รู้สึกปลอดภัยกว่าในช่วงแรก ๆ แต่ก็ยังเจอกับเขาที่ร้านบ่อย เพราะเราไปช่วยแม่เปิดร้านค่ะ ช่วงนั้นดีขึ้นมาหน่อย เขาไม่มาจับเนื้อต้องตัวเราแล้วเราเลยรู้สึกสบายขึ้นค่ะ
จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อนแม่กับเขามาหาเราที่ห้องค่ะ ด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามเรายอมให้แม่กับเขาเข้าห้องค่ะ ตอนนั้นยังไม่มีอะไรแต่พอผ่านไปวัน - สองวัน เขาก็มาที่ห้องเราอีกค่ะ อ้างว่าจะยืมใช้คอมพิวเตอร์หน่อย เพราะเขาต้องทำงาน เราก็ให้เขายืมค่ะ อันนี้คือเราเห็นหน้างานว่าตอนนี้เขาทำงานตรงนี้ จริง ๆ เข้าใจว่ามันจำเป็น เราไม่ได้สนใจเขาแล้วออกไปข้างนอกค่ะ
พอกลับห้องมาห้องเราเหมือนโดนค้นค่ะ ของที่อยู่ในกล่อง / ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ มันไม่อยู่สภาพเดิมค่ะ
เรารู้สึกเอะใจแปลก ๆ แล้ว แต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานว่าเขาทำ หลังจากนั้นมันก็เริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ เขาเริ่มถามกิจวัตรประจำวันในห้องของเราค่ะ
เหมือนเขารับรู้ว่าเราทำอะไรบ้าง คำถามประมาณว่า เสื้อตัวนี้เมื่อคืนหลังอาบน้ำก็ใส่ไม่ใช่หรอ / เสื้อผ้ากองไว้ตรงมุมห้องซักบ้างนะ / แต่งหน้าไปไหน / เดินทำอะไรในห้องทั้งคืน
ประมาณนี้ค่ะ เราก็นึกว่าเขาถามเล่น ๆ แต่พอนานเข้าก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา คิดว่าเขาติดดล้องไว้ในห้อง จนเราค้นไปค้นมาก็เจอจริง ๆ ค่ะ เป็นกล้องจิ๋ว อันนิดเดียว ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นจริง ๆ
ตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัยมากค่ะ คำถามคือนอกจากต้องมีสติแล้วต้องทำยังไงต่อ กล้องนั้นเราทุบทิ้งไปแล้วเพราะกลัวมาก เราไม่รู้ว่ามันจะมีตรงมุมอื่นอีกไหม
หรือมันเป็นเรื่องปกติของคนที่นี่คะ เราลองปรึกษาหลาย ๆ คนแล้ว บางคนก็บอกเคยเจอหนักกว่านี้อีก ออกข่าวเยอะแยะ
สิ่งที่เราอยากรู้คือเราต้องทำยังไงดี จะย้ายห้องก็ไม่ได้เพราะติดสัญญาอยู่🥲
อีกอย่างเราไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นด้วยค่ะ