ชอบเพื่อนตัวเองแต่ยังเก็บไว้ในใจ

กระทู้คำถาม
คือเราจบ ม.3มาหลายเดือนละแต่ก็นานๆเจอเพื่อนเก่ากันทีแต่เพื่อนผู้ชายก็นิสัยเปลี่ยนไปเยอะจากที่ชอบแกล้งเรามากๆก็กลายเป็นว่าไม่แกล้งและนิสัยดีเราปรึกษากับเพื่อนได้ทุกอย่างแต่ก็ไปหวั่นไหวเอง555เราจบม.3เราก็แยกย้ายกันไปเรียนคนละที่แต่ระแวกเดียวกันนานก็เจอกันทีแต่ก็นัดไปกินข้าวกันเป็นกลุ่มไอ้เราก็ดีใจจะได้เจอบ้างเพื่อนอ่ะเนอะแต่กับไปหวั่นไหวกับเพื่อนผู้ชายคนนั้นคือเวลาเรานัดกันไปคือเป็นกลุ่มใหญ่อ่ะเราก็ไม่กล้าชวนคุยอะไรมากมายกลัวเขาลำคาน😓ทุกครั้งก็แบบนี้แหละเก็บไว้ในใจไม่กล้าบอกให้ใครรู้ด้วยจนกระทั่งห่างหายกันประมาณ2-3ปีได้ที่ไม่ได้นัดเจอกันบ้างตอนนี้เราอยู่ปตรีปี2เราก็ปรึกษาเรื่องเรียนกับเขาแต่เรียนคนละที่นะแต่ก็รู้สึกหวั่นไหวอีกกลัวเสียเพื่อนแต่ก็อยากจีบเฮ้อทำไงดีคะทุกคนตอนนี้คือนอนไม่หลับเพราะชอบจริงๆเพราะรู้สึกว่าชอบครั้งนี้เราโตมากมีความรับผิดชอบหลายๆ อย่างแต่ก็ไม่รู้จะชวนคุยยังไงดีเพราะไม่สนิทกัน😊 โปรดชี้แนวทางด้วยนะทุกคน🙏🙏🙏
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
มีนิทานเรื่องนึง

https://tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=1621&pageid=7&read=true&count=true

เกี่ยวข้องกับวาสนาต่อกัน

ซึ่งผมจะขออนุญาตรีเฟอร์มา

เป็นนิทานอีกเรื่องนึงที่ลักษณะคล้ายคลึงกัน

มีศพลอยมาติดที่ชายหาด ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง

คนแรกเดินผ่านมา เห็นศพนี้ แล้วรู้สึกรังเกียจ รีบอุดจมูกแล้วเดินเลี่ยงออกไปไกลๆ
บุคคลนี้ก็คือคนที่ไม่มีดวงสมพงกับเรา และค่อนข้างออกไปทางรังเกียจ

จากนั้นศพก็ยังอยู่ที่เดิม กลิ่นยิ่งแรงขึ้น
คนที่สองเดินผ่านมา เห็นแล้วรู้สึกเวทนาอุจาดตา เผลิญเห็นต้นกล้วยอยู่แถวนั้น เลยตัดใบตอง2-3 ใบมาคลุมเอาไว้แล้วเดินจากไป
บุคคลผู้นี้ก็คือคนที่รู้จักผ่านหน้าผ่านตา แต่ไปๆมาๆก็มีอันต้องแยกย้ายกันไปเหมือนคนไม่รู้จักกัน

คนที่ สาม เดินมา เห็นอะไรปิดอยู่แถมมีกลิ่นหลุดลอยออกมาได้เลยเปิดแง้มดูแล้วเรียกหาคนแถวนั้นให้มาช่วยจัดการไป เมื่อมีคนมาจัดการก็เดินจากไป
บุคคลผู้นี้ก็คือคนที่เคยเข้ามาเป็นเพื่อนกันในช่วงเวลานึง ระยะเวลานึงแต่สุดท้ายก็มีอันต้องแยกย้ายจากกันไป

ย้อนกลับไปตอนคนที่ สาม มา
คนที่ สี่ ได้ยินเสียงตระโกนจึงเข้ามาดู พบว่าเขากำลังเรียกหาคนจัดการศพ จึงออกหน้าเป็นธุระเรียกมูลนิธิและเป็นหัวหอกให้ปอเต็กตึ๊งนำศพไปฝากไว้ที่สุสานคนไร้ญาติหรือพิสูจน์อัตลักษณ์ พร้อมร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ด้วย
บุคคลนี้คือผู้ที่สร้างบุญกุศลมา จะมาในรูปแบบเพื่อนสนิทมากๆก็ได้ หรือมาเป็นคู่ครองกันก็ได้ หรือเกิดมาเป็นพ่อแม่ลูกญาติพี่น้องก็ได้

จากสิ่งที่ผมนำมาเล่านี้ โดยปรับปรุงเนื้อหาให้มันทันสมัย

จึงสรุปได้ว่า

ทุกคนที่เราประสบพบเจอกันมาตั้งแต่เด็กจนโตยันแก่ชราแล้วตายจากกันนั้น
มันมีระดับของการเข้ามาเกี่ยวข้องกัน ที่แตกต่างกัน

ดังนั้น

หากว่าสิ่งใดมันจะนำพามา มันก็อยู่ที่ว่า
ถ้าหากเราเป็นศพร่างนั้น เขาเข้ามาเป็นบุคคลในลักษณะใดๆ


แล้วบางคนบอกว่า

ชีวิตนี้มันลิขิตเองไม่ใช่เหรอ?

ใช่มันลิขิตเองถูกต้อง

แต่ก่อนที่เราอยากจะลิขิตสิ่งใดใหม้มันเกิดขึ้นมา

มันต้องเกิดจากความรู้สึกอะไรบางอย่างก่อน จริงมะ?

ถ้าหากเรา ความรู้สึกนึกคิดเรา อยากจะไปตามง้อ ตามตื้อ ตามหา ไปราวี ไปลิขิตให้เขามารักทำไมกัน?
ก็เราเองก็ไม่ชอบเค้าด้วยซ้ำ จะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร?

แล้วต่อให้เราจะรู้สึกชอบใครซักคนนึงแบบคะนึงหาทุกวี่วัน แต่นานแล้วนานเล่าก็ไม่เคยประสบผลสำเร็จในการสานสัมพันธ์อีกเลย
จนกระทั่งแยกย้ายกันไปจนอยู่คนละทิศคนละทางไปแล้ว ต่อให้เราจะพยายามลิขิตเองอย่างไร สุดท้ายเราก็ไปลงเอยกับคนอื่นอยู่ดี

เพราะบุคคลทั้ง 4 ประเภทที่ยกตัวอย่างมานี่ มันคือต่างกรรมต่างวาระที่ปฏิบัติต่อกันมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่