สิ่งที่จักรวาล Breaking Bad เป็น และยึดมั่นเสมอมาคือการนำเสนอตัวตนของคน และสอนให้เราได้รู้ว่ามันจะดีแค่ไหนที่คุณรู้จักตัวคุณเอง
Saul Goodman และ Walter White นั้นช่างเหมือนกันเสียเหลือเกิน หากมองมุมที่ซีรีย์นำเสนอ นั่นคือแต่ละคนนั้นชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ และไม่ว่าจะรู้สึกผิดบาปกับผลของการกระทำของตัวเองซักเท่าไหร่ พวกเขาก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรมันได้เลย บางทีอาจคงเป็นเพราะ ทุกอย่างมันเกินควบคุมแล้ว ที่ทำได้คงเป็นเพียงเต้นรำไปกับทำนองความพินาจที่ตัวเองก่อกระมัง
พวกเขาทั้งคู่ล้วนชอบสิ่งที่ตนทำมากอย่างหมดหัวใจ และให้ตายสิ กูเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ว่ะ

สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Saul Goodman และ Walter White ก็คงจะเป็นแรงผลักดันนั่นเอง
Walter White ถูกผลักด้วยวิกฤติต่างๆที่ตนเองได้รับ ชีวิตที่แทบจะสิ้นหวังในทุกๆด้าน มีเพื่อน เพื่อนก็ทรยศ มีลูกเล็กทั้งๆที่อายุก็ปาเข้าไปบั้นปลายชีวิตแล้ว แถมยังมีโรคร้ายที่คอยรังควานอยู่อีก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนผลักให้เขาทำสิ่งที่ต้องทำ ตัวจะตายอยู่แล้ว อย่างน้อยทำเงินใว้ให้ครอบครัวอยู่สบายหน่อยเถอะ และแม้เขาจะรู้สึกผิดในทีแรกที่จะต้องมาปรุงยาไอซ์ อาจจะด้วยม่านแห่งศิลธรรม หรือสิ่งที่มนุษย์คนไหนซักคนกล่าวใว้ว่า " สิ่งนั้นไม่ดี " กระมัง
แต่พระเจ้าเหมือนเล่นตลก เพราะเขาก็เพิ่งมารู้ตัวเอาทีหลังว่า ไอ้สิ่งผิดกฏหมายที่เขากำลังกระทำอยู่นั่นน่ะ มันโคตรจะเป็นสิ่งที่เขาชอบเลย
Walter สนุกกับการปรุงยา มันสร้างความหวังให้ดวงตาเขามีประกายในการใช้ชีวิตอีกครั้ง จนผลักให้จากครูเคมีแก่ๆคนนึง ไปเป็นโคตรพ่อโคตรแม่เจ้าพ่อค้ายาที่ประเทศจะต้องจดจำไปอีกหลายยุคสมัย
กลับกัน
Saul Goodman รู้ตัวเองเสมอมา ว่าตนนั้นมีความสุขกับอะไร เขาชอบหลอกลวงผู้คน และมันโคตรจะดีเข้าไปใหญ่ ถ้าไอ้การหลอกลวงนั่นน่ะ มันทำเงินให้เขาด้วย
Saul ใช้ชีวิตอยู่กับมันอย่างไม่เคยเสียใจแม้แต่วันเดียวกับสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป ไม่เคยแม้เเต่ครั้งเดียวที่จะไปแยแสกับคนที่ได้รับผลกระทบกับสิ่งที่ตนได้ทำใว้ นอกจากหันข้างมามองและยิ้มที่มุมปากอย่างซะใจเท่านั้น
สิ่งที่ชัดเจนตรงนี้สังเกตได้จากตอนสุดท้ายของซีรีย์นั่นเองที่เนื้อเรื่องจะพยายามให้เราได้เห็นฉากที่ตัวละครพูดถึงเครื่องย้อนเวลา หรือการย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตผ่านตัวละครเอกหลายๆคน
ปรากฏว่าสิ่งที่ Saul อยากย้อนกลับไปแก้ไขมันเป็นเพียงความผิดพลาดโง่ๆแปลกๆเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่ระดับพลิกชีวิตได้ซักเรื่อง
ฉะนั้นตลอดเวลาที่เราได้เฝ้าติดตามชิวิต Saul Goodman มาหลายปี มันคือการได้ดูชีวิตของคนคนนึงที่ใช้ชีวิตได้ดังที่ตัวเองหวัง ไม่ว่ามันจะสุข เศร้า เคล้าน้ำตาซักแค่ไหน Saul ก็ยังคงคิดว่าสิ่งนั้น มันช่างดีจริงๆ
ประโยคนี้ที่ Walter ได้กล่าวใว้ มันสามารถนำมาใช้ได้กับ Saul ด้วยเช่นกัน แค่ต่างกันตรงที่ Walter ใช้เวลากว่าหลายปีในการจะยอมรับมันได้
ขณะที่ Saul ยอมรับมันตั้งแต่วินาทีแรกที่เขารู้จักตัวเองซะด้วยซ้ำ
แม้กระทั่งในช่วงสุดท้ายของชีวิต Saul ก็ยังคงใว้ลายเสมอ เขายังสนุกกับการปั่นหัวผู้คนอยู่ร่ำไป ใช่แล้ว อย่างที่เขาบอกจริงๆ ว่าเขาเห็นตัวเองอยู่จุดสูงสุดเสมอ
ช่างเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าเสียเหลือเกิน
[CR] Better Call Saul : I Did It For Me. I Liked It
Saul Goodman และ Walter White นั้นช่างเหมือนกันเสียเหลือเกิน หากมองมุมที่ซีรีย์นำเสนอ นั่นคือแต่ละคนนั้นชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ และไม่ว่าจะรู้สึกผิดบาปกับผลของการกระทำของตัวเองซักเท่าไหร่ พวกเขาก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรมันได้เลย บางทีอาจคงเป็นเพราะ ทุกอย่างมันเกินควบคุมแล้ว ที่ทำได้คงเป็นเพียงเต้นรำไปกับทำนองความพินาจที่ตัวเองก่อกระมัง
พวกเขาทั้งคู่ล้วนชอบสิ่งที่ตนทำมากอย่างหมดหัวใจ และให้ตายสิ กูเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ว่ะ
สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Saul Goodman และ Walter White ก็คงจะเป็นแรงผลักดันนั่นเอง
Walter White ถูกผลักด้วยวิกฤติต่างๆที่ตนเองได้รับ ชีวิตที่แทบจะสิ้นหวังในทุกๆด้าน มีเพื่อน เพื่อนก็ทรยศ มีลูกเล็กทั้งๆที่อายุก็ปาเข้าไปบั้นปลายชีวิตแล้ว แถมยังมีโรคร้ายที่คอยรังควานอยู่อีก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนผลักให้เขาทำสิ่งที่ต้องทำ ตัวจะตายอยู่แล้ว อย่างน้อยทำเงินใว้ให้ครอบครัวอยู่สบายหน่อยเถอะ และแม้เขาจะรู้สึกผิดในทีแรกที่จะต้องมาปรุงยาไอซ์ อาจจะด้วยม่านแห่งศิลธรรม หรือสิ่งที่มนุษย์คนไหนซักคนกล่าวใว้ว่า " สิ่งนั้นไม่ดี " กระมัง
แต่พระเจ้าเหมือนเล่นตลก เพราะเขาก็เพิ่งมารู้ตัวเอาทีหลังว่า ไอ้สิ่งผิดกฏหมายที่เขากำลังกระทำอยู่นั่นน่ะ มันโคตรจะเป็นสิ่งที่เขาชอบเลย
Walter สนุกกับการปรุงยา มันสร้างความหวังให้ดวงตาเขามีประกายในการใช้ชีวิตอีกครั้ง จนผลักให้จากครูเคมีแก่ๆคนนึง ไปเป็นโคตรพ่อโคตรแม่เจ้าพ่อค้ายาที่ประเทศจะต้องจดจำไปอีกหลายยุคสมัย
กลับกัน
Saul Goodman รู้ตัวเองเสมอมา ว่าตนนั้นมีความสุขกับอะไร เขาชอบหลอกลวงผู้คน และมันโคตรจะดีเข้าไปใหญ่ ถ้าไอ้การหลอกลวงนั่นน่ะ มันทำเงินให้เขาด้วย
Saul ใช้ชีวิตอยู่กับมันอย่างไม่เคยเสียใจแม้แต่วันเดียวกับสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป ไม่เคยแม้เเต่ครั้งเดียวที่จะไปแยแสกับคนที่ได้รับผลกระทบกับสิ่งที่ตนได้ทำใว้ นอกจากหันข้างมามองและยิ้มที่มุมปากอย่างซะใจเท่านั้น
สิ่งที่ชัดเจนตรงนี้สังเกตได้จากตอนสุดท้ายของซีรีย์นั่นเองที่เนื้อเรื่องจะพยายามให้เราได้เห็นฉากที่ตัวละครพูดถึงเครื่องย้อนเวลา หรือการย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตผ่านตัวละครเอกหลายๆคน
ปรากฏว่าสิ่งที่ Saul อยากย้อนกลับไปแก้ไขมันเป็นเพียงความผิดพลาดโง่ๆแปลกๆเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่ระดับพลิกชีวิตได้ซักเรื่อง
ฉะนั้นตลอดเวลาที่เราได้เฝ้าติดตามชิวิต Saul Goodman มาหลายปี มันคือการได้ดูชีวิตของคนคนนึงที่ใช้ชีวิตได้ดังที่ตัวเองหวัง ไม่ว่ามันจะสุข เศร้า เคล้าน้ำตาซักแค่ไหน Saul ก็ยังคงคิดว่าสิ่งนั้น มันช่างดีจริงๆ
ประโยคนี้ที่ Walter ได้กล่าวใว้ มันสามารถนำมาใช้ได้กับ Saul ด้วยเช่นกัน แค่ต่างกันตรงที่ Walter ใช้เวลากว่าหลายปีในการจะยอมรับมันได้
ขณะที่ Saul ยอมรับมันตั้งแต่วินาทีแรกที่เขารู้จักตัวเองซะด้วยซ้ำ
แม้กระทั่งในช่วงสุดท้ายของชีวิต Saul ก็ยังคงใว้ลายเสมอ เขายังสนุกกับการปั่นหัวผู้คนอยู่ร่ำไป ใช่แล้ว อย่างที่เขาบอกจริงๆ ว่าเขาเห็นตัวเองอยู่จุดสูงสุดเสมอ
ช่างเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าเสียเหลือเกิน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้