Snow White (2025) Experience It In IMAX (5.5/10) l จาก Snow White สู่ Snow Woke (สปอยล์)

Snow White



เรื่องย่อ
Disney’s Snow White สโนว์ไวท์ คือภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันมิวสิคอล ที่สร้างจากภาพยนตร์สุดคลาสสิคเมื่อปี 1937 จะเข้าฉาย 20 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์ แสดงโดย เรเชล เซกเลอร์ (“West Side Story”) ในบทนำ และ กัล การ์ด็อท (“Wonder Woman”) ในบทแม่เลี้ยงใจร้าย การผจญภัยเคล้าเสียงเพลงสุดอัศจรรย์จะนำคุณย้อนกลับไปในเรื่องราวที่ไม่เก่าไปตามกาลเวลา ร่วมเหล่าด้วยตัวละครที่คุณรัก แบชฟูล ด็อก โดปี้ กรัมปี้ แฮปปี้ สลีปปี้ และ สนีซี่ Disney’s Snow White สโนว์ไวท์ กำกับโดย มาร์ค เว็บบ์ (“The Amazing Spider-Man”) และ อำนวยการสร้างโดย มาร์ค แพลตต์ (“The Little Mermaid”) และ จาเรด เลบอฟ (“The Girl on the Train”) ร่วมด้วย แคลลัม แมคโดกาลล์ (“Mary Poppins Returns”) ในตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างฝ่าย และยังได้เพลงประกอบใหม่จาก เบนจ์ พาเซ็ก และ จัสติน พอล อีกด้วย (“Dear Evan Hansen”)


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีอาณาจักรหนึ่งตั้งอยู่ริมป่ามหัศจรรย์ ที่ซึ่งความงดงามและแสงแห่งความอบอุ่นปกคลุมไปทั่ว อาณาจักรแห่งนี้ปกครองโดยกษัตริย์และราชินีผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและคุณธรรม ทั้งสองมีพระธิดานามว่า Snow White แต่เมื่อราชินีจากไปอย่างกะทันหัน กษัตริย์จึงทรงอภิเษกใหม่ แม้ว่าพระมเหสีองค์ใหม่จะงามสง่าและเลอโฉม แต่แท้จริงแล้วพระนางมีจิตใจโหดร้ายและเกลียดชังลูกเลี้ยงของตนเอง

ไม่นานนัก Evil Queen ก็ก้าวขึ้นครองบัลลังก์ และเผยความโหดเหี้ยมของพระนางออกมา เมื่อกระจกวิเศษบอกว่า Snow White เป็นหญิงที่งามที่สุดในปฐพี พระนางจึงโกรธเกรี้ยวและวางแผนกำจัดเจ้าหญิง Snow White จึงหนีออกจากปราสาทเพื่อรอดพ้นจากเงื้อมมือของ Evil Queen และได้พบกับเหล่าสัตว์ป่าใจดีที่พาเธอไปยังกระท่อมเล็กๆ อันงดงามกลางป่า ที่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของตัวละคร Bashful, Doc, Dopey, Grumpy, Happy, Sleepy และ Sneezy ซึ่งมีอาชีพขุดหาอัญมณีในเหมืองใกล้เคียง  

ในป่ามหัศจรรย์นี้เองที่ Snow White ได้พบกับ Jonathan ชายหนุ่มผู้กล้าท้าทายอำนาจของราชสำนัก Jonathan หลงใหลในความงามและจิตใจดีของเธอ และร่วมมือกับเหล่าผองเพื่อนที่มีเวทมนตร์ของ Snow White เพื่อช่วยให้เธอค้นพบเสียงของตัวเอง พร้อมกับความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับ Evil Queen


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

บอกเลยว่า อุตส่าห์เปิดใจดูแล้ว และไม่เชื่อเสียงรีวิว ว่าจะแย่ขนาดนั้น แต่รู้แล้ว ว่ารอบสื่อคืออวยฉ่ำ เพราะหลังจากหนังฉายจริง คือคนสับเละมาก

ถึงจะบ่นไป ว่าแคสไม่ตรง สุดท้ายด้วยความที่ชอบเจ้าหญิงดิสนี่ย์ ก็ต้องดูอยู่ดี อย่างThe Little Mermaid สุดท้าย ก็ดูIMAX เหมือนกับเรื่องนี้
สมัยนี้ราคาค่อนข้างสูงมาก ที่ที่เราไปดู คือครึ่งใบเทาเลย แต่เรื่องนางเงือก ถึงแม้ไม่อินกับนางเอก แต่ความสนุก คุณภาพ งานภาพดีกว่าเยอะมาก





ความรู้สึกส่วนตัวหลังดูจบ

ไม่สนุก เล่าเรื่อง และดำเนินเรื่อง ไม่น่าสนใจ ชวนง่วง หลายๆฉากน่าเบื่อ ไม่มีความตื่นเต้น น่าสนใจ เหมือนดูละครคุณธรรม ที่บท การเล่าเรื่อง มันไม่สนุกเลย ไม่ได้ผูกพันธ์หรืออินกับตัวละครเลย แอนิเมชั่นยังสนุกกว่า




บทไม่ได้เลย เป็นSnow White ที่ไม่มีความเป็นSnow White เลย ดิสนี่ย์ปรับเปลี่ยนทุกอย่างเยอะมาก แบบไม่เคารพต้นฉบับระดับตำนานเรื่องแรกของตัวเองเลย
จากเจ้าชายรูปงาม มาเป็นโจรอย่างงี้ คืองงมาก
ฉากที่ควรอิมแพคหรือฉากสำคัญๆ ใส่มาแค่ฉาบฉวย ให้เหลือความเป็นต้นฉบับไว้แค่นั้น
กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษ หลังกี่โมง? ความผูกพันธ์ของสโนไวท์ เกิดขึ้นตอนไหน คือเราแทบไม่ได้ความรู้สึกนี้เลย ไปโฟกัสที่อะไรไม่รู้
แล้วพวกกลุ่มกบฎใส่มาทำไม? ความหลากหลาย?
มันไม่ได้เลย ไม่เข้ากับหนังด้วย เวลาที่กลุ่มนี้ออกมา รู้สึกว่ามันคือส่วนเกินจริงๆ ขัดใจมาก
Wokeเกิน อะไรที่มันดีอยู่แล้ว แค่ทำเหมือนต้นฉบับ แคสให้ตรง ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเยอะ เพราะของมันดีอยู่แล้ว และอยู่ในความทรงจำของทุกคน คือแทบจะทุกคน รู้จักสโนไวท์ ไม่ว่าจะหนังสือหรือผนังในห้องสมุดสมัยเรียน การ์ตูนแอนิเมชั่นต้นฉบับสุดคลาสสิคที่เคยดู
เคารพต้นฉบับ และเพิ่มความสนุกเข้ามานิดหน่อย
ถ้าจะใส่ความสมัยใหม่ แค่ใส่เพลง เพราะๆ แบบนี้สมควรอยู่ แต่ถ้าจะมาปรับซะ เสน่ห์ของต้นฉบับไม่มี แบบนี้อย่าทำเลย เขียนบทใหม่ ตั้งชื่อเรื่องใหม่ จบ!



คือที่ผ่านๆมา ดิสนี่ย์คงจะยังได้บทเรียนไม่พอ ไม่ว่าจะมู่หลานหรือนางเงือก ถ้าเคารพต้นฉบับ แคสดีๆ เลิกWokeในสิ่งที่ไม่ควรWoke ก็พันล้าน และสนุกแบบอลาดินหรือโฉมงามไปแล้ว สนุกจริง เพราะตอนเป็นการ์ตูนก็สนุกอยู่แล้ว

อย่างซินเดอเรล่า เนื้อเรื่องก็เรียบง่าย แบบสโนไวท์ แต่ก็ทำออกมาสนุก ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ผู้กำกับมือไม่ถึงหรือโดนคำสั่งดิสนี่ย์เยอะ ส่วนตัวมองว่าข้อหลัง เพราะผลงานที่ผ่านมาของMarc Webb อย่างThe Amazing Spider-Manทั้ง2ภาค สำหรับเราคือสนุกมาก โคตรชอบเลย เรื่องนี้ไม่น่าพลาดได้
จะว่าไม่เคยกำกับหนังเจ้าหญิงหรือมิวสิคัลก็ไม่ใช่
อย่างGuy Ritchie ที่เราไม่ชอบผลงานSherlock Holmes คือดูแล้วงงๆ แต่พอมาทำAladdin คือไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะทำออกมาดีมากขนาดนี้ และสนุก เป็นอีกหนึ่งเรื่องโปรด ในบรรดาLive-Actionเลย Speechless ของนาโอมิ คือตราตรึง นี่แหละตรงปก และจริตเจ้าหญิงดิสนี่ย์ของจริง มันต้องแบบนี้




CGบางฉากสวยมาก บางฉากคือไม่ได้เลย ลอยมาก ยิ่งฉากมุมสูง และฉากจุมพิต คือไม่ได้เลย เบลอมากก ดิสนี่ย์ปล่อยผ่านงานแบบนี้มาเรื่องที่2แล้วช่วงนี้ เรื่องก่อนหน้า ก็กัปตัน ถ้าไม่ไหวควรพักก่อน เข้าใจว่ามีปัญหาหลายอย่าง และถ่ายแก้ และซ่อมหลายเรื่อง แต่การที่ปล่อยงานไม่มีคุณภาพแบบนี้ออกมา เหมือนเป็นการลดความเชื่อมั่น และฐานลูกค้าไปเรื่อยๆ สังเกตุจากรายได้ใช่ช่วงหลังๆ ยิ่งดูในIMAXนะ หลายๆฉากคือโคตรเบลอ เท่าที่ดูน่าจะถ่ายในสตูดิโอซะส่วนใหญ่ แล้วงานแก้ งานรีบ เลยมีบางฉากที่สวย อลัง ในตอนที่ดูIMAXมันยิ่งใหญ่ และฉากลอยๆ ที่เยอะมาก จนไม่น่าให้อภัย รู้สึกเสียดายเงินมาก ที่ดูIMAX เพราะภาพ และเสียงเลย เสียงผ่าน แต่ภาพส่วนมาก ไม่รอด เป็นCGที่ไม่เนียนเลย เข้าใจว่าให้ฟีลเทพนิยาย ก็สวยจริง แต่หลายฉาก ก็โป๊ะจริง
และมีส่วนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว ทั้งที่ฉากเดียวกัน อย่างสู้กันในป่า คือแบบ ป่าจริงๆเลย ไม่มีCGใดๆ โล่งๆ พอแพลนกล้องมาอีกด้านนึง คือแบบเทพนิยาย ฟรุ้งฟริ้ง คือแบบ จะบ้าาา








นักแสดงเล่นดีมาก ถึงจะปากแจ๋ว แต่เรื่องการแสดง อินเนอร์ และเสียงร้อง คือเพราะจริง ส่วนที่ดีก็ต้องชื่นชม ถึงจะมีข้อดี แต่นางก็ไม่ใช่สโนไวท์
เพราะไม่รวมดราม่า สีผิว แคสไม่ตรง ปากแจ๋ว หลายๆอย่าง ก็ไม่ใช่สโนไวท์อยู่ดี เพราะสโนไวท์ แววตา ความไร้เดียงสา ใสๆ คือต้องมี แต่เรเชล ไม่มีเลย ดูดุเกิน แล้วสีผิว คือทาปากแดง แบบต้นฉบับทำไมก่อน ในเมื่อแคสก็ไม่ตรงปกละ แล้วผิวสีนี้ ทาปากแดง คือมันไม่ได้จริงๆ ไม่ส่งเลย แล้วดูโป๊ะ แดงแบบอุทัยทิพย์อะ คืออันนี้ก็ขัดใจตลอดทั้งเรื่อง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ดราม่าคือเยอะมาก และรายได้ทั่วโลกตอนนี้คือเจ๊งสนิท ดิสนี่ย์คงอยากจะฉายเรื่องนี้ให้จบๆไป เพราะถ้าดิสนี่ย์จะรู้ว่าดราม่า และปากแจ๋วขนาดนี้ คงไม่แคสมาแต่แรก เพราะเรื่องนี้ แคสก่อนWest Sideที่นางได้รางวัลอีก แต่ดันฉายหลัง นางคงได้บทนี้ มาเพราะความสามารถจริงๆ แต่พังเพราะปาก ถ้าไม่ปากแจ๋ว น่าจะไม่ตุ๊บแรงขนาดนี้ อย่างแอเรียล นางมีดราม่า แต่ตอบโต้นิดหน่อย ละเงียบ คนเลยไม่เกลียดเยอะ แต่ราเชลคือทุกแมต แถมว่าบทบาทที่ตัวเองเล่นด้วย คนเลยยิ่งไม่ชอบ คิดว่านางคงจะมีผลงานในวงการน้อยลงแน่ๆ เพราะค่ายหนังน่าจะกลัวดราม่า ถึงความสามารถจะล้นเหลือก็ตาม ขนาดรอบสื่อ ยังจำกัดคน และงดสัมภาษณ์เลย

แม่กัล สวย สง่า เรื่องร้องเพลง ไม่ติด แต่การแสดง ยังเป็นตัวแม่ตัวมัม ตัวควีน ตัวมารดาไม่ได้ ฉากร้องเพลง คือเพลงดี แต่การแสดงมันดูตลกมาก คือเขาต้องการให้แอคติ้งเป็นแบบนี้หรือเพราะการแสดง แต่มันไม่ค่อยได้เลย

เจ้าชาย แคสมาดี หล่อ




ดนตรีประกอบ ทำดี บิวท์อารมณ์ได้เยอะ และเข้ากับทุกฉาก และทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร ที่มีการแสดงที่ดี ได้บ้าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


และส่วนที่ดีงามที่สุดของหนังเรื่องนี้ และเป็นเรื่องเดียว คือเพลง คือชื่นชม เพลงเพราะมาก ดีทุกเพลง แต่บท ตัวละคร การเล่าเรื่อง ดำเนินเรื่อง ไม่ส่งเลย หนังที่ควรจะออกมาดี เลยเป็นอย่างที่เห็น

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ








ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ

เรื่องนี้นอกจากแคสแล้ว หลักๆเลย คือตัวบท บทไม่รอด เนื้อเรื่องน่าเบื่อ การดำเนินเรื่องไม่สนุก ไม่แปลกที่เสียงรีวิวหลังฉายจริง จะตรงกันข้ามกับรอบสื่อ อะไรที่มันไม่ได้ ก็คือไม่ได้จริงๆ แอเรียลว่าอย่างงั้นนะ ยังดีกว่านี้ และบันเทิงกว่าเยอะ
เรื่องนี้นอกจากเพลงแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย

สำหรับคะแนนความชอบ ขอให้แค่ 5.5/10 คะแนนพอ

ทีแรกจะให้ 6 แต่เจอฉากจบ ลบไป -0.5 ไม่มีความอิมแพคหรืออย่าเรียกว่าฉากไคล์แมกซ์เลยดีกว่า ตดยังไม่ทันหายเหม็นเลย จบละ เหมือนทั้งเรื่อง ไม่มีความหมาย

แต่อย่างไรก็ตาม อย่าเชื่อรีวิวเรา เพราะเราชอบ และไม่ชอบอะไร ที่ไม่เหมือนใคร และความชอบทุกคน ล้วนแตกต่าง อยากให้ลองไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง

ใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กัน

https://www.facebook.com/MouthMoyMovie

#SnowWhite #SnowWhiteMovie #SnowWhite2025







แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่