สวัสดีค่ะ ก็ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะคะ เกิดขึ้นกับเราในช่วงที่เราอยู่มัธยมค่ะ เราเป็นเด็กกิจกรรม ทุกวันตอนพักเที่ยงและหลังเลิกเรียน เราต้องไปนั่งทำโครงงานที่สหกรณ์ของโรงเรียน เพราะครูที่ปรึกษาโครงงานของเราอยู่ที่นั้น ก่อนจะถึงวันแข่ง ตอนนั้นทางโรงเรียนได้จัดทัศนศึกษาไปเที่ยวกัน เป็นการไปเที่ยวแบบเลือกไปเที่ยวกับกลุ่มสาระ แต่ละกลุ่มสาระจะกำหนดสถานที่เที่ยวมา แล้วถ้าเราอยากไปเราก็ไปลงชื่อกับกลุ่มสาระนั้น ไม่จำเป็นต้องไปกันทั้งห้อง เราเลือกไปเที่ยวกับกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ค่ะ ไปเที่ยวที่จังหวัดเลย เราไปกับกลุ่มเพื่อนประมาณ 3 คนค่ะ พอถึงวันเดินทาง ก็มีน้องคนหนึ่ง น่าจะอยู่ ม.1 เป็นเด็กผู้หญิง ขอแทนชื่อว่าน้อง A นะคะ คือเพื่อนน้อง A ไม่สามารถไปเที่ยวกับน้อง A ได้ น้อง A เลยต้องจำใจไปเที่ยวคนเดียวค่ะ เรากับเพื่อนสงสาร เลยชวนน้องมาเที่ยวด้วยกัน หลังจากวันนั้นเรากับน้องAก็สนิทกันค่ะ เราก็กลับมาทำโครงงานเตรียมแข่งต่อ ต้องบอกก่อนนะคะว่าที่โรงเรียนของเรา จะมีลูกครึ่งอยู่คนหนึ่งค่ะ เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น สาวครึ่งโรงเรียนคือ ชอบพี่เขาไปแล้ว 555 ขอแทนพี่เขาว่าพี่ B นะคะ จนวันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันสัปดาห์วิทยาศาสตร์ โรงเรียนก็จะจัดงาน จนพอถึงช่วงหลังเลิกเรียน วันนั้นเราไม่ได้ไปทำโครงงานต่อ เพราะครูให้พักค่ะ แล้วเรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ขอเรียกแทนเพื่อนคนนี้ว่า C แล้วกันนะคะ เรากับ C ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ แทบไม่ได้คุยกันเลย แม้จะอยู่ห้องเดียวกัน ตอนนั้นเรากำลังจะเดินกลับบ้าน แล้วซีก็เดินมาหาเรา แล้วยื่นโถแก้วที่มีดาวกระดาษเต็มโหลเลยมาให้เราค่ะ C บอกเราว่า แก ช่วยเอาโหลแก้วไปให้พี่คนนั้นหน่อยสิ แล้ว C ก็ชี้ไปที่พี่คนหนึ่ง ซึ่งก็คือพี่ B ค่ะ เราเลยมองดูแก๊งเพื่อนที่พี่ B นั่งด้วย ปรากฎว่ามีน้อง A นั่งอยู่ค่ะ น้องที่เราสนิทด้วย เราก็เลยตอบตกลง แล้วเดินเข้าไปหาแก๊งพวกพี่ B พอเราเดินไปถึง ทุกคนก็หันมามองเราค่ะ เราเลยแก้เขินโดยการทักน้อง A โชคดีค่ะที่น้อง A จำเราได้ เราก็คุยกับน้อง A แบบ สนิทมากกก จนน้อง A บอกว่า งั้นหนูกลับบ้านก่อนนะ แล้วน้อง A ก็เดินออกไป เราเลยสบโอกาส ยื่นโถแก้วไปให้พี่ B ค่ะ แล้วบอกว่า เพื่อนฝากมาให้ค่ะ พอเรากำลังจะเดินกลับ เราก็หากระเป๋าที่เราวางไว้ข้าง ๆน้อง A เมื่อกี้ไม่เจอ เราตกใจมากค่ะ ทุกคนก็ขำเรา แล้วพี่ B ก็ยิ้ม แล้วก็หยิบกระเป๋าผ้าเราขึ้นมากอดไว้ ตอนนั้นเเราไม่ได้เขินนะคะ เราหงุดหงิด เพราะเลยเวลากลับบ้านเรามานานแล้ว เราเลยเดินไปหาพี่ B แล้วบอกว่า ขอกระเป๋าคืนด้วยค่ะ พี่เขาก็เหมือนจะแบบ ตกใจ แล้วยื่นกระเป๋าให้ พอเราหยิบกระเป๋าได้เราก็รีบไหว้ทุกคนแล้วเดินกลับบ้าน เช้าวันต่อมา เราก็มาโรงเรียนตามปกติค่ะ เรารู้สึกเหมือนมีคนวิ่งตามหลังเรา แต่ก็คิดว่า เราคงคิดไปเองแหละ เราก็รีบเดินเร็วขึ้น แล้วเราก็รู้สึกเหมือนมีคนมาดึงกระเป๋าค่ะ พอเราหันไป พี่ B เป็นคนดึงค่ะ เราถามว่าทำอะไรเนี้ย พี่B ก็บอกว่า เรื่องเมื่อวาน โกรธไหม ขอโทษ เราก็ งง ค่ะ คือเราลืมไปแล้ว เราเลยตอบว่า โอเค แล้วเราก็เดินเอากระเป๋าไปวางไว้ที่หน้าห้องสมุด เพื่อจะไปเข้าแถว พี่เขาก็เดินตามเรามา แล้วเอากระเป๋ามาวางไว้ข้าง ๆ กระเป๋าเรา เราก็ไม่ได้คิดอะไร แล้วไปเข้าแถว พอขึ้นห้อง C ก็ถามเราว่าพี่ B ว่าไงบ้าง เราก็บอกว่า พี่เขาก็โอเคนะ แต่ไม่ได้บอกไร C ต่อนะคะ พอตอนเที่ยงเราก็ไปซ้อมโครงงาน ทันทีที่ถึงสหกรณ์ เราก็เห็นพี่ B ยืนขายของอยู่ในสหกรณ์ค่ะ มิน่า สาวถึงเต็มสหกรณ์เชียว พี่เขาเห็นเราแล้วก็ยิ้มทักค่ะ เราก็หลบหน้า รีบซ้อมรีบกลับห้อง หลังจากนั้น พี่เขาก็พยายามจะตีสนิทเรา ทั้งชวนเราไปซื้อขนมกินหลังโรงเรียน เดินไปส่งกลับบ้าน หรือจะแอบเอากระเป๋ามาวางไว้ข้าง ๆ กระเป๋าเราตลอด (กระเป๋าเราจะมีพวงกุญแจที่เป็นป้ายชื่อเราอยู่นะคะ) เราก็เริ่มสนิทกันค่ะ สนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหลายคนคิดว่าเราสองคนคบกันค่ะ จนวันหนึ่ง เราเผลอพูดชื่อพี่ B ออกมาระหว่างที่นั่งอยู่ในรถกับตายาย แล้วยายก็พูดขึ้นมาว่า พี่ B เหรอ เป็นยังไงบ้าง เรียนมัธยมแล้วเหรอ โตเร็วดีนิ เราตกใจมาก เลยถามว่า ยายรู้จักพี่ B ด้วยเหรอคะ ยายเราก็ตอบว่า ใช่ แล้วยายก็ไม่ได้เล่าอะไรให้เราฟังต่อค่ะ จนวันหนึ่ง ยายเราก็ไปค้นกระดาษแผ่นหนึ่งค่ะ เป็นกระดาษเก่า ๆ เก่าจนเหลืองแล้ว ในนั้นมีรูปเด็กผู้ชายคนหนึ่งค่ะ ถ่ายกับบ้านหลังเก่า ๆและก็มีคุณยายแก่ ๆ และก็มียายเราถ่ายอยู่ด้วย ยายเราถามว่า จำได้ไหม คนนี้ใคร เรามองหน้าเด็กคนนั้นดูดี ๆ มันคือพี่ B ค่ะ ยายก็เลยเล่าเรืองราวของพี่ B ให้เราฟังค่ะ ยายเราเป็นเหมือนแบบ เป็นนักสังคมสงเคราะห์นะคะ พอเรารู้เรื่องพี่เขา เรารู้เลยว่าพี่เขาคงจะผ่านอะไรมาเยอะมากจริง ๆ กว่าจะได้มาเป็นพี่ B ที่เพอร์เฟ็ค แบบที่สาว ๆ ต่างพากันกรี๊ด หลังจากวันนั้นเราก็เปลี่ยนความคิดที่แย่ ๆ กับพี่แกไปเลยค่ะ ดูเหมือนละครนะคะ แต่เราไม่รู้ว่า ชีวิตคคนเรามันมีอันจะต้องเกี่ยวข้องกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ
ชีวิตหรือละครกันแน่วะ 555